แชร์ผ่าน

windows server 2022 version 21H2 update Error 0x800f0831 แก้ไขอย่างไร

ไม่ระบุชื่อ
2024-12-12T09:43:36+00:00

windows server 2022 version 21H2 update Error 0x800f0831 แก้ไขอย่างไร

Windows Server ความพร้อมใช้งานสูงการจําลองภาพเสมือนและ Hyper-V

คำถามที่ถูกล็อก This question was migrated from the Microsoft Support Community. You can vote on whether it's helpful, but you can't add comments or replies or follow the question. To protect privacy, user profiles for migrated questions are anonymized.

0 ความคิดเห็น
คำตอบที่ยอมรับแล้ว
  1. ไม่ระบุชื่อ
    2024-12-13T01:07:56+00:00

    คําตอบนี้ได้รับการแปลโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้อาจมีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือถ้อยคําแปลก ๆ

    สวัสดี

    โดยทั่วไปรหัสข้อผิดพลาด 0x800f0831 บ่งชี้ถึงปัญหาเกี่ยวกับไฟล์อัปเดตที่สูญหายหรือเสียหายในที่เก็บการอัปเดต ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่คุณสามารถลองแก้ไขปัญหานี้บน Windows Server 2022 เวอร์ชัน 21H2:

    1. เรียกใช้เครื่องมือ DISM:
      • เปิดพรอมต์คําสั่งในฐานะผู้ดูแลระบบ
      • เรียกใช้คําสั่งต่อไปนี้ทีละคําสั่ง: 
          DISM /Online /Cleanup-Image /ScanHealth
  DISM /Online /Cleanup-Image /CheckHealth
  DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth
      • หลังจากคําสั่งเหล่านี้เสร็จสิ้น ให้รีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์ของคุณและลองอัปเดตอีกครั้ง
    2. ตรวจสอบแพ็คเกจที่ขาดหายไป:
      • บางครั้ง ข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเนื่องจากรายการการอัปเดตก่อนหน้านี้หายไป คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแพคเกจที่ขาดหายไปจากแค็ตตาล็อก Microsoft Update ด้วยตนเอง
      • ค้นหาการอัปเดตเฉพาะที่ขาดหายไปและดาวน์โหลด จากนั้นติดตั้งด้วยตนเอง
    3. รีเซ็ตส่วนประกอบ Windows Update:
      • เปิดพรอมต์คําสั่งในฐานะผู้ดูแลระบบ
      • เรียกใช้คําสั่งต่อไปนี้เพื่อหยุดบริการ Windows Update: 
          net stop wuauserv
  net stop cryptSvc
  net stop bits
  net stop msiserver
      • เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ SoftwareDistribution และ Catroot2: 
          ren C:\Windows\SoftwareDistribution SoftwareDistribution.old
  ren C:\Windows\System32\catroot2 Catroot2.old
      • รีสตาร์ทบริการ: 
          net start wuauserv
  net start cryptSvc
  net start bits
  net start msiserver
      • ลองเรียกใช้การอัปเดตอีกครั้ง
    4. ใช้ตัวแก้ไขปัญหา Windows Update:
      • กดเพื่อ Win + I เปิดแอปการตั้งค่า
      • ไปที่ ระบบ  > แก้ไขปัญหา > ตัวแก้ไขปัญหาอื่นๆ
      • ในส่วน "บ่อยที่สุด" ให้ค้นหา Windows Update แล้วคลิก เรียกใช้
    0 ความคิดเห็น

0 คำตอบเพิ่มเติม

เรียงลำดับตาม: มีประโยชน์มากที่สุด
มีประโยชน์มากที่สุด ใหม่ล่าสุด เก่าที่สุด