แชร์ผ่าน


บริการที่จำเป็นสำหรับ Office

หมายเหตุ

สำหรับรายการผลิตภัณฑ์ Office ที่ครอบคลุมโดยข้อมูลความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดดูการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่พร้อมใช้งานสำหรับผลิตภัณฑ์ Office

Office ประกอบด้วยแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ไคลเอ็นต์และประสบการณ์ใช้งานที่เชื่อมต่อ ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้สร้าง สื่อสาร และทำงานร่วมกันได้มีประสิทธิผลมากขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถควบคุมประสบการณ์ที่เชื่อมต่อจำนวนมากซึ่งพร้อมใช้งานสำหรับคุณหรือผู้ใช้ของคุณได้หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบในองค์กร แต่ก็ยังมีชุดบริการที่สำคัญต่อการทำงานของ Office จึงไม่สามารถปิดใช้งานได้ ตัวอย่างเช่น บริการให้สิทธิการใช้งานที่ยืนยันว่าคุณได้รับสิทธิการใช้งาน Office อย่างถูกต้อง ข้อมูลบริการที่จำเป็นเกี่ยวกับบริการเหล่านี้จะรวบรวมและส่งไปยัง Microsoft โดยไม่คำนึงถึงการตั้งค่านโยบายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวอื่นๆ ที่คุณได้กำหนดค่าไว้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูบทความต่อไปนี้:

ถ้าคุณเป็นผู้ดูแลระบบสำหรับองค์กรของคุณ คุณอาจสนใจบทความต่อไปนี้:

รายการบริการที่จำเป็นสำหรับ Office

ตารางต่อไปนี้แสดงรายการบริการที่จำเป็นสำหรับ Office และคำอธิบายของแต่ละบริการ

บริการ คำอธิบาย
การรับรองความถูกต้อง การรับรองความถูกต้องเป็นบริการข้ามแพลตฟอร์มที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ Office  ซึ่งจำเป็นต่อการลงชื่อเข้าใช้ Office เปิดใช้สิทธิการใช้งาน Office เข้าถึงไฟล์ที่จัดเก็บไว้บนระบบคลาวด์ และมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกันในเซสชัน Office ต่างๆ และอุปกรณ์ของคุณ
คลิก-ทู-รัน คลิก-ทู-รันคือเทคโนโลยีการติดตั้งที่ใช้ในการติดตั้งและอัปเดต Office บน Windows ซึ่งจะตรวจหา Office เวอร์ชันใหม่ และดาวน์โหลดและติดตั้งเมื่อมีเวอร์ชันใหม่  คลิก-ทู-รันจะตรวจหาความจำเป็น ดาวน์โหลด และติดตั้งการอัปเดต Office รวมถึงการอัปเดตเกี่ยวกับความปลอดภัย
บริการให้ความยินยอม บริการให้ความยินยอมมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องและครอบคลุมในการจัดการการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีของพวกเขา บริการนี้ใช้เพื่อกําหนดว่าข้อความแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัวใดที่จําเป็นต้องแสดงให้ผู้ใช้เห็นเมื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังติดตามการตอบสนองที่ผู้ใช้ได้ให้ไว้กับข้อความแจ้งเตือนความเป็นส่วนตัวใดๆ ก่อนหน้านี้อีกด้วย
Enhanced Configuration Service (ECS) ECS ช่วยให้ Microsoft สามารถกำหนดค่าการติดตั้ง Office ใหม่ได้โดยไม่ต้องให้คุณปรับใช้ Office ใหม่อีกครั้ง ซึ่งใช้ในการควบคุมการปล่อยฟีเจอร์หรือการอัปเดตเป็นระยะๆ พร้อมกับตรวจสอบผลกระทบของการปล่อยดังกล่าวจากข้อมูลการวินิจฉัยที่รวบรวมได้ และยังใช้ในการลดปัญหาด้านความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับฟีเจอร์หรือการอัปเดตอีกด้วย นอกจากนี้ ECS ยังสนับสนุนการเปลี่ยนการกำหนดค่าที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลการวินิจฉัยเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีการรวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์ที่เหมาะสม
การให้สิทธิการใช้งาน การให้สิทธิการใช้งานเป็นบริการระบบ Cloud ที่สนับสนุนการเปิดใช้งาน Office ที่ติดตั้งใหม่และรักษาสิทธิการใช้งานไว้บนอุปกรณ์หลังจากเปิดใช้งาน Office แล้ว และยังลงทะเบียนอุปกรณ์ของคุณแต่ละเครื่องและเปิดใช้งาน Office ตรวจสอบสถานะของการสมัครใช้งาน Office และจัดการคีย์ผลิตภัณฑ์ของคุณ
Microsoft AutoUpdate (MAU) Microsoft AutoUpdate (MAU) คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการอัปเดตแอปพลิเคชัน Microsoft ที่ผลิตขึ้นสำหรับ macOS เช่น Office MAU จะตรวจหาความจำเป็น ดาวน์โหลด และติดตั้งการอัปเดตแอปพลิเคชัน รวมถึงการอัปเดตเกี่ยวกับความปลอดภัย
การซิงค์ OneNote OneNote for Mac รองรับเฉพาะโน้ตบุ๊กที่เก็บไว้บนอินเทอร์เน็ตใน OneDrive หรือ SharePoint Online OneNote for Mac ซิงค์บันทึกย่อของผู้ใช้ทั้งหมดอย่างต่อเนื่องกับ OneDrive หรือ SharePoint Online เป็นการช่วยให้ผู้ใช้เปิด ดู และแก้ไขสมุดบันทึกบนอุปกรณ์ทั้งหมดของตนได้ เพื่อให้สมุดบันทึกอัปเดตอยู่เสมอ
การกำหนดค่าบริการ การกำหนดค่าบริการมอบความสามารถในการอัปเดตการตั้งค่าการกำหนดค่า Office เพื่อเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานฟีเจอร์ไคลเอ็นต์ ซึ่งจะเรียกใช้ทุกครั้งที่มีการเปิดแอปพลิเคชัน Office และให้รายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดค่าและบริการของ Office อื่นๆ การกำหนดค่าบริการยังควบคุมว่าบริการใดเป็นบริการที่จำเป็นอีกด้วย
การวัดและส่งข้อมูลทางไกล บริการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลมีไว้เพื่อรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยจากแอปพลิเคชัน Office ซึ่งช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยที่สร้างขึ้นโดย Office ทั้งข้อมูลการวินิจฉัยที่จำเป็นและไม่จำเป็น และยังรับผิดชอบการรวบรวมข้อมูลบริการที่จำเป็นบางรายการสำหรับ Office อีกด้วย

เหตุการณ์และเขตข้อมูลสำหรับบริการที่จำเป็นสำหรับ Office

ส่วนถัดไปจะมีข้อมูลต่อไปนี้:

  • รายการเหตุการณ์สำหรับบริการที่จำเป็นแต่ละบริการ
  • คำอธิบายของแต่ละเหตุการณ์
  • รายการเขตข้อมูลในแต่ละเหตุการณ์
  • คำอธิบายของแต่ละเขตข้อมูล

เหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

เหตุการณ์ข้อมูลการวินิจฉัยเหล่านี้จะรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์

Office.Android.MSAGuestToAAD

เหตุการณ์นี้จะช่วยในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้ที่ได้รับพร้อมท์ให้ใส่รหัสผ่านบัญชีส่วนบุคคลในขณะที่เข้าถึงทรัพยากรงาน เนื่องจากบัญชีส่วนบุคคลของพวกเขาอาจเป็นผู้เยี่ยมชมของบัญชีผู้ใช้ที่สามารถใช้งานได้

ข้อมูลนี้จะช่วยในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้ที่กำลังจะผ่านต้องเผชิญกับพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งเพื่อให้จัดลำดับความสำคัญของการรวบรวมโทเค็น Microsoft Entra ในเบื้องหลัง โดยอ้างอิงจากการยืนยัน SAML (ภาษากำกับข้อความการยืนยันความปลอดภัย) บัญชี Microsoft

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Tag - ระบุว่าผู้ใช้จะได้รับพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้สำหรับบัญชีส่วนบุคคลในขณะที่กำลังเข้าถึงทรัพยากรของบัญชีที่ทำงาน

Office.Identity.FbaPromptWin32

รวบรวมเมื่อ Office แสดงพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้ Forms-Based-Auth ต่อผู้ใช้

ระหว่างการรับโทเค็นพร้อมท์แบบไม่แจ้งให้ทราบ พร้อมท์การรับรองความถูกต้องจะมีการใช้เพื่อระบุว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้ต้องอยู่ในสถานะไคลเอ็นต์ออฟไลน์ หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด การรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้อาจทำให้ไม่สามารถรับสิทธิการใช้งาน และส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานไคลเอ็นต์ได้เลย

พร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้ Forms-Based-Auth (FBA) มีไว้สำหรับสถานการณ์ตรวจสอบความถูกต้องภายในองค์กรบางสถานการณ์ และโดยทั่วไปแล้ว เราไม่ต้องการให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้น เพราะว่าทุกคนควรใช้ Modern-Auth เนื่องจากมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เชื่อมโยงกับ FBA

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • AuthScheme - แบบแผนการรับรองความถูกต้องที่ใช้

  • DocumentUrlHash - การร้องขอ URL ที่เข้ารหัสลับ

  • EndTag - แท็กที่ฟอร์ม FBA สิ้นสุด

  • Flags - เลิกใช้

  • FlowTag - แท็กที่ฟอร์ม FBA เริ่มต้น

  • LastError – รหัสข้อผิดพลาดที่ส่งกลับ

  • PromptEndTime - เวลาที่พร้อมท์สิ้นสุด

  • PromptStartTime - เวลาที่พร้อมท์เริ่มต้น

  • Result - ระบุว่าการรับรองความถูกต้องสำเร็จหรือไม่

  • SessionEndTime – เวลาที่เซสชันเหตุการณ์สิ้นสุด

  • Timeout - เวลาที่พร้อมท์หมดเวลา

Office.Identity.SignOutEvent

รวมรวบเมื่อผู้ใช้ลงชื่อออกจาก Office

เมื่อทราบว่าผู้ใช้ลงชื่อออก จะทำให้สามารถจัดประเภทเหตุการณ์อื่นๆ เช่น พร้อมท์ ได้ตามที่คาด จึงสามารถคำนวณเหตุการณ์ดังกล่าวในเมตริกความน่าเชื่อถือ / ความพร้อมส่งข้อมูลได้อย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการเตือนหรือการย้อนกลับรุ่นที่เกิดจากสมมติฐานที่ผิดพลาดซึ่งทำให้ผู้ใช้พบพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้ที่ไม่คาดคิด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • FlowEndTime - เวลาที่การลงชื่อออกสิ้นสุด

  • FlowStartTime - เวลาที่การลงชื่อออกเริ่มต้น

  • IdentityErrorState - สถานะข้อผิดพลาดของข้อมูลประจำตัวระหว่างการลงชื่อออก

  • IdentityHashedUniqueId - ID ของข้อมูลประจำตัวที่เข้ารหัสลับ ซึ่งกำลังลงชื่อออก

  • IdentityProviderType - ผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวของข้อมูลประจำตัวที่กำลังลงชื่อออก

  • IdentityUniqueID - ID ของข้อมูลประจำตัวที่กำลังลงชื่อออก

  • SessionEndTime – เวลาที่เซสชันเหตุการณ์สิ้นสุด

  • SignOutUserAction - ระบุว่าผู้ใช้เริ่มต้นการลงชื่อออกหรือไม่

Office.Identity.SspiPromptWin32

รวบรวมเมื่อ Office แสดงพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้ Windows SSPI ต่อผู้ใช้ ระหว่างการรับโทเค็นพร้อมท์แบบไม่แจ้งให้ทราบ พร้อมท์การรับรองความถูกต้องจะระบุว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้อยู่ในสถานะไคลเอ็นต์ออฟไลน์ หรือไม่ การรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้อาจทำให้ไม่สามารถรับสิทธิการใช้งาน และส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานไคลเอ็นต์ได้เลย

พร้อมท์ Windows SSPI มีไว้สำหรับการรับรองความถูกต้องกับ Exchange (สำหรับการซิงโครไนซ์อีเมล) เมื่อยังไม่ได้ตั้งค่าแหล่งข้อมูล Exchange ของผู้ใช้สำหรับการรับรองความถูกต้องโดยใช้หลายปัจจัย

เหตุการณ์เหล่านี้ พร้อมกับเหตุการณ์ Namespace Office.MATS มีไว้สำหรับวัตถุประสงค์ต่อไปนี้:

1) ระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้

2) ประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งในประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

3) เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

4) สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวในการบล็อกผู้ใช้ที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AllowSavedCreds - ระบุว่าข้อมูลประจำตัวใหม่คงอยู่หรือไม่

  • AuthScheme - แบบแผนการรับรองความถูกต้องที่ใช้

  • CredsSaved - ว่าบันทึกข้อมูลประจำตัวใหม่หรือไม่

  • DocumentUrlHash - การร้องขอ URL ที่เข้ารหัสลับ

  • EndTag - แท็กที่พร้อมท์สิ้นสุด

  • NewIdentity_ErrorState – ว่าข้อมูลประจำตัวใหม่ถูกต้องหรือไม่

  • NewIdentity_HashedUniqueId - ID ของข้อมูลประจำตัวใหม่ที่เข้ารหัสลับหลังจากพร้อมท์เสร็จสมบูรณ์

  • NewIdentity_ProviderType - ผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวใหม่หลังจากพร้อมท์เสร็จสมบูรณ์

  • NewIdentity_UniqueID - ID ของข้อมูลประจำตัวใหม่หลังจากพร้อมท์เสร็จสมบูรณ์

  • OutStatus - ว่าผลลัพธ์ของพร้อมท์ถูกต้องหรือไม่

  • PromptEndTime - เวลาที่พร้อมท์สิ้นสุด

  • PromptFailedTag - แท็กที่ระบุความล้มเหลวของพร้อมท์ SSPI

  • PromptFlow - แท็บที่เรียกใช้พร้อมท์ SSPI

  • PromptStartTime - เวลาที่พร้อมท์เริ่มต้น

  • Proxy - ว่ามีการใช้พร็อกซีหรือไม่

  • ServerHash - ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ที่เข้ารหัสลับ

  • SessionEndTime – เวลาที่เซสชันเหตุการณ์สิ้นสุด

  • Timeout - เวลาที่พร้อมท์หมดเวลา

  • UiMessage - ข้อความ UI ในพร้อมท์

  • UserNameHash - ชื่อผู้ใช้ที่เข้ารหัสลับ

Office.Identity.Win32Prompt

รวบรวมเมื่อ Office แสดงพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้ด้วยการรับรองความถูกต้องโดยใช้หลายปัจจัยต่อผู้ใช้ พร้อมท์การรับรองความถูกต้องจะระบุว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้ ไปพร้อมกับการรับโทเค็นพร้อมท์แบบไม่แจ้งให้ทราบ ซึ่งส่งผลให้อยู่ในสถานะไคลเอ็นต์ออฟไลน์หรือไม่ การรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้อาจทำให้ไม่สามารถรับสิทธิการใช้งาน และส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานไคลเอ็นต์ได้เลย

เหตุการณ์เหล่านี้ พร้อมกับเหตุการณ์ Namespace Office.MATS มีไว้สำหรับวัตถุประสงค์ต่อไปนี้:

1) ระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้

2) ประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งในประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

3) เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

4) สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวในการบล็อกผู้ใช้ที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AdalWAMUsed – แท็กที่ระบุผลลัพธ์ ถ้าใช้ ADAL-atop-WAM

  • CallTag – แท็กที่ระบุตัวเรียก UI การลงชื่อเข้าใช้

  • Context - บริบทการลงชื่อเข้าใช้สำหรับพร้อมท์

  • EndTagIdentityProviderRequested - แท็กที่ร้องขอผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว

  • HrdShownTag - แท็กที่แสดงกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้ HRD

  • IdentityProviderResulted - ชนิดของผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวที่ร้องขอ

  • IdPFlowTag - แท็กที่ระบุผลลัพธ์การร้องขอข้อมูลประจำตัว

  • LastLoginDelta - ความแตกต่างของเวลาจากการเข้าสู่ระบบที่สำเร็จครั้งล่าสุด

  • NewIdentity_ErrorState - ว่าข้อมูลประจำตัวถูกต้องหลังจากพร้อมท์หรือไม่

  • NewIdentity_ProviderType - ชนิดของผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวใหม่หลังจากพร้อมท์

  • NewIdentity_UniqueID - ID ของข้อมูลประจำตัวใหม่ที่ส่งกลับหลังจากพร้อมท์

  • PromptCorrelation - ID สหสัมพันธ์ของพร้อมท์เพื่อวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัย

  • PromptEndTime - เวลาที่พร้อมท์สิ้นสุด

  • PromptStartTime – เวลาที่พร้อมท์เริ่มต้น

  • SessionEndTime – เวลาที่เซสชันเหตุการณ์สิ้นสุด

  • ShowUIResult – รหัสผลลัพธ์ที่ส่งกลับจาก UI ของพร้อมท์

  • StartTag – แท็กที่พร้อมท์ Win32 เริ่มต้น

  • Timeout - เวลาที่พร้อมท์หมดเวลา

  • WasIdentitySignedOut - ว่าผู้ใช้ลงชื่อออกแล้วหรือไม่

Office.MATS.actionofficewin32, Office.MATS.actionofficewinrt

คำอธิบายต่อไปนี้ใช้ได้กับทั้งเหตุการณ์ Win32 และ WinRT (ชื่ออาจแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์ม)

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เมื่อการพยายามรับโทเค็นล้มเหลว จะมีข้อมูลของข้อผิดพลาดรวมอยู่ด้วย เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

1) การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้หรือไม่

2) ประเมินเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการ ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งกับประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

3) เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

4) สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Actiontype - ว่ามีการใช้ไลบรารีการรับรองความถูกต้องตัวใด

  • Appaudience - ว่าแอปมีไว้สำหรับใช้งานภายในหรือภายนอก

  • Appforcedprompt - ว่าแอปเขียนทับแคชและบังคับให้แสดงพร้อมท์หรือไม่

  • Appname - ชื่อของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • Appver - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • Askedforcreds - ระบุว่าแอปพลิเคชันขอให้ผู้ใช้ป้อนข้อมูลประจำตัวสำหรับการดำเนินการนี้หรือไม่

  • Authoutcome - ความพยายามในการรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • Blockingprompt - ระบุว่าแอปพลิเคชันแสดงพร้อมท์ที่จำเป็นต้องให้ผู้ใช้โต้ตอบหรือไม่

  • Correlationid - GUID ที่ใช้ในการรวมข้อมูลบริการ

  • Count - จำนวนเหตุการณ์ในกรณีของการรวม

  • Data_accounttype - บัญชีผู้บริโภคหรือบัญชีขององค์กร

  • Devicenetworkstate - ระบุว่าผู้ใช้ออนไลน์หรือไม่

  • Deviceprofiletelemetryid - ID ของอุปกรณ์ที่ไม่ระบุตัวตนที่ใช้ประเมินประสบการณ์ของอุปกรณ์

  • Duration - ระยะเวลาที่ใช้ในการรับรองความถูกต้อง

  • Duration_Max - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมเข้าด้วยกัน จะมีระยะเวลาสูงสุดของเหตุการณ์ที่รวบรวมไว้

  • Duration_Min - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมเข้าด้วยกัน จะมีระยะเวลาต่ำสุดของเหตุการณ์ที่รวบรวมไว้

  • Duration_Sum - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมเข้าด้วยกัน จะมีผลรวมของช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่รวบรวมทั้งหมด

  • Endtime - เวลาที่เหตุการณ์การรับรองความถูกต้องสิ้นสุด

  • Error - รหัสข้อผิดพลาดในกรณีที่การรับรองความถูกต้องล้มเหลว

  • Errordescription - คำอธิบายคร่าวๆ ของข้อผิดพลาด

  • Errorsource - ว่าข้อผิดพลาดมาจากบริการ ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือแอปพลิเคชันหรือไม่

  • identityservice - บัญชีบริการ Microsoft (MSA) หรือ Microsoft Entra ถูกเรียกหรือไม่

  • Interactiveauthcontainer - ระบุชนิดของพร้อมท์ที่แสดง

  • Issilent - ระบุว่าได้แสดงพร้อมท์หรือไม่

  • Microsoft_ADAL_adal_version- เวอร์ชันของ Azure Active Directory Authentication Library (ADAL)

  • Microsoft_ADAL_api_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่ส่งมาจากไลบรารีการรับรองความถูกต้องสำหรับการพยายามรับรองความถูกต้องครั้งนี้

  • Microsoft_ADAL_api_id - API ที่เรียกใช้สำหรับการพยายามรับรองความถูกต้องครั้งนี้

  • Microsoft_ADAL_authority - URL ของหน่วยงาน Microsoft Entra ที่รับผิดชอบการรับรองความถูกต้องของผู้ใช้

  • Microsoft_ADAL_authority_type – ผู้บริโภค / ข้อตกลงการให้บริการของ Microsoft (MSA) กับองค์กร / Microsoft Entra ID; ใช้ Microsoft Entra ID เสมอ

  • Microsoft_ADAL_authority_validation_status - บอกว่าการรับรองความถูกต้องเสร็จสมบูรณ์ที่บริการฝั่งใด

  • Microsoft_ADAL_broker_app - บอกว่า ADAL ใช้ตัวกลางสำหรับการรับรองความถูกต้องหรือไม่

  • Microsoft_ADAL_broker_app_used - บอกชื่อของตัวกลาง (เช่น Windows Account Management)

  • Microsoft_ADAL_broker_version - บอกเวอร์ชันของตัวกลาง ในกรณีที่ใช้งาน

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count - จำนวนของเหตุการณ์แคชที่ ADAL ดำเนินการขณะกำลังรับโทเค็น

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ เหตุการณ์แคชสูงสุดของเหตุการณ์รวมใดๆ

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ เหตุการณ์แคชต่ำสุดของเหตุการณ์รวมใดเหตุการณ์รวมหนึ่ง

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ เหตุการณ์แคชสูงสุดของเหตุการณ์รวมใดเหตุการณ์รวมหนึ่ง

  • Microsoft_ADAL_cache_read_count - จำนวนครั้งที่ API อ่านจากแคชดิสก์ แสดง ถ้ามีการอ่านอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_read_error_count - จำนวนครั้งที่การอ่านแคชดิสก์ล้มเหลว แสดง ถ้ามีความล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_read_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของ ADAL แสดง ถ้ามีการอ่านล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_read_last_system_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบ แสดง ถ้ามีการอ่านล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_write_count - จำนวนครั้งที่ API อ่านจากแคชดิสก์ แสดง ถ้ามีการเขียนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_write_error_count - จำนวนครั้งที่การอ่านแคชดิสก์ล้มเหลว แสดง ถ้ามีความล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_write_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของ ADAL แสดง ถ้ามีการเขียนล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_cache_write_last_system_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบ แสดง ถ้ามีการเขียนล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

  • Microsoft_ADAL_client_id - Hashed Microsoft Entra app ID

  • Microsoft_ADAL_extended_expires_on_setting - True/false ที่บอกว่าโทเค็นมีอายุการใช้งานแบบขยายหรือไม่

  • Microsoft_ADAL_http_event_count - จำนวนการเรียกใช้ HTTP ที่ทำโดย ADAL

  • Microsoft_ADAL_http_event_count_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ การเรียกใช้ HTTP สูงสุดที่ทำโดย ADAL ของเหตุการณ์รวมใดๆ

  • Microsoft_ADAL_http_event_count_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ การเรียกใช้ HTTP ต่ำสุดที่ทำโดย ADAL ของเหตุการณ์รวมใดๆ

  • Microsoft_ADAL_http_event_count_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ผลรวมของการเรียกใช้ HTTP ที่ทำโดย ADAL ของเหตุการณ์รวมใดๆ

  • Microsoft_ADAL_is_silent_ui - True/false ที่บอกว่า UI แสดง (พร้อมท์) โดย ADAL หรือไม่

  • Microsoft_ADAL_is_successful - True/false ที่บอกว่า API ของ ADAL สำเร็จหรือไม่

  • Microsoft_ADAL_logging_pii_enabled - True/false ที่บอกว่าโหมดการบันทึก ADAL เต็มรูปแบบเปิดใช้งานอยู่หรือไม่ ข้อมูลนี้จะบันทึกไว้ในเครื่อง และไม่ส่งไปยังการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Microsoft_ADAL_oauth_error_code - รหัสข้อผิดพลาดของโพรโทคอล OAuth ที่ส่งกลับโดยบริการ

  • Microsoft_ADAL_prompt_behavior - ส่งพารามิเตอร์การเข้าสู่ระบบหรือพารามิเตอร์ที่ไม่ใช้ HTTP ไปยังบริการเพื่อระบุว่าสามารถแสดงส่วนติดต่อผู้ใช้ได้หรือไม่

  • Microsoft_ADAL_request_id - GUID การดำเนินการสำหรับคำขอที่ส่งจาก ADAL ไปยังบริการ

  • Microsoft_ADAL_response_code - รหัสการตอบสนอง HTTP จากบริการ

  • Microsoft_ADAL_response_time - ระยะเวลาที่ใช้เพื่อให้บริการย้อนกลับไปยัง ADAL

  • Microsoft_ADAL_response_time_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ระยะเวลาสูงสุดที่ใช้เพื่อให้ ADAL ย้อนกลับจาก API ในเหตุการณ์รวมใดๆ

  • Microsoft_ADAL_response_time_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ระยะเวลาต่ำสุดที่ใช้เพื่อให้บริการตอบสนองต่อ ADAL ในเหตุการณ์รวมใดๆ

  • Microsoft_ADAL_response_time_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ผลรวมของระยะเวลาที่ใช้เพื่อให้ ADAL ย้อนกลับจาก API ในเหตุการณ์รวมทั้งหมด

  • Microsoft_ADAL_rt_age - อายุของโทเค็นรีเฟรช

  • Microsoft_ADAL_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่ส่งกลับจากเซิร์ฟเวอร์

  • Microsoft_ADAL_server_sub_error_code - รหัสข้อผิดพลาดย่อยที่ส่งกลับจากเซิร์ฟเวอร์เพื่อช่วยอธิบายสาเหตุที่ทำให้คำขอล้มเหลว

  • Microsoft_ADAL_spe_ring - True/false ที่บอกว่าผู้ใช้ใช้งานวงในของ Secure Production Enterprise หรือไม่ (พนักงาน Microsoft เท่านั้น)

  • Microsoft_ADAL_start_time - เวลาที่เรียกใช้ API ของ ADAL

  • Microsoft_ADAL_stop_time - เวลาที่ส่งกลับการเรียก API ของ ADAL

  • Microsoft_ADAL_telemetry_pii_enabled - True/false ที่บอกว่าโหมดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล ADAL เต็มรูปแบบเปิดใช้งานอยู่หรือไม่ ชื่อผิด เนื่องจากไม่มีการส่ง PII/EUII

  • Microsoft_ADAL_tenant_id - GUID ที่ระบุผู้เช่า ซึ่งมีผู้ใช้ที่ผ่านการรับรองความถูกต้องอยู่

  • Microsoft_ADAL_token_acquisition_from_context - อธิบายการทำงานของ ADAL ตามโทเค็นในบริบทการรับรองความถูกต้อง

  • Microsoft_ADAL_token_type - ระบุว่าใช้โทเค็นรีเฟรช (RT) หรือโทเค็นรีเฟรชหลายแหล่งข้อมูล (MRRT)

  • Microsoft_ADAL_ui_event_count - จำนวนพร้อมท์ที่แสดงต่อผู้ใช้ อาจไม่แจ้งให้ทราบ

  • Microsoft_ADAL_user_cancel - True/false ที่ระบุว่าหน้าต่างส่วนติดต่อผู้ใช้ถูกยกเลิกหรือไม่

  • Microsoft_ADAL_was_request_throttled – ค่า True / false ระบุว่าเหตุการณ์นี้ถูกควบคุมปริมาณโดย ADAL เนื่องจากมีการร้องขอมากเกินไปหรือไม่

  • Microsoft_ADAL_x_ms_request_id – ID ของคำขอเพิ่มเติมที่ ADAL ระบุไว้ในส่วนหัว HTTP ของบริการ

  • Platform - Win32/WinRT/Android/iOS/Mac

  • Promptreasoncorrelationid –สำหรับพร้อมท์ นี่คือรหัสสหสัมพันธ์ของเหตุการณ์อื่นที่อธิบายว่าทำไมผู้ใช้จึงอาจเห็นพร้อมท์การรับรองความถูกต้อง

  • Resource – ทรัพยากรที่ผู้ใช้กำลังร้องขอโทเค็น เช่น Exchange หรือ SharePoint

  • Scenarioid – GUID เหตุการณ์หลายเหตุการณ์อาจอยู่ในสถานการณ์เดียว เช่น สถานการณ์อาจเป็นการเพิ่มบัญชีใหม่ แต่มีพร้อมท์หลายรายการที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ดังกล่าว ID นี้จะทำให้เกิดสหสัมพันธ์

  • Scenarioname – ชื่อของสถานการณ์ที่มีเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องนี้อยู่

  • Sessionid - GUID ที่ระบุเซสชันการเริ่มต้นระบบ

  • Skdver - เวอร์ชันของไคลเอ็นต์ MATS ที่ SDK ใช้ในการสร้างข้อมูลนี้

  • Starttime - เวลาที่เรียกใช้ Start*Action MATS API

  • Tenantid - GUID ที่ระบุผู้เช่า ซึ่งมีผู้ใช้ที่ผ่านการรับรองความถูกต้องอยู่ (ในกรณีที่ไม่ใช้ ADAL)

  • Uploadid - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ ใช้ในการลบข้อมูลที่ซ้ำกัน

  • Wamapi - ระบุ API ของ WAM ที่เรียก

  • Wamtelemetrybatch - ไม่ได้ใช้งานในขณะนี้ ในอนาคต จะอนุญาตให้ส่วนประกอบ WAM ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

Office.MATS.OneAuth.ActionMicrosoftOfficeAndroid

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เมื่อการพยายามรับโทเค็นล้มเหลว จะมีข้อมูลของข้อผิดพลาดรวมอยู่ด้วย เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องจากบริการได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้หรือไม่

  • ประเมินเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการ ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งกับประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

  • เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

  • สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ActionEndTime - เมื่อเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องสิ้นสุดลง

  • actionname - ชื่อที่เรียกง่ายสําหรับเหตุการณ์นี้ ถ้ามีให้

  • ActionStartTime - เวลาที่เริ่มเหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

  • actiontype - ระบุชนิดของไลบรารีการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานอยู่

  • appaudience - แอปมีไว้สำหรับใช้งานภายในหรือภายนอก

  • appname - ชื่อของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • appver - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • askedforcreds - ระบุว่าแอปพลิเคชันขอให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลประจำตัวสำหรับการดำเนินการนี้หรือไม่

  • authoutcome - การพยายามรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • blockingprompt - ระบุว่าแอปพลิเคชันแสดงพร้อมท์ที่จำเป็นต้องมีการโต้ตอบกับผู้ใช้หรือไม่

  • correlationid - ตัวระบุที่ใช้เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการที่มีข้อมูลบริการ

  • count - จำนวนการดำเนินการที่รวบรวมไว้ทั้งหมดที่รายงานในเหตุการณ์ข้อมูลนี้

  • data_signing_time - บันทึกเวลาที่ใช้เซ็นชื่อข้อมูลโดยใช้คีย์

  • devicenetworkstate - อุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือไม่

  • deviceprofiletelemetryid - ID ของอุปกรณ์ที่ไม่ระบุชื่อที่ใช้ประเมินประสบการณ์การตรวจสอบสิทธิ์และความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์

  • duration_max - ระยะเวลาสูงสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_min - ระยะเวลาต่ำสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาของเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกรวมไว้

  • error - รหัสข้อผิดพลาดในกรณีที่การรับรองความถูกต้องล้มเหลว

  • errordescription - คําอธิบายโดยย่อของข้อผิดพลาด

  • errorsource - ว่าข้อผิดพลาดมาจากบริการ ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือแอปพลิเคชันหรือไม่

  • eventtype -เหตุการณ์นี้จะรายงานการ datapoint การรับรองความถูกต้องหรือเหตุการณ์ข้อผิดพลาดคุณภาพของข้อมูล ใช้เพื่อวัดคุณภาพข้อมูล

  • hasadaltelemetry - ระบุว่าจะให้ Azure Active Directory Authentication Library (ADAL) ให้บริการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับเหตุการณ์นี้

  • identityservice - บัญชีบริการ Microsoft (MSA) หรือ Azure Active Directory (AAD) ถูกเรียกหรือไม่

  • interactiveauthcontainer - ระบุชนิดของพร้อมท์ที่แสดง

  • issilent - ระบุว่าได้แสดงพร้อมท์หรือเป็นเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องแบบไม่แจ้งให้ทราบ (พื้นหลัง)

  • key_creation_time - บันทึกเวลาที่ใช้สำหรับการสร้างคู่คีย์แบบอสมมาตร

  • key_load_time - บันทึกเวลาที่ใช้สำหรับการโหลดคู่คีย์ที่มีอยู่

  • MSAL_access_token_expiry_time - เวลาหมดอายุของโทเค็นการเข้าถึงใน UTC ที่กลับไปยังแอปพลิเคชัน

  • MSAL_all_error_tags - แท็กข้อผิดพลาดของ Microsoft Authentication Library (MSAL) ในระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_api_error_code - หาก MSAL พบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากระบบปฏิบัติการ รหัสข้อผิดพลาดของแพลตฟอร์มจะถูกเก็บไว้ที่นี่

  • MSAL_api_error_context - สตริงที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่มนุษย์สามารถอ่านได้เกี่ยวกับข้อผิดพลาด MSAL ล่าสุดที่พบ

  • MSAL_api_error_tag - สตริงเฉพาะสำหรับตำแหน่งในรหัสที่เกิดข้อผิดพลาดนี้

  • MSAL_api_name - ชื่อของ API ระดับบนสุดของ MSAL ที่เรียกเพื่อเริ่มโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์นี้

  • MSAL_api_status_code - รหัสสถานะของ MSAL ส่งกลับสำหรับผลลัพธ์ของโฟลว์การรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_async_events_started - ถ้าการดําเนินการนี้เริ่มต้น/เริ่มการดําเนินการย่อยเพิ่มเติมเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์แบบอะซิงโครนัส เขตข้อมูลนี้จะถูกเพิ่มลงในชุดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล ด้วยการนับเหตุการณ์ที่เริ่มต้น ("1", "2", "3" ...)

  • MSAL_auth_flow - ขั้นตอนที่ MSAL พยายามในระหว่างโฟลว์การพิสูจน์ตัวตนนี้ (AT, PRT, LRT, FRT, ART, IRT) คั่นด้วยสัญลักษณ์ "|" เพื่อการแยกวิเคราะห์อย่างง่ายดาย

  • MSAL_auth_flow_last_error - รหัสข้อผิดพลาดที่เราได้รับจากเซิร์ฟเวอร์ในรายการที่ 2 ถึงสุดท้ายใน AuthFlow (เช่น ถ้า AuthFlow = PRT|LRT ข้อผิดพลาดของ PRT จะอยู่ใน AuthFlowLastError)

  • MSAL_authority_type - คำขอนี้สำหรับผู้ใช้ใน: Microsoft Entra ID, Federated หรือ MSA

  • MSAL_authorization_error_subcode - ถ้าเราได้รับรหัสข้อผิดพลาดย่อยจากการเรียกของการอนุญาต/ UI รหัสดังกล่าวจะใส่ไว้ที่นี่ (เช่น: "bad_token")

  • MSAL_authorization_type - หมายถึงการรับโทเค็นการเข้าถึงที่ได้รับการสนับสนุนโดย MSAL ที่ใช้กับโฟลว์นี้ (เช่น: ImportedRefreshToken, CachedRefreshToken)

  • MSAL_broker_accounts_count - จํานวนบัญชีที่ตัวกลางระบบส่งกลับระหว่างการเรียกการค้นพบบัญชี (เช่น: 1, 0, 1337)

  • MSAL_broker_app_used - เป็นตัวกลางที่ใช้ในโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์นี้

  • MSAL_broker_version - เวอร์ชันของตัวกลางการรับรองความถูกต้อง iOS/Android

  • MSAL_browser_navigation_count - ระบุจํานวนเหตุการณ์การนําทางที่เกิดขึ้นภายในโฟลว์แบบโต้ตอบของ MSAL

  • MSAL_client_id - รหัสไคลเอ็นต์ของแอปพลิเคชันการโทร

  • MSAL_correlation_id - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ เคยเข้าร่วมการดำเนินการกับไคลเอนต์ เซิร์ฟเวอร์ และแฟ้มบันทึกแอป

  • MSAL_data_signing_time - ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการรับรองส่วนหัวคำขอด้วยคีย์ PoP

  • MSAL_delete_token - รายการของโทเค็นที่ถูกลบออกจากแคชในระหว่างขั้นตอนการรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_delete_token_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดการลบโทเค็น เหมือนกับข้อผิดพลาดล่าสุดของการอ่าน/เขียนโทเค็น

  • MSAL_http_call_count - จำนวนการเรียก HTTP ของ MSAL ที่ทำระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_http_call_count_max - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายสูงสุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_min - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายต่ำที่สุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_sum - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ ผลรวมของการเรียกบนเครือข่ายที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมทั้งหมด

  • MSAL_is_pkey_auth_token_sent - True/false เราได้ส่ง JWT ที่ได้รับการรับรองเพื่อตอบสนองต่อการทดสอบ PKeyAuth หรือไม่

  • MSAL_is_successful - โฟลว์การรับรองความถูกต้องสำเร็จ

  • MSAL_key_creation_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการสร้างคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_key_load_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการโหลดคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_last_http_response_code - ถ้า MSAL ทำการเรียก HTTP อย่างน้อยหนึ่งครั้ง นี่คือรหัสการตอบสนอง HTTP สุดท้ายที่เราได้รับ

  • MSAL_migration_adal_accounts_found - จํานวนบัญชี Adal ที่พบในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_migration_adal_accounts_succeeded - จํานวนบัญชี Adal ที่โยกย้ายเสร็จสมบูรณ์ในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_msalruntime_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL Runtime รูปแบบ X.X.X

  • MSAL_msal_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL รูปแบบ X.X.X+(OneAuth, local, หรือ commit hash)

  • MSAL_pkeyauth_cert_type - “empty”/ ”windows_issuer” / “windows_thumbprint” / “apple keychain” – วิธีการ/ตำแหน่งที่เราพบใบรับรองที่ใช้ในการทำให้ PKeyAuth เสร็จสมบูรณ์

  • MSAL_prt_enabled - มีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน PRT สำหรับคำขอนี้หรือไม่

  • MSAL_prt_protocol_version - ระบุเวอร์ชันโพรโทคอล Prt ที่ใช้โดยผู้ใช้

  • MSAL_read_account_error - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการอ่านจากดิสก์ระหว่างการอ่านบัญชี บริบทข้อผิดพลาดอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ read_token_error)

  • MSAL_read_token - โทเค็นที่อ่านจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_read_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการอ่านจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน macOS)

  • MSAL_req_cnf_response_pop - มีข้อมูลความสเร็จ/ล้มเหลวเมื่อเรียกใช้ส่วนข้อมูลคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_request_duration - คำขอใช้เวลานานเท่าใดเมื่อเรียก API ระดับบนสุดของ MSAL จนกว่าเราจะส่งกลับผลลัพธ์

  • MSAL_request_eligible_for_broker - เป็นจริงหากมีการเปิดใช้งานตัวกลางและประเภทคําขอมีสิทธิ์ใช้ตัวกลาง ไม่ได้ระบุว่ามีการเรียกใช้ตัวกลางจริงหรือไม่

  • MSAL_request_id - ID คำขอสำหรับการเรียกใช้ครั้งสุดท้ายที่เราทำไปยังบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของ Microsoft

  • MSAL_request_new_prt - MSAL จะร้องขอ PRT ใหม่ในคำขอนี้

  • MSAL_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่เป็นตัวเลขบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของเฉพาะของ Microsoft หากเราได้รับ

  • MSAL_server_spe_ring - บริการโทเค็นความปลอดภัยของ Microsoft ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับแวดวงองค์กรที่มีความปลอดภัยต่อการผลิต ถ้าเราได้รับมัน

  • MSAL_server_suberror_code - สตริงรหัสข้อผิดพลาดย่อยของบริการโทเค็นที่ปลอดภัยเฉพาะของ Microsoft ถ้าเราได้รับ

  • MSAL_start_time - เวลาการร้องขอ MSAL เริ่มต้นที่ API สาธารณะระดับบนสุด

  • MSAL_stop_time - เวลา MSAL เสร็จสิ้นการประมวลผลการร้องขอ และส่งผลลัพธ์กลับไปยังตัวเรียก

  • MSAL_storage_accounts_count - จํานวนบัญชีที่พบทั้งหมดในกล่องระหว่างการเรียกบัญชีการค้นหา (broker_accounts_count + บัญชีที่ไม่ใช่ตัวกลาง/OneAuth) (เช่น: 0, 5, 1337)

  • MSAL_tenant_id - Microsoft GUID ที่ระบุผู้เช่าที่ผู้ใช้มีอยู่

  • MSAL_ui_event_count - จำนวนของ MSAL พร้อมท์ UI ที่แสดงบนหน้าจอ

  • MSAL_was_request_throttled - True ถ้า MSAL ควบคุมคำขอนี้และป้องกันไม่ให้เข้าสู่เครือข่าย ถ้านี่เป็น true จะมีแนวโน้มที่จะวนรอบในการเรียกแอป

  • MSAL_write_account_status - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการเขียนลงดิสก์ระหว่างการแคชบัญชี บริบทข้อผิดพลาดจะอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ write_token_error)

  • MSAL_write_token - โทเค็นที่เขียนไปยังแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_write_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการเขียนจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน macOS)

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_AppId - ระบุ ID แอปพลิเคชันของแอปพลิเคชันที่เรียกใช้ OneAuth

  • oneauth_SubStatus - รหัสแบบจํานวนเต็มที่ส่งกลับเมื่อมีปัญหาที่ผู้ใช้ได้รับผลกระทบ ระบุสาเหตุของความล้มเหลว (เช่น UserPasswordExpired = 6005, EnterProductKey = 6301 เป็นต้น)

  • oneauth_transactionuploadid - ระบุ GUID ภายในที่สร้างขึ้นแบบสุ่มที่แมปไปยังการเรียกใช้เฉพาะของ API ของ OneAuth

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: เดสก์ท็อป Windows, 1: Android, 2: iOS, 3: macOS, 4: UWP)

  • promptreasoncorrelationid - ตัวระบุสหสัมพันธ์ที่สามารถใช้ในการค้นหาเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องก่อนหน้าที่ใช้เพื่ออธิบายสาเหตุที่ผู้ใช้ได้รับพร้อมท์ให้รับรองความถูกต้อง

  • resource - ทรัพยากรที่มีการร้องขอโทเค็น

  • scenarioid - เหตุการณ์หลายเหตุการณ์อาจอยู่ในสถานการณ์เดียว เช่น สถานการณ์อาจเป็นการเพิ่มบัญชีใหม่ แต่มีพร้อมท์หลายรายการที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ดังกล่าว ตัวระบุนี้เปิดใช้งานความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเหล่านั้น [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • scenarioname - ชื่อของสถานการณ์ของแอปพลิเคชันที่จําเป็นต้องมีการรับรองความถูกต้อง เช่น การเริ่มต้นระบบครั้งแรก การตรวจสอบการให้สิทธิ์การใช้งาน เป็นต้น

  • scope - ขอบเขตที่มีการร้องขอโทเค็น

  • SdkVersion - เวอร์ชันของไลบรารีระบบการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Microsoft Auth ที่ใช้เพื่อสร้างข้อมูลนี้

  • sessionid - ตัวระบุสำหรับเซสชันการเริ่มต้นระบบ

  • tenantid - GUID ที่ระบุผู้เช่าที่มีผู้ใช้ที่ได้รับการรับรองความถูกต้องอยู่ (ในกรณีที่ไม่ใช่ ADAL)

  • uploadid - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ที่ใช้ในการลบข้อมูลที่ซ้ำกัน

Office.MATS.OneAuth.ActionMicrosoftOfficeiOS

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สําเร็จหรืออยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้
  • ระบุการถดถอยที่สําคัญในประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในไคลเอ็นต์หรือบริการ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนขณะเปิด-ปิดเครื่องเพื่อให้วิศวกรสามารถบรรเทาปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  • สัญญาณเกี่ยวกับความล้มเหลวจะส่งรหัสข้อผิดพลาดที่สําคัญจากคอมโพเนนต์ที่รับผิดชอบที่ใช้สําหรับการคัดกรอง วินิจฉัย และบรรเทาปัญหา

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Actinidine - เวลาที่เหตุการณ์การรับรองความถูกต้องสิ้นสุด

  • Actionname - ชื่อที่เรียกง่ายสําหรับเหตุการณ์นี้ ถ้ามีให้

  • ActionStartTime - เวลาที่เริ่มเหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

  • actiontype - ระบุชนิดของไลบรารีการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานอยู่

  • appaudience - แอปมีไว้สำหรับใช้งานภายในหรือภายนอก

  • appname - ชื่อของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • appver - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • askedforcreds - ระบุว่าแอปพลิเคชันขอให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลประจำตัวสำหรับการดำเนินการนี้หรือไม่

  • authoutcome - การพยายามรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • blockingprompt - ระบุว่าแอปพลิเคชันแสดงพร้อมท์ที่จำเป็นต้องมีการโต้ตอบกับผู้ใช้หรือไม่

  • correlationid - ตัวระบุที่ใช้เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการที่มีข้อมูลบริการ

  • count - จำนวนการดำเนินการที่รวบรวมไว้ทั้งหมดที่รายงานในเหตุการณ์ข้อมูลนี้

  • data_signing_time - บันทึกเวลาที่ใช้เซ็นชื่อข้อมูลโดยใช้คีย์

  • devicenetworkstate - อุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือไม่

  • deviceprofiletelemetryid - ID ของอุปกรณ์ที่ไม่ระบุชื่อที่ใช้ประเมินประสบการณ์การตรวจสอบสิทธิ์และความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์

  • duration_max - ระยะเวลาสูงสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_min - ระยะเวลาต่ำสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาของเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกรวมไว้

  • error - รหัสข้อผิดพลาดในกรณีที่การรับรองความถูกต้องล้มเหลว

  • errordescription - คําอธิบายโดยย่อของข้อผิดพลาด

  • errorsource - ว่าข้อผิดพลาดมาจากบริการ ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือแอปพลิเคชันหรือไม่

  • eventtype -เหตุการณ์นี้จะรายงานการ datapoint การรับรองความถูกต้องหรือเหตุการณ์ข้อผิดพลาดคุณภาพของข้อมูล ใช้เพื่อวัดคุณภาพข้อมูล

  • hasadaltelemetry - ระบุว่าจะให้ Azure Active Directory Authentication Library (ADAL) ให้บริการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับเหตุการณ์นี้

  • identityservice - บัญชีบริการ Microsoft (MSA) หรือ Azure Active Directory (AAD) ถูกเรียกหรือไม่

  • interactiveauthcontainer - ระบุชนิดของพร้อมท์ที่แสดง

  • issilent - ระบุว่าได้แสดงพร้อมท์หรือเป็นเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องแบบไม่แจ้งให้ทราบ (พื้นหลัง)

  • key_creation_time - บันทึกเวลาที่ใช้สำหรับการสร้างคู่คีย์แบบอสมมาตร

  • key_load_time - บันทึกเวลาที่ใช้สำหรับการโหลดคู่คีย์ที่มีอยู่

  • MSAL_access_token_expiry_time - เวลาหมดอายุของโทเค็นการเข้าถึงใน UTC ที่กลับไปยังแอปพลิเคชัน

  • MSAL_all_error_tags - แท็กข้อผิดพลาดของ Microsoft Authentication Library (MSAL) ในระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_api_error_code - หาก MSAL พบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากระบบปฏิบัติการ รหัสข้อผิดพลาดของแพลตฟอร์มจะถูกเก็บไว้ที่นี่

  • MSAL_api_error_context - สตริงที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่มนุษย์สามารถอ่านได้เกี่ยวกับข้อผิดพลาด MSAL ล่าสุดที่พบ

  • MSAL_api_error_tag - สตริงเฉพาะสำหรับตำแหน่งในรหัสที่เกิดข้อผิดพลาดนี้

  • MSAL_api_name - ชื่อของ API ระดับบนสุดของ MSAL ที่เรียกเพื่อเริ่มโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์นี้

  • MSAL_api_status_code - รหัสสถานะของ MSAL ส่งกลับสำหรับผลลัพธ์ของโฟลว์การรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_async_events_started - ถ้าการดําเนินการนี้เริ่มต้น/เริ่มการดําเนินการย่อยเพิ่มเติมเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์แบบอะซิงโครนัส เขตข้อมูลนี้จะถูกเพิ่มลงในชุดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล ด้วยการนับเหตุการณ์ที่เริ่มต้น

  • MSAL_auth_flow - ขั้นตอนที่ MSAL พยายามในระหว่างโฟลว์การพิสูจน์ตัวตนนี้ (AT, PRT, LRT, FRT, ART, IRT) คั่นด้วยสัญลักษณ์ "|" เพื่อการแยกวิเคราะห์อย่างง่ายดาย

  • MSAL_auth_flow_last_error - รหัสข้อผิดพลาดที่เราได้รับจากเซิร์ฟเวอร์ในรายการรองสุดท้ายใน AuthFlow (เช่น ถ้า AuthFlow = PRT|LRT ข้อผิดพลาดของ PRT จะอยู่ใน AuthFlowLastError)

  • MSAL_authority_type - คำขอนี้สำหรับผู้ใช้ใน: Microsoft Entra ID, Federated หรือ MSA

  • MSAL_authorization_error_subcode - ถ้าเราได้รับรหัสข้อผิดพลาดย่อยจากการเรียกของการอนุญาต/ UI รหัสดังกล่าวจะใส่ไว้ที่นี่ (เช่น: bad_token)

  • MSAL_authorization_type - หมายถึงการรับโทเค็นการเข้าถึงที่ได้รับการสนับสนุนโดย MSAL ที่ใช้กับโฟลว์นี้ (เช่น: ImportedRefreshToken, CachedRefreshToken)

  • MSAL_broker_accounts_count - จํานวนบัญชีที่มีอยู่ในตัวกลาง

  • MSAL_broker_app_used - เป็นจริงหากคำขอนี้ไปถึงตัวกลาง เป็นเท็จถ้าคําขอนี้สามารถใช้ตัวกลางได้ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น ว่าง/เว้นไว้ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานตัวกลางหรือคำขอนี้ไม่มีสิทธิ์สำหรับตัวกลาง

  • MSAL_broker_version - เวอร์ชันของตัวกลางการรับรองความถูกต้อง iOS/Android

  • MSAL_browser_navigation_count - ระบุจํานวนเหตุการณ์การนําทางที่เกิดขึ้นภายในโฟลว์แบบโต้ตอบของ MSAL

  • MSAL_cached_pop_key_stored_in_hw - True/False ที่ระบุว่าคีย์ Proof of Possession (PoP) ที่ใช้ในการดำเนินการนี้ถูกจัดเก็บไว้ในฮาร์ดแวร์หรือไม่

  • MSAL_client_id - รหัสไคลเอ็นต์ของแอปพลิเคชันการโทร

  • MSAL_correlation_id - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ เคยเข้าร่วมการดำเนินการกับไคลเอนต์ เซิร์ฟเวอร์ และแฟ้มบันทึกแอป

  • MSAL_data_signing_time - ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการรับรองส่วนหัวคำขอด้วยคีย์ PoP

  • MSAL_delete_token - รายการชนิดโทเค็นที่ถูกลบออกจากแคชในระหว่างขั้นตอนการรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_delete_token_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดการลบโทเค็น เหมือนกับข้อผิดพลาดล่าสุดของการอ่าน/เขียนโทเค็น

  • MSAL_http_call_count - จำนวนการเรียก HTTP ของ MSAL ที่ทำระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_http_call_count_max - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายสูงสุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_min - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายต่ำที่สุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_sum - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ ผลรวมของการเรียกบนเครือข่ายที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมทั้งหมด

  • MSAL_is_pkey_auth_token_sent - True/false เราได้ส่ง JSON Web Token ที่มีลายเซ็นเพื่อตอบสนองต่อการทดสอบการรับรองความถูกต้องของคีย์หลักหรือไม่

  • MSAL_is_successful - โฟลว์การรับรองความถูกต้องสำเร็จ

  • MSAL_key_creation_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการสร้างคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_key_load_error - รหัสข้อผิดพลาดของการเข้ารหัสลับ/TPM ของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดในการโหลดคีย์ Proof of Possession

  • MSAL_key_load_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการโหลดคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_last_http_response_code - ถ้า MSAL ทำการเรียก HTTP อย่างน้อยหนึ่งครั้ง นี่คือรหัสการตอบสนอง HTTP สุดท้ายที่เราได้รับ

  • MSAL_migration_adal_accounts_found - จํานวนบัญชี Adal ที่พบในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_migration_adal_accounts_succeeded - จํานวนบัญชี Adal ที่โยกย้ายเสร็จสมบูรณ์ในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_msal_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL รูปแบบ X.X.X+(OneAuth, local, หรือ commit hash)

  • MSAL_msalruntime_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL Runtime รูปแบบ X.X.X

  • MSAL_pkeyauth_cert_type - “empty”/ ”windows_issuer” / “windows_thumbprint” / “apple keychain” – วิธีการ/ตำแหน่งที่เราพบใบรับรองที่ใช้ในการทำให้ PKeyAuth เสร็จสมบูรณ์

  • MSAL_prt_enabled - มีการเปิดใช้งานฟังก์ชันโทเค็นรีเฟรชหลักสำหรับคำขอนี้หรือไม่

  • MSAL_prt_protocol_version - ระบุเวอร์ชันโปรโตคอลโทเค็นรีเฟรชหลักที่ใช้โดยผู้ใช้

  • MSAL_read_account_error - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการอ่านจากดิสก์ระหว่างการอ่านบัญชี บริบทข้อผิดพลาดอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ read_token_error)

  • MSAL_read_token - ชนิดโทเค็นที่อ่านจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_read_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการอ่านจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน MacOS)

  • MSAL_req_cnf_response_pop - มีข้อมูลความสำเร็จ/ความล้มเหลวเมื่อเรียกใช้ส่วนข้อมูลของคีย์ PoP

  • MSAL_request_duration - ระยะเวลาที่คำขอใช้เวลาตั้งแต่ API ระดับบนสุดของ MSAL ถูกเรียกใช้จนกระทั่งมีการส่งกลับผลลัพธ์

  • MSAL_request_eligible_for_broker - เป็นจริงหากมีการเปิดใช้งานตัวกลางและประเภทคําขอมีสิทธิ์ใช้ตัวกลาง ไม่ได้ระบุว่ามีการเรียกใช้ตัวกลางจริงหรือไม่

  • MSAL_request_id - ID คำขอสำหรับการเรียกใช้ครั้งสุดท้ายที่เราทำไปยังบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของ Microsoft

  • MSAL_request_new_prt - MSAL จะร้องขอ PRT ใหม่ในคำขอนี้

  • MSAL_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่เป็นตัวเลขบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของเฉพาะของ Microsoft หากเราได้รับ

  • MSAL_server_spe_ring - บริการโทเค็นความปลอดภัยของ Microsoft ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับแวดวงองค์กรที่มีความปลอดภัยต่อการผลิต ถ้าเราได้รับมัน

  • MSAL_server_suberror_code - สตริงรหัสข้อผิดพลาดย่อยของบริการโทเค็นที่ปลอดภัยเฉพาะของ Microsoft ถ้าเราได้รับ

  • MSAL_start_time - เวลาที่การร้องขอ MSAL เริ่มต้นที่ API สาธารณะระดับสูงสุด

  • MSAL_stop_time - เวลา MSAL เสร็จสิ้นการประมวลผลการร้องขอ และส่งผลลัพธ์กลับไปยังตัวเรียก

  • MSAL_storage_accounts_count - จํานวนบัญชีที่พบทั้งหมดในกล่องระหว่างการเรียกบัญชีการค้นหา (broker_accounts_count + บัญชีที่ไม่ใช่ตัวกลาง/OneAuth) (เช่น: 0, 5, 1337)

  • MSAL_tenant_id - Microsoft GUID ที่ระบุผู้เช่าที่ผู้ใช้มีอยู่

  • MSAL_time_get_broker_account - เวลาที่ตัวกลางใช้ในการส่งคืนบัญชีที่ใช้ร่วมกัน/บัญชี FLW บนอุปกรณ์

  • MSAL_ui_event_count - จำนวนของ MSAL พร้อมท์ UI ที่แสดงบนหน้าจอ

  • MSAL_was_request_throttled - True ถ้า MSAL ควบคุมคำขอนี้และป้องกันไม่ให้เข้าสู่เครือข่าย ถ้านี่เป็น true จะมีแนวโน้มที่จะวนรอบในการเรียกแอป

  • MSAL_write_account_status - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการเขียนลงดิสก์ระหว่างการแคชบัญชี บริบทข้อผิดพลาดจะอยู่ที่นี่

  • MSAL_write_token - ชนิดโทเค็นที่เขียนจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_write_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการเขียนจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน MacOS)

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_AppId - ระบุ ID แอปพลิเคชันของแอปพลิเคชันที่เรียกใช้ OneAuth

  • oneauth_SubStatus - รหัสแบบจํานวนเต็มที่ส่งกลับเมื่อมีปัญหาที่ผู้ใช้ได้รับผลกระทบ ระบุสาเหตุของความล้มเหลว (เช่น UserPasswordExpired = 6005, EnterProductKey = 6301 เป็นต้น)

  • oneauth_transactionuploadid - ระบุ GUID ภายในที่สร้างขึ้นแบบสุ่มที่แมปไปยังการเรียกใช้เฉพาะของ API ของ OneAuth

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: เดสก์ท็อป Windows, 1: Android, 2: iOS, 3: MacOS, 4: UWP)

  • promptreasoncorrelationid - ตัวระบุสหสัมพันธ์ที่สามารถใช้ในการค้นหาเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องก่อนหน้าที่ใช้เพื่ออธิบายสาเหตุที่ผู้ใช้ได้รับพร้อมท์ให้รับรองความถูกต้อง

  • resource - ทรัพยากรที่มีการร้องขอโทเค็น

  • scenarioname - ชื่อของสถานการณ์ของแอปพลิเคชันที่จําเป็นต้องมีการรับรองความถูกต้อง เช่น การเริ่มต้นระบบครั้งแรก การตรวจสอบการให้สิทธิ์การใช้งาน เป็นต้น

  • scope - ขอบเขตที่มีการร้องขอโทเค็น

  • SdkVersion - เวอร์ชันของไลบรารีระบบการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Microsoft Auth ที่ใช้เพื่อสร้างข้อมูลนี้

  • sessionid - ตัวระบุสำหรับเซสชันการเริ่มต้นระบบ

  • tenantid - GUID ที่ระบุผู้เช่าที่มีผู้ใช้ที่ได้รับการรับรองความถูกต้องอยู่

  • uploadid - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ที่ใช้ในการลบข้อมูลที่ซ้ำกัน

Office.MATS.OneAuth.ActionMicrosoftOfficeMac

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สําเร็จหรืออยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้
  • ระบุการถดถอยที่สําคัญในประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในไคลเอ็นต์หรือบริการ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนขณะเปิด-ปิดเครื่องเพื่อให้วิศวกรสามารถบรรเทาปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  • สัญญาณเกี่ยวกับความล้มเหลวจะส่งรหัสข้อผิดพลาดที่สําคัญจากคอมโพเนนต์ที่รับผิดชอบที่ใช้สําหรับการคัดกรอง วินิจฉัย และบรรเทาปัญหา

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ActionEndTime - เมื่อเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องสิ้นสุดลง

  • actionname - ชื่อที่เรียกง่ายสําหรับเหตุการณ์นี้ ถ้ามีให้

  • ActionStartTime - เวลาที่เริ่มเหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

  • actiontype - ระบุชนิดของไลบรารีการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานอยู่

  • appaudience - แอปมีไว้สำหรับใช้งานภายในหรือภายนอก

  • appname - ชื่อของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • appver - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • askedforcreds - ระบุว่าแอปพลิเคชันขอให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลประจำตัวสำหรับการดำเนินการนี้หรือไม่

  • authoutcome - การพยายามรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • blockingprompt - ระบุว่าแอปพลิเคชันแสดงพร้อมท์ที่จำเป็นต้องมีการโต้ตอบกับผู้ใช้หรือไม่

  • correlationid - ตัวระบุที่ใช้เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการที่มีข้อมูลบริการ

  • count - จำนวนการดำเนินการที่รวบรวมไว้ทั้งหมดที่รายงานในเหตุการณ์ข้อมูลนี้

  • data_signing_time - บันทึกเวลาที่ใช้เซ็นชื่อข้อมูลโดยใช้คีย์

  • devicenetworkstate - อุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหรือไม่

  • deviceprofiletelemetryid - ID ของอุปกรณ์ที่ไม่ระบุชื่อที่ใช้ประเมินประสบการณ์การตรวจสอบสิทธิ์และความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์

  • duration_max - ระยะเวลาสูงสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_min - ระยะเวลาต่ำสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาของเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกรวมไว้

  • error - รหัสข้อผิดพลาดในกรณีที่การรับรองความถูกต้องล้มเหลว

  • errordescription - คําอธิบายโดยย่อของข้อผิดพลาด

  • errorsource - ว่าข้อผิดพลาดมาจากบริการ ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือแอปพลิเคชันหรือไม่

  • eventtype -เหตุการณ์นี้จะรายงานการ datapoint การรับรองความถูกต้องหรือเหตุการณ์ข้อผิดพลาดคุณภาพของข้อมูล ใช้เพื่อวัดคุณภาพข้อมูล

  • hasadaltelemetry - ระบุว่าจะให้ Azure Active Directory Authentication Library (ADAL) ให้บริการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับเหตุการณ์นี้

  • identityservice - บัญชีบริการ Microsoft (MSA) หรือ Azure Active Directory (AAD) ถูกเรียกหรือไม่

  • interactiveauthcontainer - ระบุชนิดของพร้อมท์ที่แสดง

  • issilent - ระบุว่าได้แสดงพร้อมท์หรือเป็นเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องแบบไม่แจ้งให้ทราบ (พื้นหลัง)

  • key_creation_time - บันทึกเวลาที่ใช้สำหรับการสร้างคู่คีย์แบบอสมมาตร

  • key_load_time - บันทึกเวลาที่ใช้สำหรับการโหลดคู่คีย์ที่มีอยู่

  • MSAL_access_token_expiry_time - เวลาหมดอายุของโทเค็นการเข้าถึงใน UTC ที่กลับไปยังแอปพลิเคชัน

  • MSAL_all_error_tags - แท็กข้อผิดพลาดของ Microsoft Authentication Library (MSAL) ในระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_api_error_code - หาก MSAL พบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากระบบปฏิบัติการ รหัสข้อผิดพลาดของแพลตฟอร์มจะถูกเก็บไว้ที่นี่

  • MSAL_api_error_context - สตริงที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่มนุษย์สามารถอ่านได้เกี่ยวกับข้อผิดพลาด MSAL ล่าสุดที่พบ

  • MSAL_api_error_tag - สตริงเฉพาะสำหรับตำแหน่งในรหัสที่เกิดข้อผิดพลาดนี้

  • MSAL_api_name - ชื่อของ API ระดับบนสุดของ MSAL ที่เรียกเพื่อเริ่มโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์นี้

  • MSAL_api_status_code - รหัสสถานะของ MSAL ส่งกลับสำหรับผลลัพธ์ของโฟลว์การรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_async_events_started - ถ้าการดําเนินการนี้เริ่มต้น/เริ่มการดําเนินการย่อยเพิ่มเติมเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์แบบอะซิงโครนัส เขตข้อมูลนี้จะถูกเพิ่มลงในชุดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล ด้วยการนับเหตุการณ์ที่เริ่มต้น ("1", "2", "3" ...)

  • MSAL_auth_flow - ขั้นตอนที่ MSAL พยายามในระหว่างโฟลว์การพิสูจน์ตัวตนนี้ (AT, PRT, LRT, FRT, ART, IRT) คั่นด้วยสัญลักษณ์ "|" เพื่อการแยกวิเคราะห์อย่างง่ายดาย

  • MSAL_auth_flow_last_error - รหัสข้อผิดพลาดที่เราได้รับจากเซิร์ฟเวอร์ในรายการที่ 2 ถึงสุดท้ายใน AuthFlow (เช่น ถ้า AuthFlow = PRT|LRT ข้อผิดพลาดของ PRT จะอยู่ใน AuthFlowLastError)

  • MSAL_authority_type - คำขอนี้สำหรับผู้ใช้ใน: Microsoft Entra ID, Federated หรือ MSA

  • MSAL_authorization_error_subcode - ถ้าเราได้รับรหัสข้อผิดพลาดย่อยจากการเรียกของการอนุญาต/ UI รหัสดังกล่าวจะใส่ไว้ที่นี่ (เช่น: "bad_token")

  • MSAL_authorization_type - หมายถึงการรับโทเค็นการเข้าถึงที่ได้รับการสนับสนุนโดย MSAL ที่ใช้กับโฟลว์นี้ (เช่น: ImportedRefreshToken, CachedRefreshToken)

  • MSAL_broker_accounts_count - จํานวนบัญชีที่มีอยู่ในตัวกลาง

  • MSAL_broker_app_used - เป็นจริงหากคำขอนี้ไปถึง/เรียกใช้ตัวกลางจริงๆ เป็นเท็จถ้าคําขอนี้สามารถใช้ตัวกลางได้ แต่ไม่เป็นเช่นนั้น ว่าง/เว้นไว้ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานตัวกลางหรือคำขอนี้ไม่มีสิทธิ์สำหรับตัวกลาง

  • MSAL_browser_navigation_count - ระบุจํานวนเหตุการณ์การนําทางที่เกิดขึ้นภายในโฟลว์แบบโต้ตอบของ MSAL

  • MSAL_cached_pop_key_stored_in_hw - True/False คีย์ PoP ที่ใช้ในการดําเนินการนี้ถูกจัดเก็บไว้ในฮาร์ดแวร์หรือไม่

  • MSAL_client_id - รหัสไคลเอ็นต์ของแอปพลิเคชันการโทร

  • MSAL_correlation_id - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ เคยเข้าร่วมการดำเนินการกับไคลเอนต์ เซิร์ฟเวอร์ และแฟ้มบันทึกแอป

  • MSAL_data_signing_time - ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการรับรองส่วนหัวคำขอด้วยคีย์ PoP

  • MSAL_delete_token - รายการชนิดโทเค็นที่ถูกลบออกจากแคชในระหว่างขั้นตอนการรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_delete_token_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดการลบโทเค็น เหมือนกับข้อผิดพลาดล่าสุดของการอ่าน/เขียนโทเค็น

  • MSAL_http_call_count - จำนวนการเรียก HTTP ของ MSAL ที่ทำระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_http_call_count_max - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายสูงสุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_min - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายต่ำที่สุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_sum - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ ผลรวมของการเรียกบนเครือข่ายที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมทั้งหมด

  • MSAL_is_pkey_auth_token_sent - True/false เราได้ส่ง JWT ที่ได้รับการรับรองเพื่อตอบสนองต่อการทดสอบ PKeyAuth หรือไม่

  • MSAL_is_pkey_auth_token_sent - True/false เราได้ส่ง JWT ที่ได้รับการรับรองเพื่อตอบสนองต่อการทดสอบ PKeyAuth หรือไม่

  • MSAL_is_successful - โฟลว์การรับรองความถูกต้องสำเร็จ

  • MSAL_key_creation_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการสร้างคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_key_load_error - รหัสข้อผิดพลาดของการเข้ารหัสลับ/TPM ของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดในการโหลดคีย์ PoP

  • MSAL_key_load_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการโหลดคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_last_http_response_code - ถ้า MSAL ทำการเรียก HTTP อย่างน้อยหนึ่งครั้ง นี่คือรหัสการตอบสนอง HTTP สุดท้ายที่เราได้รับ

  • MSAL_migration_adal_accounts_found - จํานวนบัญชี Adal ที่พบในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_migration_adal_accounts_succeeded - จํานวนบัญชี Adal ที่โยกย้ายเสร็จสมบูรณ์ในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_msal_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL รูปแบบ X.X.X+(OneAuth, local, หรือ commit hash)

  • MSAL_msalruntime_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL Runtime รูปแบบ X.X.X

  • MSAL_pkeyauth_cert_type - “empty”/ ”windows_issuer” / “windows_thumbprint” / “apple keychain” – วิธีการ/ตำแหน่งที่เราพบใบรับรองที่ใช้ในการทำให้ PKeyAuth เสร็จสมบูรณ์

  • MSAL_prt_enabled - มีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน PRT สำหรับคำขอนี้หรือไม่

  • MSAL_prt_protocol_version - ระบุเวอร์ชันโปรโตคอล PRT ที่ใช้โดยผู้ใช้

  • MSAL_read_account_error - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการอ่านจากดิสก์ระหว่างการอ่านบัญชี บริบทข้อผิดพลาดอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ read_token_error)

  • MSAL_read_token - โทเค็นที่อ่านจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_read_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการอ่านจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน MacOS)

  • MSAL_req_cnf_response_pop - มีข้อมูลความสำเร็จ/ความล้มเหลวเมื่อเรียกใช้ส่วนข้อมูลของคีย์ PoP

  • MSAL_request_duration - ระยะเวลาตั้งแต่เมื่อมีการเรียกใช้ API ระดับบนสุดของ MSAL จนกว่าเราจะส่งกลับผลลัพธ์

  • MSAL_request_eligible_for_broker - เป็นจริงหากมีการเปิดใช้งานตัวกลางและประเภทคําขอมีสิทธิ์ใช้ตัวกลาง ไม่ได้ระบุว่ามีการเรียกใช้ตัวกลางจริงหรือไม่

  • MSAL_request_id - ID คำขอสำหรับการเรียกใช้ครั้งสุดท้ายที่เราทำไปยังบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของ Microsoft

  • MSAL_request_new_prt - MSAL จะร้องขอ PRT ใหม่ในคำขอนี้

  • MSAL_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่เป็นตัวเลขบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของเฉพาะของ Microsoft หากเราได้รับ

  • MSAL_server_spe_ring - บริการโทเค็นความปลอดภัยของ Microsoft ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับแวดวงองค์กรที่มีความปลอดภัยต่อการผลิต ถ้าเราได้รับมัน

  • MSAL_server_suberror_code - สตริงรหัสข้อผิดพลาดย่อยของบริการโทเค็นที่ปลอดภัยเฉพาะของ Microsoft ถ้าเราได้รับ

  • MSAL_start_time - เวลาที่การร้องขอ MSAL เริ่มต้นที่ API สาธารณะระดับสูงสุด

  • MSAL_stop_time - เวลา MSAL เสร็จสิ้นการประมวลผลการร้องขอ และส่งผลลัพธ์กลับไปยังตัวเรียก

  • MSAL_storage_accounts_count - จํานวนบัญชีที่พบทั้งหมดในกล่องระหว่างการเรียกบัญชีการค้นหา (broker_accounts_count + บัญชีที่ไม่ใช่ตัวกลาง/OneAuth) (เช่น: 0, 5, 1337)

  • MSAL_tenant_id - Microsoft GUID ที่ระบุผู้เช่าที่ผู้ใช้มีอยู่

  • MSAL_ui_event_count - จำนวนของ MSAL พร้อมท์ UI ที่แสดงบนหน้าจอ

  • MSAL_was_request_throttled - True ถ้า MSAL ควบคุมคำขอนี้และป้องกันไม่ให้เข้าสู่เครือข่าย ถ้านี่เป็น true จะมีแนวโน้มที่จะวนรอบในการเรียกแอป

  • MSAL_write_account_status - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการเขียนลงดิสก์ระหว่างการแคชบัญชี บริบทข้อผิดพลาดจะอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ write_token_error)

  • MSAL_write_token - โทเค็นที่เขียนจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_write_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการเขียนจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน MacOS)

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_AppId - ระบุ ID แอปพลิเคชันของแอปพลิเคชันที่เรียกใช้ OneAuth

  • oneauth_SubStatus - รหัสแบบจํานวนเต็มที่ส่งกลับเมื่อมีปัญหาที่ผู้ใช้ได้รับผลกระทบ ระบุสาเหตุของความล้มเหลว (เช่น UserPasswordExpired = 6005, EnterProductKey = 6301 เป็นต้น)

  • oneauth_transactionuploadid - ระบุ GUID ภายในที่สร้างขึ้นแบบสุ่มที่แมปไปยังการเรียกใช้เฉพาะของ API ของ OneAuth

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK platform** - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: เดสก์ท็อป Windows, 1: Android, 2: iOS, 3: MacOS, 4: UWP)

  • promptreasoncorrelationid - ตัวระบุสหสัมพันธ์ที่สามารถใช้ในการค้นหาเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องก่อนหน้าที่ใช้เพื่ออธิบายสาเหตุที่ผู้ใช้ได้รับพร้อมท์ให้รับรองความถูกต้อง

  • resource - ทรัพยากรที่มีการร้องขอโทเค็น

  • scenarioname - ชื่อของสถานการณ์ของแอปพลิเคชันที่จําเป็นต้องมีการรับรองความถูกต้อง เช่น การเริ่มต้นระบบครั้งแรก การตรวจสอบการให้สิทธิ์การใช้งาน เป็นต้น

  • scope - ขอบเขตที่มีการร้องขอโทเค็น

  • SdkVersion - เวอร์ชันของไลบรารีระบบการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Microsoft Auth ที่ใช้เพื่อสร้างข้อมูลนี้

  • sessionid - ตัวระบุสำหรับเซสชันการเริ่มต้นระบบ

  • tenantid - GUID ที่ระบุผู้เช่าที่มีผู้ใช้ที่ได้รับการรับรองความถูกต้องอยู่ (ในกรณีที่ไม่ใช่ ADAL)

  • uploadid - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ที่ใช้ในการลบข้อมูลที่ซ้ำกัน

Office.MATS.OneAuth.ActionMicrosoftOfficeWin32

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เมื่อการพยายามรับโทเค็นล้มเหลว จะมีข้อมูลของข้อผิดพลาดรวมอยู่ด้วย เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องจากบริการได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้หรือไม่

  • ประเมินเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการ ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งกับประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

  • เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

  • สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Accounttype -ชนิดของบัญชีที่ใช้สำหรับเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องนี้ เช่น ผู้บริโภค หรือ องค์กร [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ActionEndTime - เมื่อเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องสิ้นสุดลง

  • Actionname - ชื่อที่เข้าใจง่ายสําหรับเหตุการณ์นี้ถ้ามีให้ ถ้ามีระบุไว้

  • ActionStartTime - เมื่อเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องเริ่มต้นขึ้น

  • Actiontype - ระบุชนิดของไลบรารีการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานอยู่

  • Appaudience - ว่าแอปมีไว้สำหรับใช้งานภายในหรือภายนอก

  • Appforcedprompt - ว่าแอปเขียนทับแคชและบังคับให้แสดงพร้อมท์หรือไม่

  • Appname - ชื่อของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • Appver - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่รับรองความถูกต้อง

  • Askedforcreds - ระบุว่าแอปพลิเคชันขอให้ผู้ใช้ป้อนข้อมูลประจำตัวสำหรับการดำเนินการนี้หรือไม่

  • Authoutcome - ความพยายามในการรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • Blockingprompt - ระบุว่าแอปพลิเคชันแสดงพร้อมท์ที่จำเป็นต้องให้ผู้ใช้โต้ตอบหรือไม่

  • Correlationid - ตัวระบุใช้เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการด้วยข้อมูลบริการ

  • Count - จำนวนทั้งหมดของการดำเนินการที่รวบรวมไว้ที่รายงานในเหตุการณ์ข้อมูลนี้

  • Devicenetworkstate - เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

  • Deviceprofiletelemetryid - ID ของอุปกรณ์ที่ไม่ระบุตัวตนที่ใช้ประเมินประสบการณ์การตรวจสอบสิทธิ์และความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์

  • Duration - ระยะเวลาที่ใช้ในการรับรองความถูกต้อง

  • duration_max - ระยะเวลาสูงสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_min - ระยะเวลาต่ำสุดของเหตุการณ์รวบรวมไว้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาของเหตุการณ์ทั้งหมดที่ถูกรวมไว้

  • endtime - เวลาที่เหตุการณ์การรับรองความถูกต้องสิ้นสุด

  • error - รหัสข้อผิดพลาดในกรณีที่การรับรองความถูกต้องล้มเหลว

  • errordescription - คําอธิบายโดยย่อของข้อผิดพลาด

  • errorsource - ว่าข้อผิดพลาดมาจากบริการ ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือแอปพลิเคชันหรือไม่

  • eventtype -เหตุการณ์นี้จะรายงานการ datapoint การรับรองความถูกต้องหรือเหตุการณ์ข้อผิดพลาดคุณภาพของข้อมูล ใช้เพื่อวัดคุณภาพข้อมูล

  • from_cache - บูลีนที่แสดงให้เห็นว่าระเบียนมาจากแคช WAM หลัก หรือ ปลั๊กอิน

  • hasadaltelemetry - ระบุว่าจะให้ Azure Active Directory Authentication Library (ADAL) ให้บริการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับเหตุการณ์นี้

  • identityservice - บัญชีบริการ Microsoft (MSA) หรือ Microsoft Entra ถูกเรียกหรือไม่

  • Interactiveauthcontainer - ระบุชนิดของพร้อมท์ที่แสดง

  • Issilent - ระบุว่าได้แสดงพร้อมท์หรือเป็นเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องแบบไม่แจ้งให้ทราบ (พื้นหลัง)

  • Microsoft_ADAL_adal_version - เวอร์ชันของ Azure Active Directory Authentication Library (ADAL) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_api_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่ส่งมาจากไลบรารีการรับรองความถูกต้องสำหรับการพยายามรับรองความถูกต้องครั้งนี้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_api_id - API ที่เรียกใช้สำหรับการพยายามรับรองความถูกต้องครั้งนี้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_application_name - ชื่อของแอปพลิเคชัน/ กระบวนการที่ใช้ ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_application_version - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่ใช้ ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_authority - URL ของหน่วยงาน Microsoft Entra ที่รับผิดชอบการรับรองความถูกต้องของผู้ใช้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_authority_type - ผู้บริโภค/ข้อตกลงการให้บริการของ Microsoft (MSA) กับองค์กร / Microsoft Entra ปัจจุบันใช้ Microsoft Entra เสมอ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_authority_validation_status - บอกว่าการรับรองความถูกต้องเสร็จสมบูรณ์บนฝั่งบริการ หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_broker_app - บอกว่า ADAL ใช้ตัวกลางสำหรับการรับรองความถูกต้องหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_broker_app_used - บอกชื่อของตัวกลาง (เช่น Windows Account Management) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_broker_version - บอกเวอร์ชันของตัวกลาง ในกรณีที่ใช้งาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count - จำนวนของเหตุการณ์แคชที่ ADAL ดำเนินการขณะกำลังรับโทเค็น [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ เหตุการณ์แคชสูงสุดของเหตุการณ์รวมใดๆ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Offie รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ เหตุการณ์แคชต่ำสุดของเหตุการณ์รวมใดเหตุการณ์รวมหนึ่ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_event_count_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ เหตุการณ์แคชสูงสุดของเหตุการณ์รวมใดเหตุการณ์รวมหนึ่ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_read_count - จำนวนครั้งที่ API อ่านจากแคชดิสก์ แสดง ถ้ามีการอ่านอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_read_error_count - จำนวนครั้งที่การอ่านแคชดิสก์ล้มเหลว แสดง ถ้ามีความล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_read_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของ ADAL แสดง ถ้ามีการอ่านล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_read_last_system_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบ แสดงถ้ามีการอ่านล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_write_count - จำนวนครั้งที่ API อ่านจากแคชดิสก์ แสดง ถ้ามีการเขียนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_write_error_count - จำนวนครั้งที่การอ่านแคชดิสก์ล้มเหลว แสดง ถ้ามีความล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_write_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของ ADAL แสดง ถ้ามีการเขียนล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_cache_write_last_system_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบ แสดง ถ้ามีการเขียนล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้ง [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_client_id - ID ของแอป Microsoft Entra ที่แฮช [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_device_id - ID อุปกรณ์ภายในที่สร้างโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_error_domain - โดเมน/คอมโพเนนต์ที่สร้างรหัสข้อผิดพลาด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_error_protocol_code - รหัสข้อผิดพลาดของโพรโทคอล OAuth ที่ส่งกลับโดยบริการที่บันทึกโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_extended_expires_on_setting - True/false ที่บอกว่าโทเค็นมีอายุการใช้งานแบบขยายหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_http_event_count - จํานวนการร้องขอของ HTTP ที่สร้างขึ้นโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_idp - ผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว (idp) ใช้โดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_network_event_count - จํานวนการเรียกใช้เครือข่ายที่ทําโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_http_event_count_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ การเรียกใช้ http สูงสุดที่ทำโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_http_event_count_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ การเรียกใช้ http ต่ำสุดที่ทำโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_http_event_count_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ผลรวมของการเรียกใช้ http ที่ทำโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_network_event_count_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ การเรียกใช้เครือข่ายสูงสุดที่ทำโดย ADAL ของเหตุการณ์รวมใดๆ [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่ปจจบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_network_event_count_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ การเรียกใช้เครือข่ายต่ำสุดที่ทําโดย ADAL ของเหตุการณ์รวมใดๆ [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_network_event_count_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ผลรวมของการเรียกใช้เครือข่ายที่ทําโดย ADAL ของเหตุการณ์รวมทั้งหมด [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_is_silent_ui - True/false ที่บอกว่า UI แสดง (พร้อมท์) โดย ADAL หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนําออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_is_successful - True/false ที่บอกว่า API ของ ADAL สำเร็จหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_is_successfull - True/False ที่บอกว่า API ของ ADAL สำเร็จหรือไม่ (macOS) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_logging_pii_enabled - True/false ที่บอกว่าโหมดการบันทึก ADAL เต็มรูปแบบเปิดใช้งานอยู่หรือไม่ ข้อมูลนี้จะบันทึกไว้ในเครื่อง และไม่ส่งไปยังการวัดและส่งข้อมูลทางไกล [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_ntlm - True/false ที่บอกว่า ADAL ใช้การรับรองความถูกต้องพื้นฐาน (NTLM) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_oauth_error_code - รหัสข้อผิดพลาดของโพรโทคอล OAuth ที่ส่งกลับโดยบริการ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_prompt_behavior - ส่งพารามิเตอร์การเข้าสู่ระบบหรือพารามิเตอร์ที่ไม่ใช้เครือข่ายไปยังบริการเพื่อระบุว่าสามารถแสดงส่วนติดต่อผู้ใช้ได้หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_request_id - GUID การดำเนินการสำหรับคำขอที่ส่งจาก ADAL ไปยังบริการ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_response_code - รหัสการตอบสนองเครือข่ายจากบริการ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_response_time - ระยะเวลาที่ใช้เพื่อให้บริการย้อนกลับไปยัง ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_response_time_max - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ระยะเวลาสูงสุดที่ใช้เพื่อให้ ADAL ย้อนกลับจาก API ในเหตุการณ์รวมใดๆ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_response_time_min - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ระยะเวลาต่ำสุดที่ใช้เพื่อให้บริการตอบสนองต่อ ADAL ในเหตุการณ์รวมใดๆ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_response_time_sum - ถ้ามีการรวมสัญญาณนี้ ผลรวมของระยะเวลาที่ใช้เพื่อให้ ADAL ย้อนกลับจาก API ในเหตุการณ์รวมทั้งหมด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_rt_age - อายุของโทเค็นการรีเฟรช [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่ส่งกลับจากเซิร์ฟเวอร์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_server_sub_error_code - รหัสข้อผิดพลาดย่อยที่ส่งกลับจากเซิร์ฟเวอร์เพื่อช่วยอธิบายสาเหตุที่ทำให้คำขอล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_spe_info - True/false ที่บอกว่าผู้ใช้ใช้งานวงในของ Secure Production Enterprise หรือไม่ (พนักงาน Microsoft เท่านั้น) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_spe_ring - True/false ที่บอกว่าผู้ใช้ใช้งานวงในของ Secure Production Enterprise หรือไม่ (พนักงาน Microsoft เท่านั้น) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_start_time - เวลาที่เรียก API ของ ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_status - Success/Failure สถานะในการเรียก ADAL โดยรวม [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_stop_time - เวลาที่ส่งกลับการเรียก API ของ ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_telemetry_pii_enabled - True/false ที่บอกว่าโหมดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล ADAL เต็มรูปแบบเปิดใช้งานอยู่หรือไม่ ชื่อผิด เนื่องจากไม่มีการส่ง PII/EUII [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_tenant_id - GUID ที่ระบุผู้เช่า ซึ่งมีผู้ใช้ที่ผ่านการรับรองความถูกต้องอยู่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_token_acquisition_from_context - อธิบายการทำงานของ ADAL ตามโทเค็นในบริบทการรับรองความถูกต้อง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_token_frt_status - สถานะของโทเค็นรีเฟรช: ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม ที่ไม่จำเป็น ไม่พบ หรือถูกลบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_token_mrrt_status - สถานะของ MultiResourceRefreshToken: ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม ที่ไม่จำเป็น ไม่พบ หรือถูกลบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_token_rt_status - สถานะของโทเค็นรีเฟรช: ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม ที่ไม่จำเป็น ไม่พบ หรือถูกลบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_token_type - ระบุว่าใช้โทเค็นการรีเฟรช (RT) หรือโทเค็นการรีเฟรชหลายแหล่งข้อมูล (MRRT) [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_ui_event_count - จำนวนพร้อมท์ที่แสดงต่อผู้ใช้ อาจไม่แจ้งให้ทราบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_user_cancel - True / false ถ้าหน้าต่างส่วนติดต่อผู้ใช้ถูกยกเลิก [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_x_ms_request_id - ID คำขอเพิ่มเติมที่ ADAL แสดงในส่วนหัวของเครือข่ายที่ให้บริการโดย ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_x_client_cpu - ข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของ CPU ของอุปกรณ์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_x_client_os - เวอร์ชันระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_x_client_sku - ชื่อของระบบปฏิบัติการ SKU ของอุปกรณ์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Microsoft_ADAL_x_client_ver - เวอร์ชันของไลบรารี ADAL [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • MSAL_aad_wam_account_creation_failed - หากมี แสดงว่าการสร้างบัญชีล้มเหลวใน Web Account Manager (WAM) เฉพาะค่าทางกฎหมายเท่านั้นที่เป็น "จริง"

  • MSAL_aad_wam_find_accounts_error - รหัสข้อผิดพลาดจํานวนเต็มที่เกิดขึ้นจาก WAM

  • MSAL_aad_wam_find_accounts_status - สตริงที่อธิบายสถานะการค้นหาบัญชีจาก Enum

  • MSAL_aad_wam_haid - HAID ที่เราใช้สําหรับ WAM มาจากไหน (เช่น: "missing_key"/"from_clientinfo"/"from_msal_localaccountid")

  • MSAL_access_token_expiry_time - เวลาหมดอายุของโทเค็นการเข้าถึงใน UTC ที่กลับไปยังแอปพลิเคชัน

  • MSAL_additional_query_parameters_count - จํานวนพารามิเตอร์คิวรีที่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องและถูกเพิ่ม

  • MSAL_all_error_tags - แท็กข้อผิดพลาดของ Microsoft Authentication Library (MSAL) ในระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_api_error_code - หาก MSAL พบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากระบบปฏิบัติการ รหัสข้อผิดพลาดของแพลตฟอร์มจะถูกเก็บไว้ที่นี่

  • MSAL_api_error_context - สตริงที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่มนุษย์สามารถอ่านได้เกี่ยวกับข้อผิดพลาด MSAL ล่าสุดที่พบ

  • MSAL_api_error_tag - สตริงเฉพาะสำหรับตำแหน่งในรหัสที่เกิดข้อผิดพลาดนี้

  • MSAL_api_name - ชื่อของ API ระดับสูงสุดของ MSAL ที่เรียกใช้เพื่อเริ่มต้นโฟลว์การรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_api_status_code - รหัสสถานะของ MSAL ส่งกลับสำหรับผลลัพธ์ของโฟลว์การรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_asymmetric_key_vsm_pop - สถานะของการแยกเสมือนของคีย์ Proof of Possession (PoP) หากมีค่าเท่ากับ VSM_PROP_SET แสดงว่าคีย์นั้นถูกจัดเก็บไว้ในฮาร์ดแวร์จริงๆ (ซึ่งตรงข้ามกับข้อผิดพลาดหรือการย้อนกลับไปใช้ซอฟต์แวร์)

  • MSAL_asymmetric_pop_key_external - "true"/"false"** - คีย์ PoP ที่ใช้ในการลงนาม SHR ภายนอกไปยัง MSAL (จัดการโดย WAM)

  • MSAL_async_events_started - ถ้าการดําเนินการนี้เริ่มต้น/เริ่มการดําเนินการย่อยเพิ่มเติมเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์แบบอะซิงโครนัส เขตข้อมูลนี้จะถูกเพิ่มลงในชุดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล ด้วยการนับเหตุการณ์ที่เริ่มต้น ("1", "2", "3" ...)

  • MSAL_auth_flow - ขั้นตอนที่ MSAL พยายามในระหว่างโฟลว์การพิสูจน์ตัวตนนี้ (AT, PRT, LRT, FRT, ART, IRT) คั่นด้วยสัญลักษณ์ "|" เพื่อการแยกวิเคราะห์อย่างง่ายดาย

  • MSAL_auth_flow_last_error - รหัสข้อผิดพลาดที่เราได้รับจากเซิร์ฟเวอร์ในรายการรองสุดท้ายใน AuthFlow (เช่น ถ้า AuthFlow = "PRT|LRT" ข้อผิดพลาดของ PRT จะเป็น AuthFlowLastError)

  • MSAL_authority_type - คำขอนี้สำหรับผู้ใช้ใน: Microsoft Entra ID, Federated หรือ MSA

  • MSAL_authorization_error_subcode - ถ้าเราได้รับรหัสข้อผิดพลาดย่อยจากการเรียกของการอนุญาต/ UI รหัสดังกล่าวจะใส่ไว้ที่นี่ (เช่น: "bad_token")

  • MSAL_authorization_type - หมายถึงการรับโทเค็นการเข้าถึงที่ได้รับการสนับสนุนโดย MSAL ที่ใช้กับโฟลว์นี้ (เช่น: ImportedRefreshToken, CachedRefreshToken)

  • MSAL_broker_accounts_count - จํานวนบัญชีที่ตัวกลางระบบส่งกลับระหว่างการเรียกการค้นพบบัญชี (เช่น: 1, 0, 1337)

  • MSAL_broker_app_used - เป็นตัวกลางที่ใช้ในโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์นี้

  • MSAL_browser_navigation_count - ระบุจํานวนเหตุการณ์การนําทางที่เกิดขึ้นภายในโฟลว์แบบโต้ตอบของ MSAL

  • MSAL_cached_pop_key_stored_in_hw - True/False คีย์ PoP ที่ใช้ในการดําเนินการนี้ถูกจัดเก็บไว้ในฮาร์ดแวร์หรือไม่

  • MSAL_client_id - รหัสไคลเอ็นต์ของแอปพลิเคชันการโทร

  • MSAL_correlation_id - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ เคยเข้าร่วมการดำเนินการกับไคลเอนต์ เซิร์ฟเวอร์ และแฟ้มบันทึกแอป

  • MSAL_data_signing_time - ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้ในการรับรองส่วนหัวคำขอด้วยคีย์ PoP

  • MSAL_delete_token - รายการของโทเค็นที่ถูกลบออกจากแคชในระหว่างขั้นตอนการรับรองความถูกต้องนี้

  • MSAL_delete_token_last_error - รหัสข้อผิดพลาดของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดการลบโทเค็น เหมือนกับข้อผิดพลาดล่าสุดของการอ่าน/เขียนโทเค็น

  • MSAL_http_call_count - จำนวนการเรียก HTTP ของ MSAL ที่ทำระหว่างโฟลว์การตรวจสอบสิทธิ์

  • MSAL_http_call_count_max - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายสูงสุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_min - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ การเรียกบนเครือข่ายต่ำที่สุดที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมใดๆ

  • MSAL_http_call_count_sum - ถ้าสัญญาณนี้ถูกรวมไว้ ผลรวมของการเรียกบนเครือข่ายที่เกิดขึ้นโดย MSAL ของเหตุการณ์ที่รวมทั้งหมด

  • MSAL_is_pkey_auth_token_sent - True/false เราได้ส่ง JWT ที่ได้รับการรับรองเพื่อตอบสนองต่อการทดสอบ PKeyAuth หรือไม่

  • MSAL_is_successful - โฟลว์การรับรองความถูกต้องสำเร็จ

  • MSAL_key_creation_time - เวลาเป็นมิลลิวินาทีในการสร้างคู่คีย์แบบอสมมาตรสำหรับ PoP (เช่น: 0, 100, 5)

  • MSAL_key_load_error - รหัสข้อผิดพลาดของการเข้ารหัสลับ/TPM ของระบบในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดในการโหลดคีย์ PoP

  • MSAL_key_load_time - ระยะเวลาที่ใช้เป็นมิลลิวินาทีในการโหลดคีย์หลักฐานการครอบครอง

  • MSAL_last_http_response_code - ถ้า MSAL ทำการเรียก HTTP อย่างน้อยหนึ่งครั้ง นี่คือรหัสการตอบสนอง HTTP สุดท้ายที่เราได้รับ

  • MSAL_migration_adal_accounts_found - จํานวนบัญชี Adal ที่พบในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_migration_adal_accounts_succeeded - จํานวนบัญชี Adal ที่โยกย้ายเสร็จสมบูรณ์ในโฟลว์การโยกย้าย

  • MSAL_msa_wam_account_creation_failed - ถ้ามี แสดงว่าการสร้างบัญชีล้มเหลวใน WAM เฉพาะค่าทางกฎหมายเท่านั้นที่เป็น "จริง"

  • MSAL_msa_wam_find_accounts_error - รหัสข้อผิดพลาดจํานวนเต็มที่เกิดขึ้นจาก WAM

  • MSAL_msa_wam_find_accounts_status - สตริงที่อธิบายสถานะการค้นหาบัญชี จาก enum

  • MSAL_msal_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL, รูปแบบ X.X.X+("OneAuth", "ภายในเครื่อง", หรือ commit hash)

  • MSAL_msalruntime_version - สตริงเวอร์ชันของ MSAL Runtime รูปแบบ X.X.X

  • MSAL_pkeyauth_cert_type - “empty”/ ”windows_issuer” / “windows_thumbprint” / “apple keychain” – วิธีการ/ตำแหน่งที่เราพบใบรับรองที่ใช้ในการทำให้ PKeyAuth เสร็จสมบูรณ์

  • MSAL_pop_gen_auth_header_success - ผู้จัดการ POP สามารถสร้างส่วนหัว POP ได้หรือไม่

  • MSAL_prefer_vsm_asymmetric_key - ระบุว่ามีการร้องขอคีย์ฮาร์ดแวร์สําหรับการเซ็นชื่อโทเค็นแบบป็อปหรือไม่

  • MSAL_prt_enabled - มีการเปิดใช้งานฟังก์ชันโทเค็นการรีเฟรชหลัก (PRT) สำหรับคำขอนี้หรือไม่

  • MSAL_prt_protocol_version - ระบุเวอร์ชันโปรโตคอล PRT ที่ใช้โดยผู้ใช้

  • MSAL_read_account_error - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการอ่านจากดิสก์ระหว่างการอ่านบัญชี บริบทข้อผิดพลาดอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ read_token_error)

  • MSAL_read_token - โทเค็นที่อ่านจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_read_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการอ่านจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน macOS)

  • MSAL_req_cnf_response_pop - มีข้อมูลความสำเร็จ/ความล้มเหลวเมื่อเรียกใช้ส่วนข้อมูลของคีย์ PoP "success" IFF PopManagerImpl::GetReqCnf() สำเร็จ (เช่น: "success" เป็นเพียงค่าที่กำหนดไว้ ละเว้นหากการดำเนินการล้มเหลวหรือไม่เกิดขึ้นระหว่างโฟลว์)

  • MSAL_request_duration - คำขอใช้เวลานานเท่าใดตั้งแต่เวลาที่เรียกใช้ API ระดับสูงสุดของ MSAL จนกระทั่งเราส่งกลับผลลัพธ์

  • MSAL_request_eligible_for_broker - เป็นจริงหากมีการเปิดใช้งานตัวกลางและประเภทคําขอมีสิทธิ์ใช้ตัวกลาง ไม่ได้ระบุว่ามีการเรียกใช้ตัวกลางจริงหรือไม่

  • MSAL_request_id - ID คำขอสำหรับการเรียกใช้ครั้งสุดท้ายที่เราทำไปยังบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของ Microsoft

  • MSAL_request_new_prt - MSAL จะร้องขอ PRT ใหม่ในคำขอนี้

  • MSAL_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่เป็นตัวเลขบริการโทเค็นที่ปลอดภัยของเฉพาะของ Microsoft หากเราได้รับ

  • MSAL_server_spe_ring - บริการโทเค็นความปลอดภัยของ Microsoft ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับแวดวงองค์กรที่มีความปลอดภัยต่อการผลิต ถ้าเราได้รับมัน

  • MSAL_server_suberror_code - suberror ที่ได้รับบริการโทเค็นความปลอดภัยของ Microsoft string สตริง code ถ้าเราได้รับ

  • MSAL_start_time - เวลาที่การร้องขอ MSAL เริ่มต้นที่ API สาธารณะระดับสูงสุด

  • MSAL_stop_time - เวลา MSAL เสร็จสิ้นการประมวลผลการร้องขอ และส่งผลลัพธ์กลับไปยังตัวเรียก

  • MSAL_tenant_id - Microsoft GUID ที่ระบุผู้เช่าที่ผู้ใช้มีอยู่

  • MSAL_transfer_token_added - "Succeeded" ถ้าการถ่ายโอนผ่าน หากไม่สำเร็จจะถูกละเว้นจากชุดงาน

  • MSAL_transfer_token_error - รหัสข้อผิดพลาด WAM จากกระบวนการถ่ายโอน เขตข้อมูลสามารถรวม PII ในกรณี stdException ได้

  • MSAL_transfer_token_request - การร้องขอการถ่ายโอนโทเค็นสําเร็จหรือไม่ ค่าที่เป็นไปได้: "failed" "succeeded" "stdException" "winrtException"

  • MSAL_ui_event_count - จำนวนของ MSAL พร้อมท์ UI ที่แสดงบนหน้าจอ

  • MSAL_vsm_key_creation_status_code - รหัสข้อผิดพลาดเลขฐานสิบหกจาก TPM ว่าเหตุใดการสร้างคีย์อสมมาตรของฮาร์ดแวร์จึงล้มเหลว (เช่น: 0x (รหัสฐานสิบหกบางส่วนจาก Windows))

  • MSAL_wam_cache_invalidated -หาก WAMSynchronousWrapper::InvalidateWamCacheIfRequired() ล้างแคชในการเรียกใช้ WAM ที่กำหนด จะมีการตั้งค่า "1" (ตัวอย่างเช่น: "1" เป็นค่าเดียวที่กำหนดไว้ หากไม่มี ให้สันนิษฐานว่าโค้ดนี้ไม่ได้ล้างแคช WAM)

  • MSAL_wam_cached_time_diff - ความแตกต่างของเวลาเป็นวินาทีระหว่างการตอบสนองของ WAM ที่แคชไว้และเวลาปัจจุบัน

  • MSAL_wam_cancel_ui_error - รหัสข้อผิดพลาด WAM

  • MSAL_wam_cancel_ui_timeout - สถานะของตัวจับเวลาการยกเลิก WAM UI ถ้ามีค่าอยู่ และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการปิด WAM

  • MSAL_wam_telemetry -ประกอบด้วยชุดของข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกล WAM ในสตริง JSON ที่จะแยกวิเคราะห์และแปลงเป็นเขตข้อมูลในเอกสารนี้ที่แหล่งข้อมูลมาจาก WAM

  • MSAL_was_request_throttled - True ถ้า MSAL ควบคุมคำขอนี้และป้องกันไม่ให้เข้าสู่เครือข่าย ถ้านี่เป็น true จะมีแนวโน้มที่จะวนรอบในการเรียกแอป

  • MSAL_write_account_status - ถ้ามีข้อผิดพลาดในการเขียนลงดิสก์ระหว่างการแคชบัญชี บริบทข้อผิดพลาดจะอยู่ที่นี่ (เช่น: เหมือนกับ write_token_error)

  • MSAL_write_token - โทเค็นที่เขียนจากแคช (AT, ART, FRT, LRT, IRT, PRT, EAT [EAT = AT หมดอายุถูกอ่านแล้ว แต่ถูกละทิ้ง])

  • MSAL_write_token_last_error - ถ้า MSAL พบข้อผิดพลาดในการเขียนจากแคช เราจะจัดเก็บข้อมูลไว้ที่นี่ (เช่น: ข้อผิดพลาดในการอ่านดิสก์ที่เกิดจากระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดของ Keychain บน macOS)

  • oneauth_api - OneAuth API ที่เรียกใช้สำหรับการพยายามรับรองความถูกต้องครั้งนี้

  • oneauth_transactionuploadid - GUID ระบุการเรียกใช้ OneAuth API แต่ละรายการ

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • Platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: เดสก์ท็อป Windows, 1: Android, 2: iOS, 3: macOS, 4: UWP)

  • Promptreasoncorrelationid - ตัวระบุความสัมพันธ์ที่สามารถใช้เพื่อค้นหาเหตุการณ์การรับรองความถูกต้องก่อนหน้านี้ ซึ่งถูกใช้เพื่ออธิบายว่าทําไมผู้ใช้จึงได้รับพร้อมท์ให้รับรองความถูกต้อง

  • Resource - ทรัพยากรที่ร้องขอโทเค็น

  • Scenarioid - เหตุการณ์หลายเหตุการณ์อาจอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เช่น สถานการณ์อาจเป็นการเพิ่มบัญชีใหม่ แต่มีพร้อมท์หลายรายการที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ดังกล่าว ตัวระบุนี้เปิดใช้งานความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเหล่านั้น [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Scenarioname - ชื่อของสถานการณ์ของแอปพลิเคชันที่จําเป็นต้องมีการรับรองความถูกต้อง เช่น การเริ่มต้นระบบครั้งแรก การตรวจสอบการให้สิทธิ์การใช้งาน ฯลฯ

  • Scope - ขอบเขตที่ร้องขอโทเค็น

  • Sdkver - เวอร์ชันของ Microsoft Auth Telemetry System (MATS) ใช้ในการสร้างข้อมูลนี้

  • Sessionid - ตัวระบุสำหรับเซสชันการเริ่มต้นระบบ

  • Starttime - เวลาเมื่อเริ่มเหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

  • Tenantid - GUID ที่ระบุผู้เช่า ซึ่งมีผู้ใช้ที่ผ่านการรับรองความถูกต้องอยู่ (ในกรณีที่ไม่ใช้ ADAL)

  • Uploadid - GUID เฉพาะสำหรับเหตุการณ์นี้ ใช้ในการลบข้อมูลที่ซ้ำกัน

  • wamapi - ระบุว่า Windows Web Account Management (WAM) ของ API ใดถูกเรียก

  • wamtelemetrybatch - ไม่ได้ใช้งานในขณะนี้ ในอนาคต จะอนุญาตให้ส่วนประกอบ WAM ส่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์การรับรองความถูกต้อง

  • WAM_account_join_on_end - สถานะการเข้าร่วมบัญชีเมื่อสิ้นสุดการดำเนินการ WAM ค่าที่เป็นไปได้: “ค่าหลัก”, “ค่ารอง”, “ไม่_เข้าร่วม”

  • WAM_account_join_on_start - สถานะการเข้าร่วมบัญชีเมื่อเริ่มการดำเนินการ WAM ค่าที่เป็นไปได้: “ค่าหลัก”, “ค่ารอง”, “ไม่_เข้าร่วม”

  • WAM_api_error_code - ถ้าการตอบสนองข้อผิดพลาดมาจากปลั๊กอิน WAM ของ Microsoft Entra เขตข้อมูลนี้จะมีอยู่และจะมีรหัสข้อผิดพลาดนั้น

  • WAM_authority - สตริงที่มี url ของหน่วยงาน ซึ่งควรจะเป็นจุดสิ้นสุดของ login.windows.net ที่ใช้

  • WAM_broker_version - แสดงหากใช้ WAM นี่คือสตริงเวอร์ชันตัวกลาง

  • WAM_cache_event_count - จำนวนของเหตุการณแคช WAM ภายในการดำเนินการ

  • wam-cache-invalidated - ค่าที่บ่งชี้ว่าแคช WAM นั้นใช้ไม่ได้ก่อนที่จะได้รับโทเค็นหรือไม่

  • WAM_cached_time_diff - ตัวเลขที่ระบุจำนวนวินาทีนับตั้งแต่มีการสร้าง/แคชการตอบสนอง

  • WAM_client_binary_version - เวอร์ชันไบนารีของไคลเอ็นต์ Microsoft Account Web Account Management

  • WAM_client_id - ตัวระบุสำหรับการเข้าร่วมกับข้อมูลบริการ นี้จะระบุแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์

  • WAM_correlation_id - ตัวระบุสำหรับการเข้าร่วมเหตุการณ์กับข้อมูลบริการ

  • WAM_device_join - สถานะการเข้าร่วมของอุปกรณ์ ค่าที่เป็นไปได้คือ "aadj", "haadj"

  • WAM_network_event_count - แสดง ถ้ามีการเรียกเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งครั้ง จำนวนเครือข่ายที่เรียกไปยังบริการสำหรับการดำเนินการ WAM นั้น

  • WAM_network_status - แสดง ถ้ามีการเรียกเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งครั้ง จะมีรหัสข้อผิดพลาด HTTP ถ้าการร้องขอเครือข่ายล้มเหลว

  • WAM_idp - ระบุว่ามีการใช้ WAM สำหรับผู้บริโภคหรือการรับรองความถูกต้องขององค์กร

  • WAM_is_cached - ระบุว่าการตอบสนองที่ให้มาโดย WAM ถูกดึงมาจากแคช

  • WAM_oauth_error_code - มีรหัสข้อผิดพลาดที่ส่งกลับโดยบริการเป็นส่วนหนึ่งของโพรโทคอล oauth

  • WAM_prompt_behavior - ระบุว่าพร้อมท์นี้ถูกบังคับโดยแอพหรือไม่ หรือ ถ้าคำขอนี้อาจข้ามพร้อมท์หากสามารถรับรองความถูกต้องแบบเงียบได้

  • WAM_provider_id - ระบุจุดสิ้นสุดของ Microsoft สำหรับสิทธิที่ใช้สำหรับสถานการณ์การตรวจสอบสิทธิ์

  • WAM_redirect_uri - URI การเปลี่ยนเส้นทางที่ลงทะเบียนไว้สําหรับแอปพลิเคชันใน Microsoft Entra ID

  • WAM_resource - ทรัพยากรที่มีการร้องขอโทเค็น

  • WAM_scope - ขอบเขตที่ร้องขอโดยไคลเอ็นต์ซึ่งโทเค็นต้องใช้

  • WAM_server_error_code - รหัสข้อผิดพลาดที่ส่งกลับโดยบริการไปยัง WAM

  • WAM_server_sub_code - รหัสข้อผิดพลาดเพิ่มเติมที่ใช้เพื่อแจกแจงสาเหตุของความล้มเหลวเพิ่มเติม ซึ่งส่งกลับโดยบริการ

  • WAM_silent_bi_sub_code - ข้อผิดพลาดย่อยที่ให้ความแม่นยำที่ลึกกว่าในรหัสข้อผิดพลาดของ API

  • WAM_silent_code - รหัสข้อผิดพลาดที่พบโดย WAM พยายามแบบเงียบภายในก่อนที่จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ

  • WAM_silent_mats - ที่ไม่ได้ใช้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • WAM_silent_message - ข้อความข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับ WAM พยายามแบบเงียบภายในทำให้ก่อนการพร้อมท์ผู้ใช้

  • WAM_silent_status - สถานะความสำเร็จ/ความล้มเหลวของความพยายามในการ WAM ภายในทำให้ก่อนการพร้อมท์ผู้ใช้

  • WAM_tenant_id - ตัวระบุสำหรับผู้เช่าที่ผู้ใช้ Microsoft Entra ที่ได้รับการรับรองความถูกต้องเป็นสมาชิก ถ้าส่งกลับมาจากบริการ

  • WAM_ui_allowed - ผู้ใช้อาจได้รับพร้อมท์สําหรับข้อมูลประจําตัวบัญชี Microsoft หรือไม่ ถ้าการรับโทเค็นแบบไม่แสดงข้อความล้มเหลว

  • WAM_ui_visible - แสดง ถ้าผู้ใช้แสดงหน้าต่าง UI อย่างน้อยหนึ่งหน้าต่างไม่ว่าจะเป็น ‘จริง’ หรือ ‘เท็จ’

  • WAM_wam_account_on_end - สถานะของบัญชีที่เชื่อมโยงกันหลังจากโฟลว์ได้สิ้นสุดแล้ว

  • WAM_wam_account_on_start - สถานะของบัญชีที่เชื่อมโยงกันเมื่อโฟลว์เริ่มต้นขึ้น

  • WAM_wam_blob_version - เวอร์ชันของชุดงาน json การวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับการจัดการบัญชีเว็บ

  • WAM_web_flow_result - รหัสข้อผิดพลาดจากการพร้อมท์ผู้ใช้สําหรับข้อมูลประจําตัวบัญชี Microsoft ของพวกเขา

  • WAM_x_ms_clitelem - แสดง ถ้าบริการส่งกลับส่วนหัวของ “x-ms-clitelem"

Office.MATS.OneAuth.TransactionMicrosoftOfficeAndroid

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เหตุการณ์นี้เป็นหลักของเหตุการณ์ ActionMicrosoftOfficeAndroid อย่างน้อยหนึ่งเหตุการณ์ ซึ่งทำให้จัดกลุ่มเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องได้ เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องจากบริการได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้หรือไม่

  • ประเมินเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการ ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งกับประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

  • เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

  • สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Actiontype - "oneauthtransaction" คือค่าเดียวเท่านั้น

  • Appaudience - ผู้ชมแอปพลิเคชัน (ระบบอัตโนมัติ ก่อนการผลิต หรือการผลิต)

  • Appname - ชื่อแอป

  • Appver - เวอร์ชันแอป

  • Authoutcome - การพยายามรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • Correlationid - ตัวระบุใช้เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการด้วยข้อมูลบริการ

  • Count - จำนวนครั้งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Devicenetworkstate - สถานะเครือข่ายของอุปกรณ์

  • Deviceprofiletelemetryid -ID การวัดและส่งข้อมูลทางไกล ของโปรไฟล์อุปกรณ์ (สตริงที่ใช้โดย MATS เพื่อระบุอุปกรณ์ที่ระบุ)

  • duration_max - ระยะเวลาขั้นต่ำหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_min - ระยะเวลาสูงสุดหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • Endtime - เวลาทรานแซคชัน OneAuth สิ้นสุด

  • Error - รหัสสถานะ OneAuth

  • Eventtype - ชนิดกิจกรรม

  • Issilent - False ถ้า UI แสดงอยู่ true ถ้าเป็นเหตุการณ์พื้นหลัง

  • oneauth_AadAccountCount - แสดงจำนวนบัญชี Microsoft Entra ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_Activeflights- รายการเวอร์ชันทดสอบที่ใช้งานอยู่ในเซสชันที่ใช้ในการทดสอบ AB

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_Domain - ถ้าการเรียกใช้ API ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดนี่คือโดเมนของระบบของข้อผิดพลาดดังกล่าว

  • oneauth_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth แทนที่เขตข้อมูล oneauth_errortag แบบเก่า

  • oneauth_errortag - ตัวระบุตัวเลขสำหรับบรรทัดของรหัสที่รับผิดชอบในการสร้างข้อผิดพลาด

  • oneauth_ExecutionFlow - ชุดแท็กที่ระบุ codepath การเรียกใช้ API นี้เอาไว้

  • oneauth_GenericAccountCount - แสดงจำนวนบัญชีทั่วไปที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_internalerror - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth

  • oneauth_MsaAccountCount - แสดงจำนวนบัญชีทั่วไปที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_Optional - การวินิจฉัยเพิ่มเติมของ OneAuth

  • oneauth_PublicStatus - มีสถานะสาธารณะของการเรียกใช้ OneAuth API ซึ่งทรานแซคชันนี้เกี่ยวข้อง

  • oneauth_ServerErrorCode - ข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์จะถูกส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปการเรียก API นี้ ถ้าพบข้อผิดพลาด

  • oneauth_SubStatus - รหัสแบบจํานวนเต็มที่ส่งกลับเมื่อมีปัญหาที่ผู้ใช้ได้รับผลกระทบ ระบุสาเหตุของความล้มเหลว (เช่น UserPasswordExpired = 6005, EnterProductKey = 6301 เป็นต้น)

  • oneauth_SystemErrorCode - ข้อผิดพลาดของระบบส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปของการเรียก API นี้ ถ้ามีการพบ

  • oneauth_Tag - แท็ก OneAuth ที่กำหนดตำแหน่งสุดท้ายในรหัสมาถึงตอนสรุปของการเรียก API นี้

  • oneauth_transactionuploadid - ระบุ GUID ภายในที่สร้างขึ้นแบบสุ่มที่แมปกับการเรียกใช้ API ของ OneAuth API เฉพาะ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • Platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: Win32, 1: Android, 2: iOS, 3: macOS, 4: WinRT)

  • Scenarioname - ชื่อของสถานการณ์สำหรับสิ่งที่การตรวจสอบสิทธิ์เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งระบุโดยการเรียกแอปพลิเคชัน

  • Schemaver - เวอร์ชัน Schema

  • Sdkver - เวอร์ชันของ MATS sdk

  • Sessionid - ID เซสชัน

  • severityError - ความร้ายแรง

  • sovereignty - ระบบคลาวด์แห่งชาติ: อินสแตนซ์ที่แยกจากกันทางกายภาพของ Azure (ทั่วโลก, เยอรมนี, จีน, รัฐบาลของสหรัฐฯ)

  • Starttime - เวลาเมื่อเริ่มทรานแซคชัน OneAuth

  • Timestamp - ประทับเวลา

  • Type - ชนิดข้อผิดพลาด

  • Uploaded - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการลบข้อมูล

Office.MATS.OneAuth.TransactionMicrosoftOfficeiOS

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์หลักของเหตุการณ์ ActionMicrosoftOfficeiOS อย่างน้อยหนึ่งเหตุการณ์ทำให้สามารถจัดกลุ่มเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันได้ เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สําเร็จหรืออยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้
  • ระบุการถดถอยที่สําคัญในประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในไคลเอ็นต์หรือบริการ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนขณะเปิด-ปิดเครื่องเพื่อให้วิศวกรสามารถบรรเทาปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  • สัญญาณความล้มเหลวจะส่งรหัสข้อผิดพลาดที่สําคัญจากคอมโพเนนต์ที่รับผิดชอบที่ใช้สําหรับการคัดกรอง วินิจฉัยและบรรเทาปัญหา

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • actiontype - "oneauthtransaction" คือค่าเดียวเท่านั้น

  • appaudience - กลุ่มเป้าหมายของแอปพลิเคชัน (การทำงานอัตโนมัติ ก่อนการผลิต หรือการผลิต)

  • appid - ID ของแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการแยกที่เก็บข้อมูลประจำตัว

  • appname - ชื่อแอป

  • appver - เวอร์ชันแอป

  • authoutcome - การพยายามรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • correlationid - ตัวระบุที่ใช้เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการที่มีข้อมูลบริการ

  • count - จํานวนรวมของทรานแซคชันรวมที่รายงานในเหตุการณ์ข้อมูลหนึ่งเหตุการณ์นี้

  • devicenetworkstate - สถานะเครือข่ายของอุปกรณ์

  • deviceprofiletelemetryid -ID การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของโปรไฟล์อุปกรณ์ (สตริงที่ใช้โดย MATS เพื่อระบุอุปกรณ์ที่ระบุ)

  • duration_max - ระยะเวลาขั้นต่ำหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_min - ระยะเวลาสูงสุดหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • endtime - เวลาทรานแซคชัน OneAuth สิ้นสุด

  • error- รหัสสถานะ OneAuth

  • eventtype - ชนิดกิจกรรม

  • issilent - False ถ้า UI แสดงอยู่ Ttrue ถ้าเป็นเหตุการณ์พื้นหลัง

  • oneauth_AadAccountCount - แสดงจำนวนบัญชี Microsoft Entra ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_ActiveFlights - แสดงจำนวนบัญชี AAD ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_Domain - ถ้าการเรียกใช้ API ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดนี่คือโดเมนของระบบของข้อผิดพลาดดังกล่าว

  • oneauth_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth แทนที่เขตข้อมูล oneauth_errortag แบบเก่า

  • oneauth_errortag - ตัวระบุตัวเลขสำหรับบรรทัดของรหัสที่รับผิดชอบในการสร้างข้อผิดพลาด

  • oneauth_ExecutionFlow - ชุดของแท็กที่ระบุเส้นทางโค้ดที่การเรียก API นี้ใช้

  • oneauth_GenericAccountCount - แสดงจำนวนบัญชีทั่วไปที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_internalerror - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth

  • oneauth_MsaAccountCount - แสดงจำนวนบัญชี MSA ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_Optional - การวินิจฉัยเพิ่มเติมของ OneAuth

  • oneauth_PublicStatus - มีสถานะสาธารณะของการเรียกใช้ OneAuth API ซึ่งทรานแซคชันนี้เกี่ยวข้อง

  • oneauth_ServerErrorCode - ข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์จะถูกส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปการเรียก API นี้ ถ้าพบข้อผิดพลาด

  • oneauth_SubStatus - รหัสแบบจํานวนเต็มที่ส่งกลับเมื่อมีปัญหาที่ผู้ใช้ได้รับผลกระทบ ระบุสาเหตุของความล้มเหลว (เช่น UserPasswordExpired = 6005, EnterProductKey = 6301 เป็นต้น)

  • oneauth_SystemErrorCode - ข้อผิดพลาดของระบบส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปของการเรียก API นี้ ถ้ามีการพบ

  • oneauth_Tag - แท็ก OneAuth ที่กำหนดตำแหน่งสุดท้ายในรหัสมาถึงตอนสรุปของการเรียก API นี้

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: Win32, 1: Android, 2: iOS, 3: MacOS, 4: WinRT)

  • scenarioname - ชื่อของสถานการณ์สำหรับสิ่งที่การตรวจสอบสิทธิ์เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งระบุโดยการเรียกแอปพลิเคชัน

  • schemaver - เวอร์ชัน Schema

  • sdkver - เวอร์ชันของ MATS sdk

  • sessionid - ID เซสชัน

  • severity - ความรุนแรงของข้อผิดพลาด

  • sovereignty - ระบบคลาวด์แห่งชาติ: อินสแตนซ์ที่แยกจากกันทางกายภาพของ Azure (ทั่วโลก, เยอรมนี, จีน, รัฐบาลของสหรัฐฯ)

  • Starttime - เวลาเมื่อเริ่มทรานแซคชัน OneAuth

  • telemetryregion - อธิบายประเทศหรือภูมิภาคที่บัญชีผู้ใช้เป็นสมาชิก เพื่อวัตถุประสงค์ในการกําหนดเส้นทางการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • timestamp - ประทับเวลา

  • type - ชนิดข้อผิดพลาด

  • uploadid - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการลบข้อมูล

Office.MATS.OneAuth.TransactionMicrosoftOfficeMac

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์หลักของเหตุการณ์ ActionMicrosoftOfficeMac อย่างน้อยหนึ่งเหตุการณ์ทำให้สามารถจัดกลุ่มเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันได้ เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องได้สําเร็จหรืออยู่ในสถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้
  • ระบุการถดถอยที่สําคัญในประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในไคลเอ็นต์หรือบริการ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนขณะเปิด-ปิดเครื่องเพื่อให้วิศวกรสามารถบรรเทาปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
  • สัญญาณเกี่ยวกับความล้มเหลวจะส่งรหัสข้อผิดพลาดที่สําคัญจากคอมโพเนนต์ที่รับผิดชอบที่ใช้สําหรับการคัดกรอง วินิจฉัย และบรรเทาปัญหา

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • actiontype - "oneauthtransaction" คือค่าเดียวเท่านั้น

  • appaudience - กลุ่มเป้าหมายของแอปพลิเคชัน (การทำงานอัตโนมัติ ก่อนการผลิต หรือการผลิต)

  • appid - ID ของแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับการแยกที่เก็บข้อมูลประจำตัว

  • appname - ชื่อแอป

  • appver - เวอร์ชันแอป

  • authoutcome - การพยายามรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • correlationid - ตัวระบุที่ใช้เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการที่มีข้อมูลบริการ

  • count - จํานวนรวมของทรานแซคชันรวมที่รายงานในเหตุการณ์ข้อมูลหนึ่งเหตุการณ์นี้

  • devicenetworkstate - สถานะเครือข่ายของอุปกรณ์

  • deviceprofiletelemetryid -ID การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของโปรไฟล์อุปกรณ์ (สตริงที่ใช้โดย MATS เพื่อระบุอุปกรณ์ที่ระบุ)

  • duration_max - ระยะเวลาขั้นต่ำหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_min - ระยะเวลาสูงสุดหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • endtime - เวลาทรานแซคชัน OneAuth สิ้นสุด

  • error- รหัสสถานะ OneAuth

  • eventtype - ชนิดกิจกรรม

  • issilent - False ถ้า UI แสดงอยู่ Ttrue ถ้าเป็นเหตุการณ์พื้นหลัง

  • oneauth_AadAccountCount - แสดงจำนวนบัญชี Microsoft Entra ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_ActiveFlights - แสดงจำนวนบัญชี AAD ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_Domain - ถ้าการเรียกใช้ API ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดนี่คือโดเมนของระบบของข้อผิดพลาดดังกล่าว

  • oneauth_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth แทนที่เขตข้อมูล oneauth_errortag แบบเก่า

  • oneauth_errortag - ตัวระบุตัวเลขสำหรับบรรทัดของรหัสที่รับผิดชอบในการสร้างข้อผิดพลาด

  • oneauth_ExecutionFlow - ชุดแท็กที่ระบุ codepath การเรียกใช้ API นี้เอาไว้

  • oneauth_GenericAccountCount - แสดงจำนวนบัญชีทั่วไปที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_internalerror - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth

  • oneauth_MsaAccountCount - แสดงจำนวนบัญชี MSA ที่ไม่ซ้ำกันในอุปกรณ์

  • oneauth_Optional - การวินิจฉัยเพิ่มเติมของ OneAuth

  • oneauth_PublicStatus - มีสถานะสาธารณะของการเรียกใช้ OneAuth API ซึ่งทรานแซคชันนี้เกี่ยวข้อง

  • oneauth_ServerErrorCode - ข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์จะถูกส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปการเรียก API นี้ ถ้าพบข้อผิดพลาด

  • oneauth_SystemErrorCode - ข้อผิดพลาดของระบบส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปของการเรียก API นี้ ถ้ามีการพบ

  • oneauth_Tag - แท็ก OneAuth ที่กำหนดตำแหน่งสุดท้ายในรหัสมาถึงตอนสรุปของการเรียก API นี้

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: Win32, 1: Android, 2: iOS, 3: MacOS, 4: WinRT)

  • scenarioname - ชื่อของสถานการณ์สำหรับสิ่งที่การตรวจสอบสิทธิ์เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งระบุโดยการเรียกแอปพลิเคชัน

  • schemaver - เวอร์ชัน Schema

  • sdkver - เวอร์ชันของ MATS Software Developer Kit (SDK)

  • sessionid - ID เซสชัน

  • severity - ความรุนแรงของข้อผิดพลาด

  • sovereignty - ระบบคลาวด์แห่งชาติ: อินสแตนซ์ที่แยกจากกันทางกายภาพของ Azure (ทั่วโลก, เยอรมนี, จีน, รัฐบาลของสหรัฐฯ)

  • Starttime - เวลาเมื่อเริ่มทรานแซคชัน OneAuth

  • telemetryregion - อธิบายประเทศหรือภูมิภาคที่บัญชีผู้ใช้เป็นสมาชิก เพื่อวัตถุประสงค์ในการกําหนดเส้นทางการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • timestamp - ประทับเวลา

  • type - ชนิดข้อผิดพลาด

  • uploadid - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการลบข้อมูล

Office.MATS.OneAuth.TransactionMicrosoftOfficeWin32

Microsoft Auth Telemetry System (MATS) จะมีการรวบรวมเมื่อ Office พยายามรับโทเค็นการรับรองความถูกต้อง ทั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบหรือผ่านพร้อมท์ เหตุการณ์นี้เป็นหลักของเหตุการณ์ ActionMicrosoftOffice อย่างน้อยหนึ่งเหตุการณ์ทำให้สามารถจัดกลุ่มเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันได้ เหตุการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้โดย:

  • การระบุว่าไคลเอ็นต์สามารถรับโทเค็นการรับรองความถูกต้องจากบริการได้สำเร็จหรือเข้าสู่สถานะการรับรองความถูกต้องที่ใช้งานไม่ได้หรือไม่

  • ประเมินเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับไคลเอ็นต์หรือบริการ ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างยิ่งกับประสบการณ์การรับรองความถูกต้องของผู้ใช้และความน่าเชื่อถือหรือไม่

  • เมื่อเกิดข้อผิดพลาด สัญญาณเหล่านี้จะแสดงรหัสความล้มเหลวที่สำคัญจากส่วนประกอบที่ได้รับผลกระทบ (รหัสไคลเอ็นต์ Office ไลบรารีการรับรองความถูกต้อง หรือบริการหน่วยงาน) ซึ่งสามารถใช้ในการคัดกรอง การวินิจฉัย และการบรรเทาได้

  • สัญญาณเหล่านี้จะสนับสนุนความพร้อมส่งข้อมูลและการตรวจสอบสถานภาพที่แสดงการเตือน เพื่อให้วิศวกรของเราสามารถแก้ไขและลดเวลาที่ใช้บรรเทาความล้มเหลวที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Actiontype - "oneauthtransaction" คือค่าเดียวเท่านั้น

  • Appaudience - ผู้ชมแอปพลิเคชัน (ระบบอัตโนมัติ ขั้นตอนก่อนการผลิต หรือการผลิต)

  • Appname - ชื่อแอป

  • Appver - เวอร์ชันแอป

  • Authoutcome - ความพยายามในการรับรองความถูกต้องสำเร็จ ล้มเหลว หรือถูกยกเลิก

  • Correlationid - ตัวระบุใช้เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แต่ละรายการด้วยข้อมูลบริการ

  • Count - จำนวนครั้งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Devicenetworkstate - สถานะเครือข่ายของอุปกรณ์

  • Deviceprofiletelemetryid -ID การวัดและส่งข้อมูลทางไกล ของโปรไฟล์อุปกรณ์ (สตริงที่ใช้โดย MATS เพื่อระบุอุปกรณ์ที่ระบุ)

  • duration_max - ระยะเวลาขั้นต่ำหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_min - ระยะเวลาสูงสุดหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • duration_sum - ผลรวมของระยะเวลาหน่วยเป็นมิลลิวินาทีของทรานแซคชันที่รวมอยู่ในสัญญาณนี้

  • Endtime - เวลาทรานแซคชัน OneAuth สิ้นสุด

  • Error - รหัสสถานะ OneAuth

  • Eventtype - ชนิดกิจกรรม

  • Issilent - False ถ้า UI แสดงอยู่ true ถ้าเป็นเหตุการณ์พื้นหลัง

  • oneauth_Activeflights - รายการเวอร์ชันทดสอบที่ใช้งานในเซสชัน ซึ่งใช้สำหรับการทดสอบ AB

  • oneauth_api - ระบุ API สาธารณะของ OneAuth ที่ถูกเรียกใช้

  • oneauth_Domain - ถ้าการเรียกใช้ API ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดนี่คือโดเมนของระบบของข้อผิดพลาดดังกล่าว

  • oneauth_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth แทนที่เขตข้อมูล oneauth_errortag แบบเก่า

  • oneauth_errortag - ตัวระบุตัวเลขสำหรับบรรทัดของรหัสที่รับผิดชอบในการสร้างข้อผิดพลาด

  • oneauth_ExecutionFlow - ชุดแท็กที่ระบุ codepath การเรียกใช้ API นี้เอาไว้

  • oneauth_internalerror - รหัสข้อผิดพลาดที่แสดงถึงสถานะข้อผิดพลาดภายในสำหรับ OneAuth

  • oneauth_ServerErrorCode - ข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์จะถูกส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปการเรียก API นี้ ถ้าพบข้อผิดพลาด

  • oneauth_SubStatus - รหัสแบบจํานวนเต็มที่ส่งกลับเมื่อมีปัญหาที่ผู้ใช้ได้รับผลกระทบ ระบุสาเหตุของความล้มเหลว (เช่น UserPasswordExpired = 6005, EnterProductKey = 6301 เป็นต้น)

  • oneauth_SystemErrorCode - ข้อผิดพลาดของระบบส่งกลับไปยัง OneAuth ที่ข้อสรุปของการเรียก API นี้ ถ้ามีการพบ

  • oneauth_Tag - แท็ก OneAuth ที่กำหนดตำแหน่งสุดท้ายในรหัสมาถึงตอนสรุปของการเรียก API นี้

  • oneauth_transactionuploadid - ระบุ GUID ภายในที่สร้างขึ้นแบบสุ่มที่แมปไปยังการเรียกใช้เฉพาะของ API ของ OneAuth

  • oneauth_version - เวอร์ชันของ OneAuth SDK

  • Platform - แพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ (0: Win32, 1: Android, 2: iOS, 3: macOS, 4: WinRT

  • Scenarioname - ชื่อของสถานการณ์สำหรับสิ่งที่การตรวจสอบสิทธิ์เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งระบุโดยการเรียกแอปพลิเคชัน

  • Schemaver - เวอร์ชัน Schema

  • Sdkver - เวอร์ชันของ MATS sdk

  • Sessionid - ID เซสชัน

  • severityError - ความร้ายแรง

  • Starttime - เวลาเมื่อเริ่มทรานแซคชัน OneAuth

  • Timestamp - ประทับเวลา

  • Type - ชนิดข้อผิดพลาด

  • Uploaded - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการลบข้อมูล

Office.Outlook.Mac.AddAccountConfigSession

เหตุการณ์นี้ถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้พยายามเพิ่มบัญชีผู้ใช้ของตนลงใน Outlook Mac ข้อมูลจากเหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อสร้างกรวยการดําเนินการของผู้ใช้ใน "เพิ่มเซสชันบัญชี"

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • AccountCount - หมายเลขบัญชีทั้งหมด

  • AccountFlowSessionIdentifier - UUID เพื่อติดตามเซสชัน "เพิ่มบัญชี"

  • ชนิดการเปิดใช้งาน - ชนิดสิทธิ์การใช้งานที่เปิดใช้งานไคลเอ็นต์

  • CommercialAccountCount - หมายเลขบัญชีเชิงพาณิชย์ทั้งหมด

  • ConfigurePhase - ระยะปัจจุบันที่ผู้ใช้อยู่ ในกระบวนการ "เพิ่มบัญชี"

  • DaysPassedOnDevice - จํานวนวันที่ผ่านไปตั้งแต่ติดตั้งแอปบนอุปกรณ์

  • EntryPoint - จุดเข้าใช้งานเพื่อเพิ่มบัญชี

  • EUPlacementPref - การกําหนดลักษณะตําแหน่ง EU ของบัญชี

  • HasCommercialAccount - มีบัญชีเชิงพาณิชย์ใดๆ

  • HasCompletedFirstRun - แอปเสร็จสิ้นการทํางานครั้งแรกแล้วก่อนที่จะผ่านเซสชันนี้หรือไม่

  • HasEUPlacementPref - ถ้าบัญชีมีการตั้งค่าการกําหนดลักษณะตําแหน่ง EU

  • HasPremiumAccount - มีบัญชีที่ชําระเงินแล้วใดๆ

  • InstallSource - ตําแหน่งที่ติดตั้งไคลเอ็นต์

  • IsAADC - มีบัญชีใดที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์อายุหรือไม่

  • IsAppStoreSKU - บัญชีที่ดาวน์โหลดจาก Apple App store

  • IsFreenix - ไคลเอ็นต์อยู่ในโหมด freenix

  • IsFRESession - เซสชันเป็นประสบการณ์เวลาที่เรียกใช้ครั้งแรก

  • IsLicensed - ไคลเอ็นต์ได้รับอนุญาตให้ใช้งาน

  • IsPreview - เป็นไคลเอ็นต์ในโหมด Phoenix

  • IsSessionAdsEligible - ลูกค้ามีสิทธิ์ในโฆษณา

  • IsSessionAdsSupported - โฆษณาได้รับการสนับสนุนโดยไคลเอ็นต์หรือไม่

  • License Type - ชนิดสิทธิ์การใช้งานไคลเอ็นต์

  • PremiumAccountsCount - หมายเลขบัญชีพรีเมียมทั้งหมด

  • Result - เพิ่มเซสชันบัญชีสําเร็จ

  • ServiceProviderType - ชนิดการซิงค์ปัจจุบันของบัญชีคืออะไร

  • SourceTagDescription - คําอธิบายของเหตุการณ์ปัจจุบัน

  • SyncType - ชนิดการซิงค์ปัจจุบันของบัญชีคืออะไร

OneNote.SignIn.SSOExternalAppsAccountFound

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้เมื่อพบบัญชีที่มีโทเค็นรีเฟรชที่ถูกต้องในรายการบัญชีที่จัดหาโดย TokenSharingManager สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียว (SSO) โดยเฉพาะ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AccountType - บันทึกชนิดของบัญชี

  • ProviderPackageID - บันทึก ID แพคเกจของแอปที่จัดหาบัญชีนี้

OneNote.SignIn.SSOExternalAppsInvalidAccount

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อมีข้อผิดพลาดเมื่อพยายามรับโทเค็นรีเฟรชสำหรับบัญชีในรายการบัญชีที่จัดหาโดย TokenSharingManager สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียว (SSO) โดยเฉพาะ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • RawError - บันทึกข้อผิดพลาดดิบที่ได้รับเมื่อพยายามรับโทเค็นรีเฟรชด้วยบัญชีที่ระบุ

OneNote.StickyNotes.FetchTokenCompleted

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกหลังการรับรองความถูกต้องเมื่อดึงข้อมูลโทเค็นรีเฟรชเสร็จสมบูรณ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorMessage - ถ้าการดึงข้อมูลโทเค็นล้มเหลว การดำเนินการนี้จะบันทึกข้อความแสดงข้อผิดพลาด

  • Result - บันทึกผลลัพธ์ของความพยายามในการดึงข้อมูลโทเค็น

  • StickyNoteAccountType - บันทึกชนิดบัญชีสำหรับแอปที่พยายามดึงข้อมูลโทเค็นรีเฟรช

เหตุการณ์คลิก-ทู-รัน

Office.ClickToRun.Bootstrapper

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ setup.exe ของ Office เพื่อปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งอยู่ ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office เต็มรูปแบบที่เริ่มต้นโดยผู้ใช้ รวมถึงการตรวจสอบข้อกำหนดเบื้องต้น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_BootStrapperStateFailure_ErrorCode – รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_BootStrapperStateFailure_ErrorSource - ฟังก์ชันที่เราล้มเหลว

  • Data_BootStrapperStateFailure_FailingState – ส่วนที่เราล้มเหลวใน Bootstrapper

  • Data_BootStrapperStateFailure_OExceptionType - ชนิดข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_Culture - วัฒนธรรมที่เราเรียกใช้ไฟล์ exe นี้ เช่น en-us

  • Data_HashedOLSToken - แฮช sha 256 ของโทเค็นที่บริการ OLS มอบให้เรา

  • Data_Platform - การติดตั้ง x64 หรือ x86

  • Data_PrereqFailure_Type – ความล้มเหลวของข้อกำหนดเบื้องต้นที่เราประสบ เช่น ไม่รองรับระบบปฏิบัติการ

  • Data_ProductReleaseId - ผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังติดตั้ง เช่น Microsoft 365 Apps for enterprise

Office.ClickToRun.CorruptionCheck

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รันเรียกใช้การตรวจสอบความเสียหายเพื่อให้มั่นใจว่าไบนารี Office ถูกต้อง ใช้ในการประเมินความเสียหายของไบนารี Office และระบุว่าไบนารีใดเสียหาย

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • Data_Active - - ไฟล์กำกับสตรีมปัจจุบันที่เรากำลังตรวจสอบบนดิสก์

  • Data_ActivePackage - แพคเกจที่ไฟล์กำกับมี

  • Data_ActiveVersion - เวอร์ชันของไฟล์กำกับ

  • Data_AddFileCount - จำนวนไฟล์ที่เรากำลังเพิ่ม

  • Data_AddFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่เรากำลังเพิ่ม

  • Data_CompressionLevel - วิธีการบีบอัดไฟล์

  • Data_CorruptionCheckLevel - ระดับความละเอียดที่เราตรวจสอบความเสียหาย ขั้นตอน

  • Data_CorruptSizeCount - จำนวนไฟล์ที่มีขนาดที่เสียหาย

  • Data_CorruptSizeFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่มีขนาดที่เสียหาย

  • Data_CorruptVersionCount - จำนวนไฟล์ที่มีเวอร์ชันที่เสียหาย

  • Data_CorruptVersionFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่มีเวอร์ชันที่เสียหาย

  • Data_FileBadDigestCount -จำนวนไฟล์ที่เราไม่สามารถเปิดได้

  • Data_FileBadDigestFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่เราไม่สามารถเปิดได้

  • Data_FileNotSignedCount - จำนวนไฟล์ที่ไม่ได้รับการรับรอง

  • Data_FileNotSignedFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่ไม่ได้รับการรับรอง

  • Data_FileNotTrustedCount - จำนวนไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

  • Data_FileNotTrustedFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่เราไม่เชื่อถือ

  • Data_IncompleteFileCount- จำนวนไฟล์ที่ดูเหมือนว่าไม่สมบูรณ์

  • Data_IncompleteFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์

  • Data_KeepFileCount - จำนวนไฟล์ที่เราไม่ได้ดำเนินการ

  • Data_KeepFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่เราเก็บไว้

  • Data_KeepIncompleteFileCount - จำนวนไฟล์ที่เราไม่ได้เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม

  • Data_KeepIncompleteFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์ที่เราเก็บไว้

  • Data_MismatchSizeCount - จำนวนไฟล์ที่มีขนาดไม่ตรงกับไฟล์กำกับของเรา

  • Data_MismatchSizeFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่มีขนาดไม่ตรงกัน

  • Data_MismatchVersionCount - จำนวนไฟล์ที่มีเวอร์ชันไม่ตรงกับไฟล์กำกับของเรา

  • Data_MismatchVersionFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่มีเวอร์ชันไม่ตรงกัน

  • Data_MissingFileCount - จำนวนไฟล์ที่ดูเหมือนว่าหายไป

  • Data_MissingFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่หายไป

  • Data_NotToBeStreamedFileCount - จำนวนไฟล์ที่เราไม่ได้สตรีม

  • Data_RemoveFileCount - จำนวนไฟล์ที่เรากำลังนำออก

  • Data_RemoveFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่เรากำลังนำออก

  • Data_StreamUnitsMismatchCount - จำนวนไฟล์ที่มีหน่วยไม่ตรงกับไฟล์กำกับ

  • Data_StreamUnitsMismatchFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่มีการสตรีมหน่วยไม่ตรงกัน

  • Data_TimeElapsed - ระยะเวลาที่เราใช้ในการตรวจสอบความเสียหาย

  • Data_UpdateFileCount - จำนวนไฟล์ที่เรากำลังอัปเดต

  • Data_UpdateFileFiles - ตัวอย่างไฟล์ที่เรากำลังเพิ่ม

  • Data_Working - ไฟล์กำกับใหม่ที่เรากำลังตรวจสอบ

  • Data_WorkingVersion - เวอร์ชันของไฟล์กำกับใหม่

Office.ClickToRun.MachineMetadata

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่แสดงเมตาดาต้าที่จำเป็นสำหรับการตั้งค่าและสรุปรายการ และใช้ในการกำหนดฐานการติดตั้งอย่างแม่นยำ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_C2RClientVer– เวอร์ชันของ OfficeClickToRun.exe บนเครื่อง

  • Data_OfficeBitness – จำนวนบิตที่ใช้ในการติดตั้ง Office x86 หรือ x64

  • Data_OfficeVersion - เวอร์ชันของ Office ที่ติดตั้ง

  • Data_Sku ที่ติดตั้งไว้เช่น Microsoft 365 Apps for enterprise

  • Data_SqmMachineID – ID เฉพาะของเครื่องที่ใช้โดยข้อมูล SQM ของ WindowsSusClientID- ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

Office.ClickToRun.ODT

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อผู้ดูแลระบบ IT เรียกใช้ setup.exe แบบคลิก-ทู-รันของเครื่องมือการปรับใช้ Office เพื่อปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งอยู่ของผู้ใช้ ซึ่งใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office เต็มรูปแบบที่เริ่มต้นโดยผู้ดูแลระบบ IT รวมถึงการตรวจสอบข้อกำหนดเบื้องต้น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_BootStrapperStateFailure_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_BootStrapperStateFailure_ErrorSource - ฟังก์ชันที่เราล้มเหลว

  • Data_BootStrapperStateFailure_FailingState - ส่วนที่เราล้มเหลวใน Boot-strapper

  • Data_BootStrapperStateFailure_OExceptionType - ชนิดข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_ConfigurationHost - โฮสต์ที่ส่ง configuration.xml

  • Data_ConfigurationId - ID ที่เราได้รับจาก configuration.xml

  • Data_ConfigurationSource - แหล่งข้อมูลที่ส่ง configuration.xml

  • Data_Culture- - วัฒนธรรมที่เราเรียกใช้ไฟล์ exe นี้ เช่น en-us

  • Data_HashedOLSToken - แฮช sha 256 ของโทเค็นที่บริการ OLS มอบให้เรา

  • Data_MigrateArchRequest - ระบุว่าเราโยกย้ายผู้ใช้จาก x86 เป็น x64 หรือในทางกลับกันหรือไม่

  • Data_MigrateArchRequestValid - ระบุว่าเราเชื่อว่าคำขอโยกย้ายถูกต้องหรือไม่

  • Data_Platform - การติดตั้ง x64 หรือ x86

  • Data_PlatformMigratedFrom - แพลตฟอร์มเริ่มต้น เช่น x86

  • Data_PlatformMigratedTo - แพลตฟอร์มสิ้นสุด เช่น x64

  • Data_PrereqFailure_Type - สถานการณ์ไม่ผ่านข้อกำหนดเบื้องต้นที่เราพบ

  • Data_ProductReleaseId - ผลิตภัณฑ์ที่เรากำลังติดตั้ง เช่น Microsoft 365 Apps for enterprise

Office.ClickToRun.RepomanLogger

รายงานเกี่ยวกับสถานะสำหรับไปป์ไลน์การอัปเดตคลิก-ทู-รันแบบใหม่ ("Repoman") และถ้าการดาวน์โหลดสำเร็จและนำไปใช้กับการอัปเดตของ Office ได้อย่างสมบูรณ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • ApplySucceeded- True ถ้าไปป์ไลน์นำไปใช้กับการอัปเดต Office ได้สำเร็จ และ false ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น

  • DownloadSucceeded- True ถ้าไปป์ไลน์ดาวน์โหลดการอัปเดต Office ได้สำเร็จ และ false ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น

  • ErrorCode - รหัสของข้อผิดพลาดล่าสุดที่เกิดขึ้นในไปป์ไลน์คลิก-ทู-รัน Repoman

  • ErrorDetails - รายละเอียดข้อผิดพลาดเพิ่มเติมของข้อผิดพลาดล่าสุดที่เกิดขึ้นในไปป์ไลน์คลิก-ทู-รัน Repoman

  • ErrorMessage- ข้อความของข้อผิดพลาดล่าสุดที่เกิดขึ้นในไปป์ไลน์คลิก-ทู-รัน Repoman

  • OpenStreamSessionSucceeded- True ถ้าไปป์ไลน์สร้างเซสชันสำหรับการสตรีมการอัปเดต Office ได้อย่างสมบูรณ์ และ false ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น

  • RepomanErrorMessage- ข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่ได้รับจาก repoman.dull

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskConfigure

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังวางไฟล์ที่ดาวน์โหลดใหม่ ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskConfigurelight

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังระบุไฟล์ที่จำเป็นต้องดาวน์โหลด ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskFinalintegrate

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังติดตั้งสิทธิการใช้งานและการตั้งค่ารีจิสทรี ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskFonts

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังติดตั้งฟอนต์ ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskInitupdates

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังสร้างการตั้งค่าเพื่อให้การอัปเดตทำงานได้อย่างถูกต้อง ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskIntegrateinstall

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังสร้างรายการรีจิสทรีสำหรับแอปพลิเคชัน Office ที่ใช้เพื่อวัดความสำเร็จ / ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskLastrun

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังเสร็จสิ้นการติดตั้ง ปักหมุดทางลัด และสร้างการตั้งค่ารีจิสทรีขั้นสุดท้าย ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskMigrate

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังโยกย้ายการตั้งค่าจาก Office เวอร์ชันที่เก่ากว่า ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskPublishrsod

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office กำลังเผยแพร่รีจิสทรีเสมือนสำหรับเลเยอร์การจำลองเสมือน AppV ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่กำลังทำงานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskRemoveinstallation2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskRemoveinstallation]

เหตุการณ์นี้จะรวบรวมการตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการเมื่อตัวถอนการติดตั้ง Office กําลังนําส่วนต่างๆ ของ Office ออกจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ ข้อมูลจะใช้เพื่อวัดความสําเร็จหรือความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN เครือข่ายการให้บริการเนื้อหา หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่ เช่น ติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskStream2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskStream]

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อมีการติดตั้ง Office จะดาวน์โหลดไฟล์ใหม่สำหรับ Office ข้อมูลจะใช้เพื่อวัดความสําเร็จหรือความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN เครือข่ายการให้บริการเนื้อหา หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น ติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.InstallTaskUninstallcentennial

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อตัวติดตั้ง Office จะถอนการติดตั้ง Office เวอร์ชันก่อนหน้าจาก Store ใช้ในการประเมินความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการติดตั้ง Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.RepairTaskFinalintegrate

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อไคลเอ็นต์การซ่อมแซม Office เผยแพร่ไฟล์ msi และส่วนขยายของ Office อีกครั้ง ใช้การวัดความสำเร็จของ / การซ่อมแซมล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - - ถ้าเราเชื่อว่า สามารถละเว้นข้อผิดพลาด

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.RepairTaskFullrepair2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Scenario.RepairTaskFullrepair]

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อไคลเอ็นต์ซ่อมแซม Office ดาวน์โหลดไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รันการเตรียมคอมพิวเตอร์ถอนการติดตั้ง และติดตั้งเวอร์ชันล่าสุด ข้อมูลจะใช้เพื่อวัดความสําเร็จหรือความล้มเหลวของการซ่อมแซม Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN เครือข่ายการให้บริการเนื้อหา หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น ติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.RepairTaskIntegraterepair

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อไคลเอ็นต์ซ่อมแซม Office พยายามซ่อมแซมบางรายการรีจิสทรีคลิกตกลงก่อนที่ทราบแล้ว ใช้การวัดความสำเร็จของ / การซ่อมแซมล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - - ถ้าเราเชื่อว่า สามารถละเว้นข้อผิดพลาด

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.RepairTaskRemoveinstallation

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อไคลเอ็นต์ซ่อมแซม Office เอา Office จากอุปกรณ์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการติดตั้งใหม่เมื่อการซ่อมแซม ใช้การวัดความสำเร็จของ / การซ่อมแซมล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskIntegrateupdate

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อคลิก-ทู-รันไคลเอ็นต์การปรับปรุงสิทธิ์การใช้งานถ้าจำเป็น ใช้การวัดความสำเร็จของ / การปรับปรุงความล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskPublishrsod

ติดตั้ง office และสินค้าคงคลังรวบรวมเมื่อคลิก-ทู-รันไคลเอ็นต์การปรับปรุงการตั้งค่ารีจิสทรีสำหรับไบนารีใหม่ ใช้การวัดความสำเร็จของ / การปรับปรุงความล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdateapply

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อคลิก-ทู-รันไคลเอนต์ปิดใช้งานแอถ้าจำเป็น และติดตั้งไฟล์ใหม่ที่ดาวน์โหลด ใช้การวัดความสำเร็จของ / การปรับปรุงความล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_AvailableVersion to - Office เวอร์ชันใดบ้างที่พร้อมให้อัปเดต

  • Data_CompletedWithoutActionInfo - เหตุใดเราจึงไม่ทําสถานการณ์เสร็จสมบูรณ์ เช่น แอปเปิดอยู่

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_CorruptionChecksOnly - ถ้าเราตรวจสอบความเสียหายเท่านั้นและไม่ได้อัปเดต

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_HardlinkingException - ข้อยกเว้นที่เราพบเมื่อพยายามสร้าง Hardlink

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_PackageOperationSuccessful - True ถ้าเราทํางานของเราบนแพคเกจ Office เสร็จเรียบร้อยแล้ว

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

  • Data_WorkstationLockState - True ถ้าเราคิดว่า คอมพิวเตอร์ถูกล็อก

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdateclientdownload2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdateclientdownload]

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อคลิก-ทู-รันไคลเอนต์ดาวน์โหลดรุ่นที่ใหม่กว่าของตัวเอง ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดความสําเร็จหรือความล้มเหลวของการอัปเดต Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN เครือข่ายการให้บริการเนื้อหา หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น ติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdatedetection

ติดตั้ง office และรวบรวมข้อมูลสินค้าคงคลังเมื่อไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รันการตรวจสอบว่า มีการอัปเดตใหม่พร้อมใช้งาน ใช้การวัดความสำเร็จของ / การปรับปรุงความล้มเหลวของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_AvailableVersion - Office เวอร์ชันใดที่พร้อมให้อัปเดต

  • Data_ComAction - int ที่แสดงถึงการดำเนินการ com ที่เรากำลังดำเนินการอยู่

  • Data_CompletedWithoutActionInfo - เหตุใดเราจึงไม่ทําสถานการณ์เสร็จสมบูรณ์ เช่น แอปเปิดอยู่

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_PackageUpdateAvailable - True ถ้าเรามี Office เวอร์ชันใหม่พร้อมใช้งาน

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น การติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdatedownload2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdatedownload]

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อไคลเอนต์คลิก-ทู-รันดาวน์โหลดการอัปเดตใหม่ ใช้ในการวัดความสำเร็จหรือล้มเหลวของการอัปเดต Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN เครือข่ายการให้บริการเนื้อหา หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_AvailableVersion - Office เวอร์ชันใดที่พร้อมให้อัปเดต

  • Data_CompletedWithoutActionInfo - เหตุใดเราจึงไม่ทําสถานการณ์เสร็จสมบูรณ์ เช่น แอปเปิดอยู่

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_CorruptionChecksOnly - ถ้าเราตรวจสอบความเสียหายเท่านั้นและไม่ได้อัปเดต

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_FoundCorruptFiles - True ถ้าเราพบไฟล์ที่เสียหาย

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_PackageOperationSuccessful - True ถ้าเราทํางานของเราบนแพคเกจ Office เสร็จเรียบร้อยแล้ว

  • Data_PipelineExitCode - รหัสการออกของไปป์ไลน์ไฟล์ของเราถูกส่งกลับ

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น ติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdatefinalize2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Scenario.UpdateTaskUpdatefinalize]

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รันกำลังล้างข้อมูลจากการอัปเดต และคืนค่าแอปที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ใช้ในการวัดความสำเร็จหรือล้มเหลวของการอัปเดต Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_15_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 15 เช่น CDN เครือข่ายการให้บริการเนื้อหา หรือภายในเครื่อง

  • Data_15_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 15

  • Data_15_UpdateVersion - Office 15 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_15_Version - เวอร์ชัน Office 15

  • Data_16_SourceType - ตําแหน่งที่ตั้งของแหล่งข้อมูล Office 16 เช่น CDN หรือภายในเครื่อง

  • Data_16_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office 16

  • Data_16_UpdateVersion - Office 16 เวอร์ชันใดที่เรากําลังอัปเดต

  • Data_16_Version - เวอร์ชัน Office 16

  • Data_AddingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_AddingProducts - ผลิตภัณฑ์ใดที่มีการขอให้เราเพิ่ม

  • Data_CompletionState - ถ้าเราทํางานเสร็จสิ้น

  • Data_ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลว

  • Data_ErrorDetails - รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

  • Data_ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดพลาด

  • Data_ErrorSource - ตําแหน่งที่เกิดข้อผิดพลาด

  • Data_ExceptionType - ข้อยกเว้นที่เราล้มเหลว

  • Data_IsErrorCodeIgnorable - ถ้ารหัสข้อผิดพลาดที่เราล้มเหลวสามารถละเว้นได้

  • Data_IsErrorCodeIgnorableForScenarioHealth - ถ้าเราเชื่อว่าสามารถละเว้นรหัสข้อผิดพลาดได้

  • Data_NewestPackageVersion - Office เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในเครื่อง

  • Data_OldestPackageVersion - Office เวอร์ชันเก่าที่สุดในเครื่อง

  • Data_ProductsToAdd - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังเพิ่ม

  • Data_ProductsToRemove - ผลิตภัณฑ์ Office ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingFixedProducts - ผลิตภัณฑ์ที่เรากําลังนําออก

  • Data_RemovingProducts - ผลิตภัณฑ์ที่มีการขอให้เรานำออก

  • Data_ScenarioInstanceID - GUID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับสถานการณ์ที่กําลังทํางานอยู่

  • Data_ScenarioName - สถานการณ์ที่ทํางานอยู่ เช่น ติดตั้ง

  • Data_ScenarioSubType - ชนิดของสถานการณ์ที่เราใช้งานอยู่ เช่น ถอนการติดตั้ง ติดตั้งใหม่

  • Data_SourceType - ตำแหน่งของแหล่งข้อมูลของเรา เช่น CDN

  • Data_SqmMachineID - รหัสเครื่องเฉพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้โดย Windows SQM

  • Data_SusClientID - ตัวระบุการอัปเดต Office ของเครื่อง

  • Data_TaskState - งานอยู่ในสถานะใด เช่น ทำงานอยู่หรือถูกยกเลิก

  • Data_TotalClientCabSize - ขนาด cab ของลูกค้าของเรา

  • Data_TriggeringUI - สิ่งที่ทริกเกอร์ UI

  • Data_UpdatesEnabled - ถ้าเปิดใช้งานการอัปเดต Office

  • Data_Version - เวอร์ชันของ Office

Office.ClickToRun.Transport2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.Transport]

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อใดก็ตามที่คลิก-ทู-รันพยายามดาวน์โหลดไฟล์ที่จําเป็นสําหรับการติดตั้ง Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อกําหนดความสําเร็จของการดําเนินการ ชนิดของการดาวน์โหลดที่ดําเนินการและข้อมูลการวินิจฉัย

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • BytesFromGroupPeers - ไบต์จากเพียร์กลุ่ม เฉพาะสําหรับการดาวน์โหลดที่ใช้การปรับการนำส่งให้เหมาะสม (DO)

  • BytesFromHttp - ไบต์จาก http เฉพาะสําหรับการดาวน์โหลดที่ใช้การปรับการนำส่งให้เหมาะสม (DO)

  • ByteFromInternetPeers - ไบต์จากเพียร์ทางอินเทอร์เน็ต เฉพาะสําหรับการดาวน์โหลดที่ใช้การปรับการนำส่งให้เหมาะสม (DO)

  • BytesFromLanPeers - ไบต์จากเพียร์ Lan เฉพาะสําหรับการดาวน์โหลดที่ใช้การปรับการนำส่งให้เหมาะสม (DO)

  • CancelledJobs - จํานวนคําขอที่ยกเลิกในเซสชัน

  • Connected - เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหรือไม่

  • ErrorCode - รหัสของข้อผิดพลาดล่าสุด

  • ErrorDetails - รายละเอียดของข้อผิดพลาดล่าสุด

  • ErrorMessage - ข้อความของข้อผิดพลาดล่าสุด

  • ErrorSource - แหล่งข้อมูลของข้อผิดพลาดล่าสุด เช่น การเชื่อมต่อ LoadFile หรือ LoadRange

  • FailedElla - จํานวนคำขอที่ล้มเหลวในเซสชัน

  • FileSize - ขนาดของทรัพยากร

  • SourcePathNoFilePath - เส้นทางต้นทางของทรัพยากรเฉพาะ http ต้นทางเท่านั้นที่ถูกรายงาน เส้นทางไฟล์ภายในเครื่องหรือเส้นทาง UNC จะถูกกรอง

  • SucceededJobs - จํานวนคําขอที่สําเร็จในเซสชัน

  • TotalJobs - จํานวนคําขอทั้งหมดในเซสชัน

  • TotalRequestedBytes - ผลรวมไบต์ที่ร้องขอในเซสชัน

  • TotalTransferTime - เวลาถ่ายโอนทั้งหมดในเซสชัน

  • TransferredBytes - ผลรวมไบต์ที่ถ่ายโอนในเซสชัน

  • TransportType - ชนิดของการส่งผ่าน เช่น ในการปรับการนำส่งหน่วยความจําให้เหมาะสม, HTTP, Background Intelligent Transfer Service (BITS)

Office.ClickToRun.Transport.ExperimentalTransport.PipelineCreateTransport

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รันกำลังสร้างสตรีมการส่งผ่านเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ Office ใช้สำหรับกำหนดสถานภาพของเทคโนโลยีการส่งผ่านต่างๆ (เช่น HTTP, BITS, DO) ที่มีความสำคัญต่อการดาวน์โหลด Office อย่างถูกต้องสำหรับการติดตั้งและการอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_IsForeGroundStreaming – ถ้าเรากำลังสตรีมในพื้นหน้าหรือพื้นหลัง

  • Data_IsInstallMode – 1 ถ้าเรากำลังติดตั้งและดาวน์โหลดไฟล์ เป็น 0 ถ้าไม่ใช่

  • Data_SourceProtocol – ถ้าเรากำลังดาวน์โหลดจากเครือข่ายข้อมูลเนื้อหา, CDN, เครื่องที่เรากำลังติดตั้ง, ภายใน, หรือจากทรัพยากรบนเครือข่ายท้องถิ่น

  • Data_Status – สำเร็จหรือล้มเหลว

Office.ClickToRun.UpdateStatus

การตั้งค่า Office และข้อมูลสรุปรายการที่รวบรวมไว้เมื่อไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รันกำลังเสร็จสิ้นสถานะการอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_build - เวอร์ชันของ Office ที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน

  • Data_channel – แชนเนลที่ผู้ใช้ใช้งานอยู่

  • Data_errorCode – โค้ดจำนวนเต็มที่ระบุชนิดของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถ้ามี

  • Data_errorMessage – สตริงที่ให้คำอธิบายข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถ้ามี

  • Data_status – สถานะสั้นๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการอัปเดต เช่น สำเร็จหรือดาวน์โหลดแล้ว

  • Data_targetBuild - เวอร์ชันของ Office ที่เรากำลังพยายามที่จะอัปเดต

Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.Application2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.Application]

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ตัวติดตั้ง Office เพื่อปรับเปลี่ยนการติดตั้ง Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อรายงานผลลัพธ์ของความพยายามในการติดตั้งตั้งแต่ต้นจนจบ

  • ErrorCode - ค่าจํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ErrorDetails - สตริงที่อธิบายตําแหน่งที่ตั้งของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ที่เกิดขึ้น (ฟังก์ชัน ไฟล์ หมายเลขบรรทัด พารามิเตอร์เพิ่มเติมที่กําหนดโดยตัวส่ง)

  • ErrorMessage - สตริงที่กําหนดไว้ที่จุดที่มีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้เกิดขึ้น ซึ่งอธิบายลักษณะของความล้มเหลว

  • ErrorType - สตริงที่อธิบายถึงประเภทของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ExitCode - ค่าจํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ของการเรียกใช้ bootstrapper ซึ่งระบุความสําเร็จเทียบกับชนิดของความล้มเหลวที่ระบุ

Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.CalculateParameters2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.CalculateParameters]

รายงานเกี่ยวกับการดำเนินการที่มีเหตุผลเหนืออินพุทที่รวบรวมโดยใช้ CollectParameters

  • BitField - ค่าจํานวนเต็มของอาร์กิวเมนต์ BitField ที่บอกให้เราทราบว่ามีการร้องขอช่องทางการติดตั้ง/อัปเดตอย่างชัดเจนหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ตัวเลือกรุ่นเบต้า, ตัวเลือกปัจจุบัน (พรีวิว), ตัวเลือกปัจจุบัน, ตัวเลือกระดับองค์กรรายเดือน, ตัวเลือกระดับองค์กรรายครึ่งปี (พรีวิว) หรือ ตัวเลือกระดับองค์กรรายครึ่งปี

  • ChannelID - จํานวนเต็มที่แสดงค่า enum ของแชนเนลการอัปเดต/การติดตั้งที่เลือก ตัวอย่างเช่น ตัวเลือกรุ่นเบต้า, ตัวเลือกปัจจุบัน (พรีวิว), ตัวเลือกปัจจุบัน, ตัวเลือกระดับองค์กรรายเดือน, ตัวเลือกระดับองค์กรรายครึ่งปี (พรีวิว) ตัวเลือกระดับองค์กรรายครึ่งปี หรือ ตัวเลือกที่ไม่ถูกต้อง

  • CMDMode – สตริงที่เรียกง่ายที่สอดคล้องกับที่ตรวจพบการสลับโหมดโดยรวมในอาร์กิวเมนต์ cmd ส่งผ่านไปยัง exe ความเป็นไปได้คือ: autorun, กำหนดค่า, ผู้บริโภค, ดาวน์โหลด, วิธีใช้, ตัวสร้างแพคเกจ

  • C2RClientUICulture - การพัฒนาของไคลเอ็นต์ C2R ที่จะติดตั้ง

  • ErrorCode - ค่าจํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ErrorDetails - สตริงที่อธิบายตําแหน่งที่ตั้งของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ที่เกิดขึ้น (ฟังก์ชัน ไฟล์ หมายเลขบรรทัด พารามิเตอร์เพิ่มเติมที่กําหนดโดยตัวส่ง)

  • ErrorMessage - สตริงที่กําหนดไว้ที่จุดที่มีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้เกิดขึ้น ซึ่งอธิบายลักษณะของความล้มเหลว

  • ErrorType - สตริงที่อธิบายถึงประเภทของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ExcludedApps - สตริงที่แสดงชื่อแอปพลิเคชัน Office แต่ละรายการที่ร้องขอให้แยกออกจากชุดโปรแกรม Office ที่ติดตั้ง

  • InstalledCabVersion – เวอร์ชัน "16.0.xxxxx.yyyyy" ของไคลเอ็นต์ C2R ของ Office ติดตั้งไว้แล้ว

  • InstalledProductVersion – เวอร์ชัน "16.0.xxxxx.yyyyy" ของผลิตภัณฑ์ C2R ของ Office ติดตั้งไว้แล้ว

  • IsC2RServiceRunning – ค่าสถานะบูลีนที่บ่งชี้ว่าบริการคอมพิวเตอร์เฉพาะที่ของไคลเอ็นต์ C2R สมัยใหม่ทำงานบนอุปกรณ์หรือไม่

  • IsElevatedFlagSet - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่า bootstrapper ได้พยายามยกระดับผู้ดูแลระบบแล้วหรือไม่

  • IsFireFlyInstalled - ค่าสถานะบูลีนระบุว่ามีการติดตั้งไคลเอ็นต์ Office 2013 RTM C2R อยู่หรือไม่

  • IsFireflyServiceRunning – ค่าสถานะบูลีนที่บ่งชี้ว่าบริการคอมพิวเตอร์เฉพาะที่ของไคลเอ็นต์ 2013 RTM C2R สมัยใหม่ทำงานบนอุปกรณ์หรือไม่

  • IsOfficeInstalled – ค่าสถานะบูลีนที่บ่งชี้ว่ามีการติดตั้งไคลเอ็นต์ Office สมัยใหม่ติดตั้งอยู่หรือไม่

  • OfficeCultures - รายการที่จัดเรียงตามลำดับของของการพัฒนา Office ที่จะติดตั้ง

  • OfficeSourceType - สตริงที่จำได้ง่ายที่เชื่อมโยงกับค่า enum ของแหล่งการติดตั้ง (CDN, HTTP, UNC, CMBITS, DVD, LOCAL)

  • Origin - ค่าสตริงที่บอกเราว่าต้นทางที่ได้รับการสนับสนุนใด (เปอร์โตริโก [PR], สิงคโปร์ [SG], ดับลิน [DB]) ควรใช้สำหรับการสตรีมการติดตั้งเริ่มต้น

  • PlatformFromLink - สตริงที่ระบุ x86|x64| บิตเริ่มต้นของ Office ที่ร้องขอจากบริการการติดตั้ง C2R

  • PlatformOfExistingInstallation - สตริงที่ระบุว่า Office x86 กับ X64 ได้รับการติดตั้งบนอุปกรณ์แล้วหรือไม่

  • PlatformToInstall - สตริงที่ระบุการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าควรติดตั้ง Office x86 กับ X64 หรือไม่

  • PRID - ค่าสตริงที่แสดง ID การเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ที่ร้องขอในสถานการณ์การติดตั้งสําหรับผู้บริโภค (ตัวอย่างเช่น "O365ProPlusRetail")

  • PridsToMigrateFromCentennial- สตริงของผลิตภัณฑ์ Office ที่จะโยกย้ายจากการติดตั้ง Store ไปยังคลิก-ทู-รัน

  • ProductsToAdd - สตริงที่จัดเรียงตามลำดับซึ่งแนะนำไคลเอ็นต์ C2R ว่าควรจะติดตั้งชุดค่าผสมระหว่างผลิตภัณฑ์/การพัฒนาชุดใด

  • ProductsToMigrateFromO15C2R - สตริงของผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรม Office ที่จะโยกย้ายจาก Office 2013 ไปยังการติดตั้งคลิก-ทู-รัน

  • ProductsToRemove - สตริงที่จัดเรียงตามลำดับซึ่งสั่งไคลเอ็นต์ C2R ว่าควรจะถอนการติดตั้งชุดค่าผสมระหว่างผลิตภัณฑ์/การพัฒนาชุดใด

  • SharedComputerLicensing – บูลีนที่บ่งชี้ว่าผู้ดูแลระบบ IT ร้องขอการตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ "SharedComputerLicensing" หรือไม่

  • ShouldActivate - บูลีนที่ระบุว่าผู้ดูแลระบบ IT ร้องขอให้พยายามเปิดใช้งานการให้สิทธิ์การใช้งานอัตโนมัติใน configuration.xml หรือไม่

  • ShouldUninstallCentennial - ค่าสถานะบูลีนที่บ่งชี้ว่าควรถอนการติดตั้งผลิตภัณฑ์ Office จาก Store หรือไม่

  • VersionToInstall - ค่าสตริงของ Office เวอร์ชัน "16.0.xxxxx.yyyyy" ที่กําลังติดตั้ง

Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.CollectEmbeddedSignature2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.CollectEmbeddedSignature]

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ตัวติดตั้ง Office เพื่อปรับเปลี่ยนการติดตั้ง Office ข้อมูลช่วยให้เราสามารถนําผลิตภัณฑ์ ภาษา และตัวเลือกของ Office เวอร์ชัน 64 หรือ 32 บิตไปดําเนินการภายใน setup.exe ได้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • errorCode - จํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ErrorDetails - สตริงที่อธิบายตําแหน่งที่ตั้งของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ที่เกิดขึ้น (ฟังก์ชัน ไฟล์ หมายเลขบรรทัด พารามิเตอร์เพิ่มเติมที่กําหนดโดยตัวส่ง)

  • ErrorMessage - สตริงที่กําหนดไว้ที่จุดที่มีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้เกิดขึ้น ซึ่งอธิบายลักษณะของความล้มเหลว

  • ErrorType - สตริงที่อธิบายถึงประเภทของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.CollectParameters2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.CollectParameters]

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ตัวติดตั้ง Office เพื่อปรับเปลี่ยนการติดตั้ง Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อรายงานพารามิเตอร์ที่ใช้สําหรับการติดตั้ง Office และทําให้ทํางานได้ตามที่คาดไว้

  • BitField - ค่าจํานวนเต็มของอาร์กิวเมนต์ BitField ที่บอกให้เราทราบว่ามีการร้องขอช่องทางการติดตั้ง/อัปเดตอย่างชัดเจนหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ตัวเลือกรุ่นเบต้า, ตัวเลือกปัจจุบัน (พรีวิว), ตัวเลือกปัจจุบัน, ตัวเลือกระดับองค์กรรายเดือน, ตัวเลือกระดับองค์กรรายครึ่งปี (พรีวิว) หรือ ตัวเลือกระดับองค์กรรายครึ่งปี

  • C2RClientUICulture - วัฒนธรรมของไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รัน (C2R) ที่จะติดตั้ง

  • ChannelID - จํานวนเต็มที่แสดงค่า enum ของแชนเนลการอัปเดต/การติดตั้งที่เลือก ตัวอย่างเช่น ช่องเบต้า ช่องทางปัจจุบัน (พรีวิว) ช่องทางปัจจุบัน ช่องทาง Enterprise รายเดือน ช่องทาง Enterprise รายครึ่งปี (พรีวิว) หรือช่องทาง Enterprise รายครึ่งปี หรือไม่ถูกต้อง

  • CMDMode - สตริงที่เรียกง่ายที่สอดคล้องกับการตรวจพบสวิตช์โหมดโดยรวมในอาร์กิวเมนต์ cmd ที่ส่งผ่านไปยัง exe ความเป็นไปได้คือ: autorun, กำหนดค่า, ผู้บริโภค, ดาวน์โหลด, วิธีใช้, ตัวสร้างแพคเกจ

  • ErrorCode - ค่าจํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ErrorDetails - สตริงที่อธิบายตําแหน่งที่ตั้งของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ที่เกิดขึ้น (ฟังก์ชัน ไฟล์ หมายเลขบรรทัด พารามิเตอร์เพิ่มเติมที่กําหนดโดยตัวส่ง)

  • ErrorMessage - สตริงที่กําหนดไว้ที่จุดที่มีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้เกิดขึ้น ซึ่งอธิบายลักษณะของความล้มเหลว

  • ErrorType - สตริงที่อธิบายถึงประเภทของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ExcludedApps - สตริงที่แสดงชื่อแอปพลิเคชัน Office แต่ละรายการที่ร้องขอให้แยกออกจากชุดโปรแกรม Office ที่ติดตั้ง

  • InstalledCabVersion - เวอร์ชัน "16.0.xxxxx.yyyyy" ของไคลเอ็นต์ Office คลิก-ทู-รัน (C2R) ติดตั้งไว้แล้ว

  • installedProductVersion - เวอร์ชัน "16.0.xxxxx.yyyyy" ของผลิตภัณฑ์ Office คลิก-ทู-รัน (C2R) ที่ติดตั้งไว้แล้ว

  • IsC2RServiceRunning - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่าบริการคอมพิวเตอร์เฉพาะที่ของไคลเอ็นต์แบบคลิก-ทู-รัน (C2R) ที่ทันสมัยกําลังทํางานบนอุปกรณ์หรือไม่

  • IsElevatedFlagSet - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่า bootstrapper ได้พยายามยกระดับผู้ดูแลระบบแล้วหรือไม่

  • IsFireFlyInstalled - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่ามีการติดตั้งไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รัน (C2R) ของ Office 2013 RTM (C2R) หรือไม่

  • IsFireflyServiceRunning - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่าบริการภายในเครื่องของไคลเอ็นต์ RTM คลิก-ทู-รัน (C2R) 2013 ทํางานบนอุปกรณ์หรือไม่

  • isOfficeInstalled - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่ามีการติดตั้งไคลเอ็นต์ Office สมัยใหม่แล้วหรือไม่

  • OfficeCultures - รายการวัฒนธรรม Office ที่ซีเรียลไลซ์ที่จะติดตั้ง

  • OfficeSourceType - สตริงที่เรียกง่ายที่เกี่ยวข้องกับค่า enum ของแหล่งการติดตั้ง (CDN, HTTP, UNC, CMBITS, DVD, LOCAL)

  • Origin - ค่าสตริงที่บอกเราว่าควรใช้จุดเริ่มต้นที่ได้รับการสนับสนุนใด (เปอร์โตริโก [PR], สิงคโปร์ [SG], ดับลิน [DB]) สําหรับการสตรีมการติดตั้งเริ่มต้น

  • PlatformFromLink - สตริงที่ระบุบิตเริ่มต้น (x86 กับ x64) ที่ร้องขอของ Office ที่ร้องขอจากบริการติดตั้งคลิก-ทู-รัน (C2R)

  • PlatformOfExistingInstallation - สตริงที่ระบุว่า Office x86 กับ X64 ได้รับการติดตั้งบนอุปกรณ์แล้วหรือไม่

  • PlatformToInstall - สตริงที่ระบุการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าควรติดตั้ง Office x86 กับ X64 หรือไม่

  • PRID - ค่าสตริงที่แสดง ID การเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ที่ร้องขอในสถานการณ์การติดตั้งสําหรับผู้บริโภค (ตัวอย่างเช่น "O365ProPlusRetail")

  • PridsToMigrateFromCentennial - สตริงของผลิตภัณฑ์ Office ที่จะโยกย้ายจากการติดตั้ง Store ไปยังคลิก-ทู-รัน

  • ProductsToAdd - สตริงที่ซีเรียลไลซ์ที่แนะนําไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รัน (C2R) ว่าควรติดตั้งชุดผลิตภัณฑ์/วัฒนธรรมใด

  • ProductsToMigrateFromO15C2R - สตริงของผลิตภัณฑ์ Office และวัฒนธรรมที่จะโยกย้ายจากการติดตั้ง Office 2013 คลิก-ทู-รัน

  • ProductsToRemove - สตริงที่ซีเรียลไลซ์ที่แนะนําไคลเอ็นต์คลิก-ทู-รัน (C2R) ว่าควรถอนชุดการติดตั้งผลิตภัณฑ์/วัฒนธรรมใด

  • SharedComputerLicensing - บูลีนที่ระบุว่าผู้ดูแลระบบ IT ร้องขอการตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ "SharedComputerLicensing" หรือไม่

  • ShouldActivate - บูลีนที่ระบุว่าผู้ดูแลระบบ IT ร้องขอความพยายามในการเปิดใช้งานการให้สิทธิ์การใช้งานอัตโนมัติใน configuration.xml หรือไม่

  • ShouldUninstallCentennial - ค่าสถานะบูลีนที่ระบุว่าควรถอนการติดตั้งผลิตภัณฑ์ Office จาก Store หรือไม่

  • VersionToInstall - ค่าสตริงของเวอร์ชัน Office "16.0.xxxxx.yyyyy" ที่กําลังติดตั้ง

Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.Execute2

[ก่อนหน้านี้เหตุการณ์นี้ถูกตั้งชื่อว่า Office.ClickToRun.UniversalBootstrapper.Execute]

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ตัวติดตั้ง Office เพื่อปรับเปลี่ยนการติดตั้ง Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อรายงานเกี่ยวกับการดําเนินการที่มีผลกระทบต่อเครื่องตามที่กําหนดโดยข้อมูลที่มีเหตุผลจาก "CalculateParameters"

  • AvailableClientVersionText - ค่าสตริงของไคลเอ็นต์ C2R เวอร์ชัน "16.0.xxxxx.yyyyy" ที่พบใน XML ตัวบอกเวอร์ชัน ซึ่งใช้เพื่อกําหนดว่าควรอัปเดตไคลเอ็นต์ C2R ที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบันหรือไม่

  • CleanFireflyAction - "true" ถ้างาน CleanFireFlyAction มีกําหนดการให้เรียกใช้ในระหว่างการติดตั้งนี้

  • CleanO15Action - "true" ถ้างาน CleanO15Action มีกําหนดการให้เรียกใช้ในระหว่างการติดตั้งนี้

  • CMDMode - สตริงที่เรียกง่ายที่สอดคล้องกับการตรวจพบสวิตช์โหมดโดยรวมในอาร์กิวเมนต์ cmd ที่ส่งผ่านไปยัง exe ความเป็นไปได้คือ: autorun, กำหนดค่า, ผู้บริโภค, ดาวน์โหลด, วิธีใช้, ตัวสร้างแพคเกจ

  • deliveryMechanism - GUID "FFNRoot" ที่แยกจาก XML ตัวบอกเวอร์ชัน (ประทับโดย RDX) ซึ่งบอกเราว่าผู้ชม/แชนเนลที่แหล่งของรุ่นมาจากที่ใด

  • DownloadC2RClientAction - "true" ถ้างาน DownloadC2RClientAction มีกําหนดการให้เรียกใช้ในระหว่างการติดตั้งนี้

  • ErrorCode - ค่าจํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ErrorDetails - สตริงที่อธิบายตําแหน่งที่ตั้งของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ที่เกิดขึ้น (ฟังก์ชัน ไฟล์ หมายเลขบรรทัด พารามิเตอร์เพิ่มเติมที่กําหนดโดยตัวส่ง)

  • ErrorMessage - สตริงที่กําหนดไว้ที่จุดที่มีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้เกิดขึ้น ซึ่งอธิบายลักษณะของความล้มเหลว

  • ErrorType - สตริงที่อธิบายถึงประเภทของข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้

  • ExitCode - ค่าจํานวนเต็มที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ของการเรียกใช้ขั้นตอน Execute ของ bootstrapper ซึ่งระบุความสําเร็จเทียบกับชนิดของความล้มเหลวที่ระบุ

  • LaunchAction - "true" ถ้างาน LaunchAction มีกําหนดการให้เรียกใช้ระหว่างการติดตั้งนี้

  • LaunchUpdateAction - "true" ถ้างาน LaunchUpdateAction มีกําหนดการให้เรียกใช้ในระหว่างการติดตั้งนี้

  • preReqResult - ค่า enum จํานวนเต็มของผลลัพธ์เมื่อดําเนินการตรวจสอบ PreReq (ผ่าน/ล้มเหลว/เรียกใช้ใหม่)

  • UnexpectedAction - "true" ถ้างาน UnexpectedAction (กรณีข้อผิดพลาด) ถูกจัดกําหนดการให้ทํางานในระหว่างการติดตั้งนี้

  • VersionToInstall - ค่าสตริงของเวอร์ชัน Office "16.0.xxxxx.yyyyy" ที่กําลังติดตั้ง

Office.ServiceabilityManager.InventoryAddon.Heartbeat

[เหตุการณ์นี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อรับเมตาดาต้ามาตรฐานในแต่ละการใช้งาน add-on ของสินค้าคงคลัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวจัดการด้านความสามารถในการให้บริการของ Office และใช้สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Office สินค้าคงคลังบนเครื่องเหล่านั้นที่ผู้ดูแลระบบ IT ได้เข้าร่วม ข้อมูลเมตาของความสนใจเฉพาะที่นี่คือ ID ของเซสชันและใช้สำหรับการลิงก์ไปยังข้อมูลอื่นที่ถูกเก็บไว้ภายในบริการระบบคลาวด์สำหรับผู้เช่า

เหตุการณ์นี้จะไม่มีเขตข้อมูลเพิ่มเติมเนื่องจากมีเพียงเมตาดาต้าเท่านั้นที่เกี่ยวข้อง

Office.ServiceabilityManager.InventoryAddon.Results

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อการเรียกบริการเว็บภายใน Add-on สินค้าคงคลังของตัวจัดการความสามารถในการให้บริการแบบคลิก-ทู-รันนั้นเสร็จสมบูรณ์ โดยไม่คำนึงว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว นี่คือการดำเนินการสุดท้ายภายใน Add-on เพื่อติดตามสถานะการทำงานโดยรวม

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ActionDetail - รายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อเกิดความล้มเหลว

  • Result - ค่าสถานะรหัสข้อผิดพลาดที่เป็นตัวเลขที่ส่งกลับโดย API การเรียกใช้บริการเว็บ Office เช่น 3 อาจหมายความว่ามีปัญหาในการเริ่มต้นส่วนหัว HTTP

  • Type - ข้อมูลชนิดเพิ่มเติม ในกรณีของสินค้าคงคลัง ข้อมูลนี้จะระบุชนิดส่วนข้อมูลที่ถูกส่ง เช่น แบบเต็ม หรือเพียงแค่ delta ของการเปลี่ยนแปลง

  • Version - หมายเลขเวอร์ชันสี่ส่วนแบบเต็มของ Office ตัวอย่างเช่น 16.0.10000.10000. (โปรดทราบว่าสําหรับเหตุการณ์เหล่านี้ เขตข้อมูลเวอร์ชันมาตรฐานจะถูกเติมด้วยเวอร์ชันของ Windows เนื่องจากการดําเนินการนี้ทํางานเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการของ Windows)

  • WebCallSource - ค่าการแจงนับ (ระบุเป็นจำนวนเต็ม) ที่บ่งชี้ Add-on ตัวจัดการความสามารถในการให้บริการซึ่งเป็นต้นทางการเรียกใช้

Office.ServiceabilityManager.WebserviceFailure

เมื่อการเรียกใช้บริการเว็บภายใน Add-in ของตัวจัดการด้านความสามารถในการให้บริการของ Office หนึ่งรายการล้มเหลว ระบบจะบันทึกคำสั่งนี้ไว้ ความล้มเหลวอาจเกิดจากความล้มเหลวภายในหรือไม่สามารถเชื่อมต่อกับบริการเว็บ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Add-on - Add-on ตัวจัดการความสามารถในการให้บริการแบบคลิก-ทู-รันจากตำแหน่งที่มีการเรียกใช้บริการเว็บ ซึ่งอาจมีค่า เช่น สินค้าคงคลัง ความสามารถในการจัดการ และอื่นๆ ที่เข้ารหัสเป็นค่าตัวเลข

  • Correlation ID - GUID ที่สร้างแบบสุ่มโดยเฉพาะสำหรับอินสแตนซ์ปัจจุบันที่ส่งไปยังบริการเว็บเพื่อเชื่อมโยงการเรียกใช้ระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์

  • ErrorInfo - ข้อมูลรหัสข้อผิดพลาดที่เป็นตัวเลขที่ส่งกลับโดย API การเรียกใช้บริการเว็บ Office

  • ErrorMessage - ข้อความที่ระบุข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับความล้มเหลวดังกล่าว ข้อผิดพลาดแต่ละชนิดจะแมปไปยังสตริงที่มีการเขียนโค้ดแบบไม่ใช้ตัวแปร โดยข้อผิดพลาดบางชนิดจะแมปไปยังสตริงหลายรายการที่มีโอกาสเป็นไปได้ โดยขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของความล้มเหลว

  • Function - ฟังก์ชันในรหัสจากตำแหน่งที่เกิดการเรียกใช้ปัจจุบัน

  • Status - รหัสสถานะ HTTP ที่ส่งกลับโดยการเรียกใช้บริการเว็บ เช่น 404, 500 ฯลฯ

Office.Privacy.UnifiedConsent.API.ConsentGetFailed

เหตุการณ์นี้จะบันทึกความล้มเหลวในคำขอรับข้อมูลจากบริการให้ความยินยอม ข้อมูลถูกใช้เพื่อทําความเข้าใจความถี่ของความสําเร็จและความล้มเหลวในส่วนประกอบของไคลเอ็นต์ ช่วยให้สามารถตรวจหาและบรรเทาปัญหาทั่วไปได้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ConsentLanguage - ภาษาที่แสดงความยินยอมต่อผู้ใช้ใน

  • ConsentSurface - เทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้ในการดึงข้อมูลและแสดงผลประสบการณ์การยินยอม

  • CorrelationId - ตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลจากไคลเอนต์และบริการเพื่อวัตถุประสงค์ในการแก้ไขจุดบกพร่องที่ล้มเหลว

  • รหัสเหตุการณ์ - รหัสตัวเลขที่ใช้เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ความล้มเหลวอาจเกิดขึ้นขณะรับข้อมูลจากบริการยินยอม

  • EventCode - ข้อความที่สามารถอ่านได้ของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ของการเรียกใช้ ค่าต่างๆ จะถูกดึงมาจากรายการของข้อความที่คาดไว้

  • FormFactor - ค่าที่บ่งบอกถึงรูปร่างและลักษณะของอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล

  • ModelType - ชนิดของข้อความที่แสดงต่อผู้ใช้ เช่น ความยินยอม การแจ้งเตือน เป็นต้น

  • Os - ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล

  • Region - ประเทศหรือภูมิภาคที่ใช้เพื่อกําหนดเวอร์ชันของความยินยอมที่จะแสดงให้กับผู้ใช้

  • Result - รหัสผลลัพธ์ภายในสำหรับการสื่อสารเซิร์ฟเวอร์ไคลเอ็นต์พร้อมบริการความยินยอม

  • ResultExt - ส่วนขยายรหัสผลลัพธ์ภายในสำหรับการสื่อสารเซิร์ฟเวอร์ไคลเอ็นต์พร้อมบริการความยินยอม

Office.Privacy.UnifiedConsent.API.ConsentPatchFailed

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากความล้มเหลวในความสามารถของเราในการเรียกใช้บริการให้ความยินยอม ข้อมูลถูกใช้เพื่อทําความเข้าใจความถี่ของความสําเร็จและความล้มเหลวในส่วนประกอบของไคลเอ็นต์ ช่วยให้สามารถตรวจหาและบรรเทาปัญหาทั่วไปได้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ConsentLanguage - ภาษาที่แสดงความยินยอมต่อผู้ใช้ใน

  • consentSurface - เทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้ในการเรียกใช้และแสดงประสบการณ์การยินยอม

  • ConsentType - ชนิดของความยินยอมที่แสดงต่อผู้ใช้ เช่น ประกาศเด่น ความยินยอม ฯลฯ

  • CorrelationId - ตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลจากไคลเอ็นต์และบริการเพื่อวัตถุประสงค์ในการดีบักล้มเหลว

  • รหัสเหตุการณ์ - รหัสตัวเลขที่ใช้เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ความล้มเหลวอาจเกิดขึ้นขณะรับข้อมูลจากบริการยินยอม

  • EventCode - ข้อความที่สามารถอ่านได้ของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ของการเรียกใช้ ค่าต่างๆ จะถูกดึงมาจากรายการของข้อความที่คาดไว้

  • FormFactor - ค่าที่บ่งบอกถึงรูปร่างและลักษณะของอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล

  • ModelId - ตัวระบุเฉพาะที่ระบุว่าแบบจําลองใดเป็นพื้นฐานสําหรับความยินยอมหรือการแจ้งเตือนที่แสดงต่อผู้ใช้

  • ModelType - ชนิดของข้อความที่แสดงต่อผู้ใช้ เช่น ความยินยอม การแจ้งเตือน เป็นต้น

  • ModelVersion - ข้อมูลที่ระบุเวอร์ชันของความยินยอมหรือการแจ้งเตือนที่แสดงต่อผู้ใช้

  • Os - ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล

  • reConsentReason - ตัวระบุสาเหตุที่ผู้ใช้เห็นความยินยอมที่กําหนดในเวลาเพิ่มเติม

  • Region - ประเทศหรือภูมิภาคที่ใช้เพื่อกําหนดเวอร์ชันของความยินยอมที่จะแสดงให้กับผู้ใช้

  • Result - รหัสผลลัพธ์ภายในสำหรับการสื่อสารเซิร์ฟเวอร์ไคลเอ็นต์พร้อมบริการความยินยอม

  • ResultExt - ส่วนขยายรหัสผลลัพธ์ภายในสำหรับการสื่อสารเซิร์ฟเวอร์ไคลเอ็นต์พร้อมบริการความยินยอม

Office.Privacy.UnifiedConsent.API.ConsentPatchSuccess

เหตุการณ์นี้บันทึกการสื่อสารที่สําเร็จด้วยบริการให้ความยินยอม ข้อมูลถูกใช้เพื่อทําความเข้าใจความถี่ของความสําเร็จและความล้มเหลวในส่วนประกอบของไคลเอ็นต์ ช่วยให้สามารถตรวจหาและบรรเทาปัญหาทั่วไปได้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ConsentLanguage - ภาษาที่แสดงความยินยอมต่อผู้ใช้ใน

  • consentSurface - เทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้ในการเรียกใช้และแสดงประสบการณ์การยินยอม

  • ConsentType - ชนิดของความยินยอมที่แสดงต่อผู้ใช้ เช่น ประกาศเด่น ความยินยอม ฯลฯ

  • CorrelationId - ตัวระบุเฉพาะที่ใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลจากไคลเอ็นต์และบริการเพื่อวัตถุประสงค์ในการดีบักล้มเหลว

  • รหัสเหตุการณ์ - รหัสตัวเลขที่ใช้เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ความล้มเหลวอาจเกิดขึ้นขณะรับข้อมูลจากบริการยินยอม

  • EventCode - ข้อความที่สามารถอ่านได้ของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ของการเรียกใช้ ค่าต่างๆ จะถูกดึงมาจากรายการของข้อความที่คาดไว้

  • FormFactor - ค่าที่บ่งบอกถึงรูปร่างและลักษณะของอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล

  • ModelId - ตัวระบุเฉพาะที่ระบุว่าแบบจําลองใดเป็นพื้นฐานสําหรับความยินยอมหรือการแจ้งเตือนที่แสดงต่อผู้ใช้

  • ModelType - ชนิดของข้อความที่แสดงต่อผู้ใช้ เช่น ความยินยอม การแจ้งเตือน เป็นต้น

  • ModelVersion - ข้อมูลที่ระบุเวอร์ชันของความยินยอมหรือการแจ้งเตือนที่แสดงต่อผู้ใช้

  • Os - ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่ส่งข้อมูล

  • reConsentReason - ตัวระบุสาเหตุที่ผู้ใช้เห็นความยินยอมที่กําหนดในเวลาเพิ่มเติม

  • Region - ประเทศหรือภูมิภาคที่ใช้เพื่อกําหนดเวอร์ชันของความยินยอมที่จะแสดงให้กับผู้ใช้

เหตุการณ์ Enhanced Configuration Service (ECS)

Office.Experimentation.FeatureQueryBatched

รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกตฟีเจอร์/เกตการเปลี่ยนแปลงที่สอบถามโดยโค้ดที่ดำเนินการ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Count - จำนวนเกตฟีเจอร์ที่สอบถามในเหตุการณ์ชุดงานนี้

  • Features - ข้อมูลเกี่ยวกับเกตที่สอบถาม

  • Sequence - ลำดับที่สอบถาม FeatureGate

Office.Experimentation.FlightNumberLine

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อเริ่มเซสชัน Office ใหม่เพื่อรวบรวมรายการของการกําหนดค่าที่ไคลเอ็นต์ได้รับจากบริการการทดลองและการกําหนดค่า ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานของการเผยแพร่ฟีเจอร์เพื่อทดสอบและการกําหนดค่าทํางานตามที่ออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และทํางานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ECSConfigs - รายการของการกำหนดค่า ECS ที่คั่นด้วยจุลภาค

  • ExpStaleUserId - ตัวบ่งชี้สําหรับการกําหนดค่ารหัสผู้ใช้ที่ตรงกับรหัสผู้ใช้ของเซสชัน

  • LockType - ล็อกชนิด FlightManager

  • TasFlightingVersion - หมายเลขรุ่น

  • TimeToLock - เวลาระหว่างการเริ่มต้น liblet และการล็อก FlightManager

  • UnmergedConfigs - รายการของการกำหนดค่าที่ไม่ได้ผสาน

Office.Experimentation.TriggerAnalysis

เหตุการณ์นี้จะช่วยในการวิเคราะห์ขอบเขตของการใช้งานผลิตภัณฑ์และการวัดประสิทธิภาพ (เช่น การหยุดทำงาน การค้าง และอื่นๆ) ไปยังเซตย่อยของผู้ใช้หรืออุปกรณ์ที่มีสิทธิ์ในการใช้ฟีเจอร์ ดังนั้นนี่จึงเป็นการช่วยให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • FeatureGate- ระบุชุดฟีเจอร์ที่สามารถใช้ได้กับการวิเคราะห์ทริกเกอร์

OneNote.FlightDefault

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อ OneNote ถามเซิร์ฟเวอร์ ECS สำหรับค่าเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งถูกใช้เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ทดลองให้กับผู้ใช้ที่เลือกรับเวอร์ชันทดสอบดังกล่าว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • ConfigParam - การกำหนดค่าสำหรับค่าที่มีการเข้าถึง

เหตุการณ์การให้สิทธิการใช้งาน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.AutoRedeemPendingPurchaseResult

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลทางวิศวกรรมที่สำคัญเพื่อบันทึกผลลัพธ์ของความพยายามโดยอัตโนมัติในการพยายามแลกการซื้อที่รอดำเนินการของผู้ใช้ การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของผลิตภัณฑ์ใช้สำหรับการกระทบยอดข้อมูลทรานแซคชันการซื้อกับระบบการค้าของ Microsoft เพื่อเปิดใช้ประโยชน์การสมัครสมาชิกที่เกี่ยวข้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventDate – ประทับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

  • orderID - สตริง ID คำสั่งซื้อของการซื้อที่ดำเนินการ

  • Result – Int แสดงถึงผลลัพธ์ enum ของการดำเนินการ

  • SessionID – GUID เพื่อเชื่อมต่อเหตุการณ์ตามเซสชัน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PaywallUIShown

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับการใช้งานที่สำคัญเมื่อแสดงการควบคุม Paywall แก่ผู้ใช้ ใช้เพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์การซื้อในแอปสำหรับผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพเช่นเดียวกันสำหรับเวอร์ชันในอนาคต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventDate – ประทับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

  • IsModeFRE – บูลีนเพื่อระบุประเภทประสบการณ์ กล่องโต้ตอบการเพิ่มยอดขาย หรือ SKU Chooser

  • SessionID – GUID เพื่อเชื่อมต่อเหตุการณ์ตามเซสชัน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PurchaseButtonClicked

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลสำหรับการใช้งานที่สําคัญเมื่อผู้ใช้คลิกที่ปุ่มซื้อ ใช้ในการสรุปรูปแบบการใช้งานและเมตริกการแปลงสำหรับผู้ใช้ที่พยายามซื้อการสมัครใช้งานในแอป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Card - จํานวนเต็ม – ดัชนีวงล้อของบัตรฟีเจอร์ล่าสุดที่ผู้ใช้เห็นก่อนที่จะพยายามซื้อ

  • EventDate – ประทับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

  • IsDefaultSku – บูลีนที่ระบุว่าผู้ใช้พยายามสั่งซื้อ Sku ที่ปรากฏขึ้นก่อน/เริ่มต้น

  • ProductID – สตริงที่ระบุผู้ใช้ที่สมัครสมาชิกพยายามซื้อตามที่กำหนดค่าไว้ในร้านค้า

  • SessionID – GUID เพื่อเชื่อมต่อเหตุการณ์ตามเซสชัน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PurchaseResult

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลทางวิศวกรรมที่สำคัญเพื่อบันทึกผลลัพธ์ของความพยายามในการซื้อที่เรียกใช้ด้วยตนเองโดยผู้ใช้ การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของผลิตภัณฑ์ใช้สำหรับการกระทบยอดข้อมูลทรานแซคชันการซื้อกับระบบการค้าของ Microsoft เพื่อเปิดใช้ประโยชน์การสมัครสมาชิกที่เกี่ยวข้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventDate – ประทับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

  • IsModeFre - บูลีนระบุว่าการซื้อจากการเพิ่มยอดขายหน้าจอ FRE หรือ Sku Chooser

  • orderID - สตริง ID คำสั่งซื้อของการซื้อที่ดำเนินการ

  • ProductId - สตริง - ProductId ของ SKU ที่กำลังซื้อ

  • Result – Int แสดงถึงผลลัพธ์ enum ของการดำเนินการ

  • SessionID – GUID เพื่อเชื่อมต่อเหตุการณ์ตามเซสชัน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PurchaseTokenRedemptionResponse

[เหตุการณ์นี้เคยมีชื่อว่า Office.Android.DocsUI.Views.PurchaseTokenRedemptionResponse]

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของผลิตภัณฑ์นี้จะถูกเก็บรวบรวมไว้สำหรับการติดตามและการบันทึกสถานะธุรกรรมภายในและข้อมูลการกระทบยอดเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการทำงาน Microsoft ใช้ข้อมูลนี้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพการทำงานของการประมวลผลธุรกรรมภายในและกลไกการกระทบยอด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • MicrosoftPurchaseOrderId - รหัสใบสั่งของ Microsoft ที่ส่งโดยบริการสมาพันธ์การค้าปลีก (RFS) เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตาม

  • ResponseCode - รหัสการตอบสนอง HTTP (int)

  • StatusCode - รหัสสถานะการตอบสนอง RFS (RFS กำหนด Enum int- finite)

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.SeeAllFeaturesAnalytics

เรารวบรวมข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานนี้เพื่อดูว่าผู้ใช้ใช้เวลาเท่าใดบนหน้าจอ “ดูประโยชน์เพิ่มเติม” ข้อมูลที่ใช้เพื่อทําความเข้าใจการใช้งานฟีเจอร์ "ดูประโยชน์เพิ่มเติม" และเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ในเวอร์ชันในอนาคต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Duration - จำนวนเต็มแบบยาวที่ระบุเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนหน้าจอ “ดูคุณลักษณะทั้งหมด” ในหน่วยมิลลิวินาที

  • EventDate – ประทับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

  • MostExplored - จำนวนเต็มแสดงถึงดัชนีของรายการที่มีการสลับมากที่สุดในรายการแอป Microsoft 365 และฟีเจอร์ต่างๆ

  • SessionID - Globally Unique Identifier (GUID) เพื่อเชื่อมต่อเหตุการณ์ตามเซสชัน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.SkuChooserAnalytics

การใช้งาน telemetry เพื่อดูว่าผู้ใช้ใช้เวลาเท่าใดบนหน้าจอ SKU Chooser การใช้งาน telemetry เพื่อดูว่าผู้ใช้ใช้เวลาเท่าใดบนหน้าจอ Sku Chooser

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CardCount - จํานวนเต็ม - จํานวนบัตรที่ผู้ใช้เห็นก่อนออกจากหน้าจอ SKU Chooser

  • Duration – จำนวนเต็มแบบยาวที่ระบุเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนหน้าจอ Sku Chooser เป็นมิลลิวินาที

  • EventDate – ประทับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

  • SessionID – GUID เพื่อเชื่อมต่อเหตุการณ์ตามเซสชัน

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.SkuDetailsNullDuringPurchaseEvent

เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้คลิกที่ปุ่ม "เริ่มทดลองใช้ฟรี 30 วัน" แต่พบว่ารายละเอียด Stock Keeping Unit (SKU) เป็น Null ข้อมูลนี้ใช้เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุผลเบื้องหลังคืออะไรเมื่อผู้ใช้พยายามซื้อ สิ่งนี้จําเป็นต่อการบันทึกข้อผิดพลาดเมื่อประสบการณ์การเพิ่มยอดขายไม่ได้ผลตามที่คาดไว้และการหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือสำหรับผู้ใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventDate - ประทับเวลาการเกิดขึ้นของเหตุการณ์

  • Reason - จํานวนเต็ม – ระบุเหตุผลเบื้องหลังที่รายละเอียด SKU เป็น Null

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.SkuPriceDiscountErrorEvent

เหตุการณ์จะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ไปที่หน้าจอตัวเลือก SKU ของแอปและมีการดึงข้อมูลราคาจาก Google Playstore สำหรับการสมัครใช้งานต่างๆ เหตุการณ์จะระบุความแตกต่างของราคาระหว่างแผนรายเดือนและรายปีที่เสนอในประเทศต่างๆ และในสกุลเงินต่างๆ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการกําหนดค่าราคาจะทำงานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CountryCode - เพื่อระบุประเทศหรือภูมิภาคที่ทําการซื้อ

  • Discount - เปอร์เซ็นต์ส่วนลดที่เสนอตามความแตกต่างของราคาระหว่าง SKU รายเดือนและรายปีของทั้งแผนส่วนบุคคลและแผนครอบครัว

  • ProductIndex - เพื่อระบุว่าเป็นแผนส่วนบุคคลหรือแผนครอบครัว

  • StoreCurrencyCode - เพื่อระบุสกุลเงินในร้านค้าแอปที่เสนอแผนการสมัครใช้งานให้กับผู้ใช้

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.StoreConnectionResponse

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลนี้จะถูกบันทึกเมื่อสร้างการเชื่อมต่อกับไคลเอ็นต์การเรียกเก็บเงินของ Google ล้มเหลวในระหว่างการเตรียมใช้งาน Paywall วัตถุประสงค์ของการรับส่งข้อมูลทางไกลคือการกําหนดเหตุผลเบื้องหลังความล้มเหลวในการเชื่อมต่อในกรณีที่ไม่ทํางานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • BillingClientResponse - จํานวนเต็ม – การตอบสนองจากไคลเอ็นต์การเรียกเก็บเงินของ Google ที่ระบุเหตุผลสําหรับความล้มเหลว

  • EventDate - ประทับเวลาการเกิดขึ้นของเหตุการณ์

  • TriggerPoint - จํานวนเต็ม – ระบุวิธีการทริกเกอร์การเตรียมใช้งาน paywall

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.StoreQueryPurchasesResponse

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลนี้จะบันทึกเมื่อการคิวรีการซื้อด้วยไคลเอ็นต์การเรียกเก็บเงินของ Google ล้มเหลว การวัดและส่งข้อมูลทางไกลนี้จําเป็นต้องทราบสาเหตุของความล้มเหลวหากไม่ได้รับการตอบสนองตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • BillingClientResponse - จํานวนเต็ม – การตอบสนองจากไคลเอ็นต์การเรียกเก็บเงินของ Google ที่ระบุเหตุผลสําหรับความล้มเหลวขณะคิวรีการซื้อ

  • EventDate - ประทับเวลาการเกิดขึ้นของเหตุการณ์

  • ProductType - จํานวนเต็ม - ระบุชนิดผลิตภัณฑ์ (การสมัครใช้งานหรือแบบครั้งเดียว) ที่ queryPurchases ล้มเหลว

  • TriggerPoint - จํานวนเต็ม – ระบุเมื่อมีการทริกเกอร์การซื้อคิวรี การเตรียมใช้งานระหว่างการเริ่มต้นระบบแอป ผู้ใช้คลิกที่ข้าวหลามตัดเพื่อไปที่หน้าจอ SkuChooser ที่แสดงโฟลว์ FRE/การซื้อ

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.StoreSkuDetailsResponse

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลจะบันทึกเมื่อไคลเอ็นต์การเรียกเก็บเงินของ Google ไม่ส่งกลับราคาสําหรับรหัสผลิตภัณฑ์ที่ส่งผ่านไป ซึ่งใช้เพื่อทราบเหตุผลสําหรับการดึงข้อมูลรายละเอียด Sku ที่ล้มเหลวและ SKU สําหรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในกรณีเมื่อการตอบสนองไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • BillingClientResponse - จํานวนเต็ม – การตอบสนองจากไคลเอ็นต์การเรียกเก็บเงินของ Google ที่ระบุเหตุผลสําหรับความล้มเหลวขณะดึงข้อมูลรายละเอียด Sku

  • EventDate - ประทับเวลาการเกิดขึ้นของเหตุการณ์

  • ProductID - สตริง - ระบุถึงการดึงข้อมูลราคาผลิตภัณฑ์ล้มเหลว

  • TriggerPoint - จํานวนเต็ม – ระบุเวลาที่การดึงข้อมูลรายละเอียด Sku ถูกทริกเกอร์: ในระหว่างการเริ่มต้นระบบแอป/ผู้ใช้คลิกข้าวหลามตัดเพื่อไปที่หน้าจอ SkuChooser/แสดง FRE

Office.Android.DocsUI.Views.DimeError

เหตุการณ์นี้จะถูกเก็บรวบรวมไว้สำหรับแอป Office สำหรับ Android (เผยแพร่บน Huawei และใน Store ของจีน) เหตุการณ์นี้จะระบุว่าความพยายามในการซื้อการสมัครใช้งาน Microsoft 365 ผ่าน Dime (WebURL ที่โหลดใน Webview ไคลเอ็นต์) ล้มเหลว มีเพียงสถานการณ์ข้อผิดพลาดเท่านั้นที่มีการบันทึกไว้ ข้อมูลเหตุการณ์นี้เป็นข้อมูลข้อผิดพลาดเท่านั้นและจะนำไปใช้เพื่อรับรองสถานภาพโฟลว์การซื้อของ Dime ในไคลเอ็นต์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CorrelationID - ID ที่ระบุเซสชันการซื้อของ Dime โดยไม่ซ้ำกัน

  • ErrorReason - ระบุเหตุผลของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น

    • 0 – ข้อผิดพลาดที่ไม่รู้จัก
    • 1 – ไม่มีอินเทอร์เน็ต
    • 2 - การตรวจสอบความถูกต้องของรหัสเฉพาะสากล (UUID) ล้มเหลว
    • 3 - รหัสเฉพาะสากล (UUID) เป็นค่า null หรือว่างเปล่า
    • 4 – ข้อผิดพลาดในการใส่ JavaScript ที่ทำให้แอป Office สำหรับ Android ไม่สามารถส่ง authToken ไปยัง Dime ได้
    • 5 – WebURL พื้นฐานที่โหลดบนไคลเอ็นต์ไม่ถูกต้อง

Office.Android.DocsUI.Views.PremiumFeatureUpsell

เหตุการณ์นี้จะบันทึกการคลิกโดยผู้ใช้ฟรีที่คลิกเพื่อดูฟีเจอร์เบื้องหลัง Paywall ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดการโต้ตอบของผู้ใช้กับประสบการณ์การเพิ่มยอดขายตามบริบท และทำความเข้าใจฟีเจอร์ที่ลูกค้าต้องการซึ่งผลักดันให้พวกเขาซื้อการสมัครใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้เราลงทุนเพื่อปรับปรุงชุดจุดเข้าใช้งานที่ต้องการเหล่านั้น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • featureId - TCID สำหรับฟีเจอร์ระดับพรีเมียม

  • featureName - ชื่อฟีเจอร์ระดับพรีเมียม

  • seePlanButtonClick - จำนวนครั้งที่มีการคลิก “ปุ่มดูแผน” ใน UI การเพิ่มยอดขาย

Office.Android.EarlyTelemetry.IrisPushNotificationClicked

ระบบจะบันทึกเหตุการณ์นี้เมื่อมีการคลิกการแจ้งเตือนจากแคมเปญบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ในแอป Microsoft 365 จําเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อติดตามประสิทธิภาพการทํางานของการแจ้งเตือนในฐานะเป็นฟีเจอร์หนึ่ง

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • CreativeId - สตริง – หากต้องการทราบว่า CreativeId จากแคมเปญใดจะแสดงในการแจ้งเตือน

Office.Android.EarlyTelemetry.IrisPushNotificationShown

ระบบจะรวบรวมเหตุการณ์นี้เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากแคมเปญบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ผ่านแอป Microsoft 365 ข้อมูลนี้ใช้เพื่อติดตามประสิทธิภาพการทํางานของการแจ้งเตือนในฐานะเป็นฟีเจอร์หนึ่ง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CreativeId - สตริง – หากต้องการทราบว่า CreativeId จากแคมเปญใดจะแสดงในการแจ้งเตือน

Office.Apple.IAPReviewYourSubscriptioniOS

เหตุการณ์นี้จะบันทึกเหตุการณ์เมตาดาต้าที่ยึดตามเซสชันเมื่อ UI การซื้อในแอป (IAP) แสดงต่อผู้ใช้และปุ่มที่ผู้ใช้โต้ตอบในเวลาต่อมา ข้อมูลนี้จะถูกใช้เพื่อช่วยให้เราเข้าใจความยุ่งยากในโฟลว์การซื้อ และเปรียบเทียบกับช่วงระยะของประสบการณ์การซื้อแบบต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจว่าประสบการณ์ใดดีกว่าสำหรับผู้ใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • FlowType - จํานวนเต็ม – โฟลว์จากตำแหน่งที่เปิดใช้ IAP

  • คืนค่า - สตริง – แท็กของกฎจะถูกบันทึกเมื่อคลิกปุ่มคืนค่า

  • PremiumFeatures - สตริง – แท็กของกฎจะถูกบันทึกเมื่อคลิกปุ่ม “PremiumFeatures”

  • ผลิตภัณฑ์ - สตริง - SKU ที่เลือกโดยผู้ใช้

Office.Apple.InAppPurchaseContext

เหตุการณ์นี้จะวัดการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานที่สำคัญของจุดเข้าใช้งานของหน้าจอการซื้อในแอป ข้อมูลจะช่วยให้เข้าใจและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้โดยระบุจุดเข้าใช้งานที่ต้องการสำหรับการซื้อในแอป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • บริบท - สตริง – โฟลว์ที่ผู้ใช้เข้าสู่หน้าการซื้อในแอป

Office.Apple.Licensing.CommonPaywallControl

เหตุการณ์นี้มีไว้เพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์การซื้อในแอป (IAP) สำหรับผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า IAP จะดำเนินการตามที่คาดไว้และช่วยให้เราเข้าใจปัญหาของผู้ใช้ เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงประสบการณ์ IAP ให้เหมาะสมที่สุด การรวบรวมจะเกิดขึ้นผ่านหนึ่งในเหตุการณ์ย่อยต่อไปนี้

  • Office.iOS.Paywall.Activation.Response- เหตุการณ์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบันทึกการตอบสนองของผู้ใช้ในระหว่างการเปิดใช้งานแผนการสมัครใช้งานบนตัวควบคุม Paywall ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพการทํางานของประสบการณ์ Paywall ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและช่วยปรับปรุงความน่าเชื่อถือในการซื้อ

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • status - String – เมื่อต้องการทราบการตอบสนองระหว่างการเปิดใช้งาน (สําเร็จ ล้มเหลว หรือข้าม)
  • Office.iOS.Paywall.BottomSheet.Stats - การใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลเพื่อวัดจํานวนผู้ใช้ที่ขยาย/ปิด UI แผ่นงานด้านล่างของหน้าจอตัวเลือกแผนการสมัครใช้งาน (SKU) ข้อมูลถูกใช้เพื่อทำความเข้าใจการใช้งาน SKU Chooser และเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การซื้อในแอปในเวอร์ชันอนาคต

    มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

    • isDimissed - Bool - true ถ้าผู้ใช้ปิดลิ้นชัก
    • isExpanded - Bool - true เมื่อผู้ใช้ขยายแผ่นงานด้านล่าง
  • Office.iOS.Paywall.ExistingUserSignInButtonClicked - เพื่อบันทึกจำนวนคนที่คลิกปุ่มลงชื่อเข้าใช้บนหน้าจอตัวเลือก SKU ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพของปุ่มลงชื่อเข้าใช้ และจะทริกเกอร์ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกปุ่มนี้

  • Office.iOS.Paywall.Paywall.Presented - ข้อมูลจะถูกรวบรวมเมื่อตัวควบคุม Paywall แสดงให้ผู้ใช้เห็น ข้อมูลมีไว้เพื่อสร้างมุมมองเพื่อประเมินอัตราการแปลงในทุกขั้นตอนและรับรองว่าส่วนติดต่อผู้ใช้จะทำงานตามที่คาดไว้ โดยที่ผู้ใช้ประสบปัญหาน้อยที่สุดระหว่างประสบการณ์การซื้อ

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • CPCVersion - จํานวนเต็ม - เวอร์ชันการควบคุม Paywall ของลูกค้าที่เราเสนอ เราพิจารณาเรื่องนี้โดยยึดตามค่าสถานะการทดลอง
    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • isFRE - บูลีน – เรากำลังแสดงประสบการณ์การเรียกใช้ครั้งแรกหรือ regular UI ใช่หรือไม่
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
  • Office.iOS.Paywall.Paywall.Stats - ข้อมูลจะถูกรวบรวมเมื่อส่วนติดต่อผู้ใช้ Paywall แสดงต่อผู้ใช้ ระยะเวลาของการโต้ตอบ และมีการพยายามซื้อ สำเร็จ หรือล้มเหลว ข้อมูลมีไว้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของส่วนติดต่อผู้ใช้และรับรองว่าจะทำงานตามที่คาดไว้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • isFRE - บูลีน – ตรวจสอบเพื่อดูว่าประสบการณ์เรียกใช้ครั้งแรกหรือ UI ธรรมดากำลังแสดงอยู่
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • status - สตริง – ออกจากสถานะของ Paywall เช่น “เริ่มต้น”, “การชำระเงินเสร็จสิ้น”, “การจัดเตรียมที่ล้มเหลว”
    • userDuration - Double – ระยะเวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่ผู้ใช้ใช้ใน Paywall
  • Office.iOS.Paywall.Provisioning.Response - การวัดและส่งข้อมูลทางไกลและข้อตกลงทางวิศวกรรมที่สำคัญด้วย Microsoft Retail Federation Service (RFS) จะรวบรวมข้อมูลที่ระบุไว้ในเหตุการณ์นี้ RFS เป็นบริการภายในที่ใช้ใน Microsoft สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องในการซื้อ ซึ่งมีไว้เพื่อรับสถานภาพของการเรียกใช้ API ที่ทำขึ้นไปยัง RFS ที่ช่วยให้เข้าใจว่าประสิทธิภาพของการผสานจะเป็นไปตามที่คาดไว้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • failureReason - สตริง – เพิ่มเฉพาะเมื่อสถานะเป็น “ล้มเหลว” ระบุการตอบสนองข้อผิดพลาดที่กำหนดโดยการตอบสนองการเตรียมใช้งาน RFS
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productId - สตริง – ID App Store ของผลิตภัณฑ์ที่มีการร้องขอ
    • status - สตริง – ความสำเร็จหรือความล้มเหลวระบุว่าคำขอเสร็จสมบูรณ์หรือล้มเหลว
  • Office.iOS.Paywall.PurchaseCompleteScreen.Shown - เมื่อต้องการบันทึกจํานวนผู้ใช้ที่ไม่สามารถดําเนินการ StoreKit API (โฟลว์ของ Apple), การเตรียมใช้งาน API (โฟลว์การติดต่อกับภายนอกร้านค้าปลีก) และ API การเปิดใช้งาน (โฟลว์การให้สิทธิ์การใช้งาน) ให้เสร็จสมบูรณ์และดูหน้าจอความสําเร็จ ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพการทํางานของประสบการณ์ Paywall ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและช่วยปรับปรุงความน่าเชื่อถือในการซื้อ

  • Office.iOS.Paywall.PurchaseFailedScreen.OpenSettingsButtonTap - เพื่อบันทึกจำนวนผู้ใช้ที่แตะที่ปุ่มเปิดการตั้งค่าเมื่อพวกเขาเห็นปุ่มนี้ระหว่างข้อผิดพลาดของเครือข่ายขณะพยายามดำเนินการ StoreKit API (โฟลว์ของ Apple), การเตรียมใช้งาน API (โฟลว์การติดต่อกับภายนอกร้านค้าปลีก) และการเปิดใช้งาน API (โฟลว์การให้สิทธิ์การใช้งาน) ให้เสร็จสมบูรณ์ ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพการทํางานของประสบการณ์ Paywall ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและช่วยปรับปรุงความน่าเชื่อถือในการซื้อ

  • Office.iOS.Paywall.PurchaseFailedScreen.RetryButtonTap - ข้อมูลจะรวบรวมเมื่อการจัดซื้อ/การจัดเตรียม/การเปิดใช้งานล้มเหลว และผู้ใช้แตะปุ่มลองอีกครั้ง ข้อมูลมีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาในเหตุการณ์ข้อผิดพลาดในการซื้อ และทำการแก้ไขเพื่อให้มั่นใจว่าจะทำงานตามที่คาดไว้ [เหตุการณ์ย่อยนี้เดิมชื่อ Office.iOS.Paywall.FailedScreen.RetryButtonTap]

    มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

    • failureReason - สตริง – ระบุข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้พยายามใหม่ ตัวอย่างเช่น “provisioningFailed”, “purchaseFailed”, “activationFailed”
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productid - สตริง – App Store ID ของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้กำลังลองใหม่แล้วคำขอล้มเหลว
  • Office.iOS.Paywall.PurchaseFailedScreen.Shown - เมื่อต้องการบันทึกจํานวนผู้ใช้ที่ไม่สามารถดําเนินการ StoreKit API (โฟลว์ของ Apple), การเตรียมใช้งาน API (โฟลว์การติดต่อกับภายนอกร้านค้าปลีก) และ API การเปิดใช้งาน (โฟลว์การให้สิทธิ์การใช้งาน) ให้เสร็จสมบูรณ์และดูหน้าจอความล้มเหลว ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพการทํางานของประสบการณ์ Paywall ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและช่วยปรับปรุงความน่าเชื่อถือในการซื้อ

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • failureReason - String – เมื่อต้องการทราบสาเหตุของความล้มเหลว
  • Office.iOS.Paywall.SignIn.Response - เหตุการณ์จะถูกรวบรวมเมื่อผู้ใช้เสร็จสิ้น SignIn ระหว่างโฟลว์ Upsell ซึ่งทริกเกอร์สถานการณ์ Upsell ของ PreSignIn เช่น PreSignIn FRE และ PreSignInDiamond สามารถใช้เพื่อตรวจสอบอัตรา SignIn ระหว่างโฟลว์ Upsell และช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ PreSign ได้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • authToken - สตริง - โทเค็นการรับรองความถูกต้องของผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ ใช้เพื่อแก้จุดบกพร่องของปัญหาที่โทเค็นการรับรองความถูกต้องไม่ถูกต้องและการเตรียมใช้งานสําหรับบัญชีล้มเหลว ถ้าโทเค็นเป็น nil ให้บันทึกเป็น "nil-auth-token"
    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • status - สตริง – สถานะ SignIn ของผู้ใช้ สามารถเป็น Cancelled, Failure, PremiumSignIn หรือ Success (Signin ที่ไม่ใช่แบบพรีเมียม)
  • Office.iOS.Paywall.SigninAlertShowUpsellButtonTapped - เพื่อบันทึกจํานวนผู้ใช้ที่แตะบนแสดงปุ่ม Upsell ในการแจ้งเตือนการลงชื่อเข้าใช้ CPC ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดจํานวนผู้ใช้ที่ไม่ใช่พรีเมียมที่กลับมายังหน้าจอ CPC หลังการลงชื่อเข้าใช้สําเร็จจาก CPC

  • Office.iOS.Paywall.SKUChooser.BuyButtonTap - ข้อมูลจะถูกรวบรวมเมื่อผู้ใช้แตะปุ่มซื้อ ข้อมูลดังกล่าวมีไว้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของปุ่มและรับรองว่าจะทำงานตามที่คาดไว้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • currentFeatureCard - สตริง – ชื่อเรื่องของบัตรฟีเจอร์ปัจจุบันบนจอแสดงผลก่อนที่จะแตะปุ่มซื้อของ/ซื้อ
    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • isDefaultSKU - Bool – ถ้าผู้ใช้กำลังซื้อผลิตภัณฑ์ เราขอแนะนำสำหรับพวกเขาโดยการแสดงเป็นค่าเริ่มต้น
    • isFloatingDock - Bool - จะแสดงว่าปุ่มซื้อถูกแตะบน Dock ลอยตัวหรือการ์ดแผน
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productId - สตริง – ผลิตภัณฑ์ App-store-id ของผลิตภัณฑ์ที่แตะปุ่มซื้อ
    • toggleCount - Int – จำนวนครั้งที่ผู้ใช้เปลี่ยนไปมาระหว่างการดูผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อนที่พวกเขาจะแตะปุ่มซื้อในเซสชันปัจจุบันของ Paywall [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]
  • Office.iOS.Paywall.SKUChooser.MoreBenefits.Stats - ข้อมูลจะถูกรวบรวมเมื่อผู้ใช้แตะ “ดูสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม” เพื่อดูบริการ แอป และฟีเจอร์ทั้งหมดที่รวมอยู่ในการซื้อ ผู้ใช้ต้องขยายส่วนที่ระบุรายละเอียดของฟีเจอร์ของแต่ละแอป เหตุการณ์นี้จะรวบรวมฟีเจอร์และแอปที่พวกเขาขยาย พร้อมกับระยะเวลาที่ใช้ ข้อมูลมีไว้เพื่อรับรองว่า UI ที่เสนอให้กับผู้ใช้งานเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จะทำงานตามที่คาดไว้

    มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

    • appsExpanded - สตริง – รายการที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคของบริการ/แอปที่มีการขยายผลประโยชน์
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productId - สตริง – App Store ID ของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้กำลังดูสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่นำเสนอ
    • userDuration - Double – ระยะเวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่ผู้ใช้ใช้ในหน้าจอสิทธิประโยชน์
  • Office.iOS.Paywall.SKUChooser.ProductSwitched - การวัดและส่งข้อมูลทางไกลของการใช้งานจะดูการโต้ตอบของผู้ใช้งานกับ UI ที่มอบให้เพื่อสลับไปมาระหว่าง SKU ต่างๆ และรับรองว่าจะทำงานตามที่คาดไว้

    มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productId - สตริง – App Store ID ของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เพิ่งเปลี่ยนไปดูจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่บนตัวเลือก SKU
  • Office.iOS.Paywall.SKUChooser.Stats - ข้อมูลจะถูกรวบรวมเพื่อดูว่าผู้ใช้ป้อน SKU Chooser อย่างไร ผู้ใช้ใช้เวลาบนหน้าจอ SKU Chooser นานเท่าใดและเหตุใดจึงออกจาก SKU Chooser เมื่อใช้ข้อมูล เรามั่นใจได้ว่าตัวเลือก SKU ทำงานตามที่คาดไว้ และเราจะสามารถพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ได้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • cardsVisited - Int – จํานวนบัตรฟีเจอร์ที่แสดงที่ผู้ใช้เห็น
    • compTableInteracted - Bool - ถ้าผู้ใช้สลับการเลือกคอลัมน์ตารางการเปรียบเทียบตลอดเซสชัน
    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • exitReason - สตริง – เหตุผลที่ออกจาก SKU Chooser เช่น “BuyButton”, “CloseButton”
    • floatingDDInteracted - Bool - ถ้าผู้ใช้เคยคลิกบนดรอปดาวน์ใน Dock ลอย
    • floatingToggleCount - Int - จํานวนครั้งที่ผู้ใช้สลับระหว่างรายเดือนและรายปีบน Dock ลอยตัว
    • graceLeftoverDays - Int – จำนวนวันที่เหลือสำหรับระยะเวลาผ่อนผัน
    • isFRE - บูลีน – เรากำลังแสดงประสบการณ์การเรียกใช้ครั้งแรกหรือ regular UI ใช่หรือไม่
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • scrollDepth - Double - ความลึกของเลื่อนตลอดเซสชันปัจจุบันของ Paywall
    • userDuration - Double – ระยะเวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่ผู้ใช้ใช้ใน SKU Chooser
    • toggleCount - Int - จำนวนครั้งที่ผู้ใช้เปลี่ยนไปมาระหว่างการดูผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก่อนที่พวกเขาจะแตะปุ่มซื้อ/ยกเลิกในเซสชันปัจจุบันของ Paywall
  • Office.iOS.Paywall.SKUChooser.ToggleTap - ข้อมูลจะถูกรวบรวมเมื่อผู้ใช้แตะปุ่มสลับ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพของการสลับและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทํางานตามที่คาดไว้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • selectedPlanType - Int - ตรวจสอบชนิดการสลับแผนที่เลือกรายเดือน/ รายปี (1 สําหรับรายเดือน, 2 สําหรับรายปี)
  • Office.iOS.Paywall.StoreKit.Response - การวัดและส่งข้อมูลทางไกลทางวิศวกรรมที่สำคัญจะบันทึกผลลัพธ์ของการพยายามซื้อที่ทริกเกอร์โดยผู้ใช้และการตอบสนองต่อเหตุการณ์ของ App Store ข้อมูลมีไว้เพื่อประเมินสถานะของการพยายามซื้อและสาเหตุของข้อผิดพลาด (ถ้ามี) และดำเนินการแก้ไขเพื่อให้มั่นใจว่า IAP และจุดเข้าใช้งานทั้งหมดจะดำเนินการตามที่คาดไว้

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • entryPoint - สตริง – ปุ่ม/โฟลว์ ที่ Paywall ถูกแสดง เช่น "ปุ่มอัปเกรดพรีเมียม" หรือ "โฟลว์การเรียกใช้ครั้งแรก"
    • failureReason - สตริง – เพิ่มเฉพาะเมื่อสถานะเป็น “ล้มเหลว” ระบุการตอบสนองข้อผิดพลาดที่กำหนดโดยการตอบสนองของ App Store
    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productId - สตริง – เฉพาะสำหรับ “ทำการซื้อ” "รอการซื้อ" ID app-store ของผลิตภัณฑ์ที่มีการร้องขอ
    • productsCount - Int – เฉพาะสำหรับ “การดึงข้อมูลผลิตภัณฑ์” จำนวนสินค้าที่ส่งกลับโดย Store
    • requestType - สตริง – ชนิดคำขอ StoreKit เช่น “ProductsFetch”, “PendingPurchase”, "Restore"
    • status - สตริง – ความสำเร็จหรือความล้มเหลว แสดงถึงความสำเร็จหรือความล้มเหลวของคำขอ
    • trialInfo - String: Bool - เก็บข้อมูลรุ่นทดลองใช้ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ดึงมาจาก App Store ซึ่งจะว่างเปล่าถ้าการดึงข้อมูลรุ่นทดลองใช้ล้มเหลว
  • Office.iOS.Paywall.StoreKit.RestorePurchase - เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นสําหรับผู้ใช้ที่กําลังคืนค่าการซื้อก่อนหน้านี้โดยคลิกที่ "คืนค่าการซื้อครั้งก่อน" บนตัวควบคุม Paywall ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพการทํางานของประสบการณ์ Paywall ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและช่วยปรับปรุงความน่าเชื่อถือในการซื้อ

    เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

    • status - String – เมื่อต้องการทราบการตอบสนองในระหว่างกระบวนการคืนค่านี้ (สําเร็จ ล้มเหลว หรือไม่ได้คาดคิด)
  • Office.iOS.Paywall.SuccessScreen.SeeAllBenefitsButtonTap - เหตุการณ์นี้จะถูกรวบรวมเมื่อผู้ใช้แตะ “ดูสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม” หลังจากการซื้อสำเร็จเพื่อดูแอปและฟีเจอร์ที่รวมอยู่ในการซื้อ ข้อมูลมีไว้เพื่อประเมินว่าส่วนติดต่อผู้ใช้ทำงานตามที่คาดไว้หรือไม่

    มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

    • PaywallSessionId - สตริง – รวบรวมเพื่อระบุเซสชัน Paywall ในเซสชันแอป
    • productId - สตริง – App Store ID ของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้กำลังดูสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่นำเสนอ

Office.Apple.Licensing.CommonPaywallDetails

เหตุการณ์นี้บันทึกรายละเอียดผู้ใช้ก่อนที่จะแสดงตัวควบคุม Paywall ให้กับผู้ใช้ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวินิจฉัยปัญหากับ Common Paywall Control (CPC) และใช้ร่วมกับตาราง Office.Apple.Licensing.CommonPaywallControl เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาใดๆ ในโค้ดหรือไม่ หรือเพื่อแก้ไขความผิดปกติของข้อมูลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ CPC

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • canUserSeeUpsell - บูลีน: True ถ้าผู้ใช้ SignedIn มีอายุยังไม่ถึงเกณฑ์และมีคุณสมบัติที่จะดูหน้าจอ Upsell

  • DidShowPromotedSubscription - บูลีน: True ถ้าผู้ใช้ได้ทริกเกอร์การเริ่มต้นระบบแอปแรกจากการสมัครใช้งานที่เลื่อนระดับ

  • EffectiveIdentityType - บูลีน: ชนิดการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้ สามารถเป็น -1 (ไม่ได้ลงชื่อ), 1 (MSA), 2 (OrgId)

  • HasSubscription - บูลีน: จริง ถ้าผู้ใช้มีการสมัครใช้งาน Microsoft 65 ที่ใช้งานได้

  • IsCPCOnSignInEnabled - บูลีน: True ถ้า FeatureGate Microsoft.Office.LicensePurchase.FollowSignInWithCPC ถูกเปิดใช้งาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจากบิลด์ปัจจุบันของ Office แต่อาจยังคงปรากฏในรุ่นเก่ากว่า]

  • isFREUpsellToUnsignedUsersEnabled - บูลีน: True ถ้า FeatureGate Microsoft.Office.LicensePurchase.FREUpsellToUnsignedUsers ถูกเปิดใช้งาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจากบิลด์ปัจจุบันของ Office แต่อาจยังคงปรากฏในรุ่นเก่ากว่า]

  • IsProClassDisplay - บูลีน: ระบุว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้มีจอแสดงผลระดับมืออาชีพ (ขนาดหน้าจอ > 10.1 นิ้ว) หรือไม่

  • ShowCPC - บูลีน: ระบุว่าแสดง CPC First Run Experience (FRE) ให้กับผู้ใช้หรือไม่

  • SKUEffectiveIdentityType - Int: ชนิดการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้ สามารถเป็น -1 (ไม่ได้ลงชื่อ), 1 (MSA), 2 (OrgId)

  • SKUHasSubscription - บูลีน: จริง ถ้าผู้ใช้มีการสมัครใช้งาน Microsoft 365 ที่ใช้งานได้

  • SKUIsCommonPaywallControlEnabled - บูลีน: True ถ้า FeatureGate Microsoft.Office.LicensePurchase.UseCPC ถูกเปิดใช้งาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจากบิลด์ปัจจุบันของ Office แต่อาจยังคงปรากฏในรุ่นเก่ากว่า]

  • SKUIsPreSignInDiamondEnabled - บูลีน: True ถ้า FeatureGate Microsoft.Office.LicensePurchase.PreSignInDiamond ถูกเปิดใช้งาน [เขตข้อมูลนี้ได้ถูกนำออกจากบิลด์ล่าสุดของ Office แต่อาจยังคงปรากฏในรุ่นเก่ากว่า]

  • SKUIsProClassDisplay - บูลีน: ระบุว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้มีจอแสดงผลระดับมืออาชีพ (ขนาดหน้าจอใหญ่กว่า 10.1 นิ้ว) หรือไม่

  • SKUShowCPC - บูลีน: ระบุว่าแสดง CPC SKU Chooser ให้กับผู้ใช้หรือไม่

Office.Apple.Licensing.GracePeriodForPremiumIpad

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เข้าสู่ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) "คุณมีสิทธิ์รับ Free Pass" และคลิกปุ่มเรียกใช้การดําเนินการ:

  • ปุ่ม "ยกเลิก" ที่มุมบนขวา
  • ปุ่ม "เปิดใช้งาน Free Pass" ที่กึ่งกลาง
  • ปุ่ม "ข้าม" ที่กึ่งกลางด้านล่าง

ข้อมูลมีไว้เพื่อรับรองว่าฟีเจอร์นี้ทำงานตามที่คาดไว้ และผู้ใช้จะได้รับคีย์สิทธิการใช้งาน Free Pass หากพวกเขาเลือกใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ActivateButtonClick - bool – ผู้ใช้คลิกที่ปุ่มเปิดใช้งานบน Free Pass UI

  • ActivatedGraceLicenseKey - bool – เปิดใช้งานสิทธิการใช้งานระยะเวลาผ่อนผันแล้ว

  • CancelButtonClick - bool – ผู้ใช้คลิกที่ปุ่มยกเลิกบน Free Pass UI

  • SkipButtonClick - bool – ผู้ใช้คลิกที่ปุ่มข้ามบน Free Pass UI

Office.Apple.Licensing.PremiumFeatureUpsell

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ฟรีที่คลิกเพื่อดูฟีเจอร์เบื้องหลัง Paywall ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อประเมินการโต้ตอบของผู้ใช้กับประสบการณ์ Upsell ตามบริบทและเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CanUserSeeUpsell - บันทึกเมื่อสถานะของผู้ใช้อนุญาตให้พวกเขาเห็น Upsell CTA

  • dismissUpsellUI - บันทึกเมื่อผู้ใช้คลิก “ปุ่มยกเลิก” ในกล่องการแจ้งเตือน หรือผู้ใช้ปิดแผ่นงานด้านล่างสุด

  • featureId - ตัวระบุฟีเจอร์พรีเมียมที่ผู้ใช้กำลังพยายามใช้

  • learnMoreButtonClick - บันทึกเมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม “เรียนรู้เพิ่มเติม”

  • LicensingUpgradeUIShown - บันทึกเมื่อผู้ใช้เห็นกล่องการแจ้งเตือน Upsell

  • seePlanButtonClick - บันทึกเมื่อผู้ใช้คลิกปุ่ม “ดูแผน”

Office.Dime.Sdk.Health

เหตุการณ์นี้รวบรวมข้อมูลที่ช่วยในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของส่วนประกอบที่โฮสต์โฟลว์การซื้อในแอปสําหรับการสมัครใช้งาน Microsoft 365 เพื่อให้แน่ใจว่าโฟลว์ทํางานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_ActivityErrorDescription - คำอธิบายข้อผิดพลาดของกิจกรรม

  • Data_ActivityErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดของกิจกรรม

  • Data_ActivityId - ActivityId ที่จะเชื่อมโยง dime กับคู่ค้าที่ใช้ ActivityId

  • Data_CampaignId - ID แคมเปญสำหรับแอททริบิวต์

  • Data_ContentId - ขึ้นอยู่กับ ID ประสบการณ์ โดยจะแมปกับ ID โฟลว์และ ID เนื้อหา

  • Data_CorrelationVector - เวกเตอร์ความสัมพันธ์เพื่อเชื่อมโยง Dime กับคู่ค้าที่ใช้เวกเตอร์ความสัมพันธ์

  • Data_CustomerImpacted - ใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาหากลูกค้าได้รับผลกระทบในการโหลดโฟลว์

  • Data_DimeActivityDuration - ระยะเวลา

  • Data_DimeActivityMetadata - เมตาดาต้ากิจกรรม

  • Data_DimeActivityName - ชื่อกิจกรรมสำหรับการตรวจสอบสถานภาพ

  • Data_DimeActivityResult - ผลลัพธ์ของกิจกรรม สำเร็จ/ ข้อผิดพลาด/ ข้อผิดพลาดที่คาดไว้

  • Data_DimeVersion - เวอร์ชันบิลด์

  • Data_DurationLevel - ความรุนแรง - 0/1/2

  • Data_EcsConfigIds - ID สำหรับการทดลอง

  • Data_EcsCountry - ประเทศหรือภูมิภาคที่ตรวจพบ

  • Data_EcsETag - ข้อมูลเที่ยวบิน

  • Data_Environment - สภาพแวดล้อม Dime การผลิต/ก่อนการผลิต

  • Data_ExperienceId - ประสบการณ์ในการโหลด

  • Data_FlowId - ขึ้นอยู่กับ ID ประสบการณ์ โดยจะแมปกับ ID โฟลว์และ ID เนื้อหา

  • Data_Language - วัฒนธรรม

  • Data_LaunchId - ID ที่ไม่ซ้ำกันสําหรับแต่ละอินสแตนซ์ที่เปิดใช้

  • Data_Market - ตลาดที่ตรวจพบ

  • Data_OTelJS_Version - เวอร์ชันการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของ Office

  • Data_PageSessionId - ID เซสชันของหน้า

  • Data_PartnerId - แอปผู้โทร

  • Data_ProductId - รหัสผลิตภัณฑ์ที่เลือก (ไม่จําเป็นต้องซื้อ) โดยลูกค้า

  • Data_ProductName - ชื่อผลิตภัณฑ์ที่เรียกง่ายของผลิตภัณฑ์ที่เลือก (ไม่จําเป็นต้องซื้อ) โดยลูกค้า

  • Data_QosLevel - ความรุนแรง 0/1/2

  • Data_SDX_AssetId - ID แอสเซทของบริการที่ส่งมอบประสบการณ์ (SDX) ที่โฮสต์เนื้อหาสำหรับ Win32

  • Data_SDX_BrowserToken - โทเค็นของเบราว์เซอร์สำหรับ Win32

  • Data_SDX_HostJsVersion - เวอร์ชันไลบรารี JavaScript สำหรับ Win32

  • Data_SDX_Id - ID บริการที่ส่งมอบประสบการณ์สำหรับ Win32

  • Data_SDX_InstanceId - ID อินสแตนซ์ของ SDX สำหรับ Win32

  • Data_SDX_MarketplaceType - ประเภท SDX Marketplace สำหรับ Win32

  • Data_SDX_OfficeJsVersion - เวอร์ชัน Office JS สำหรับ Win32

  • Data_SDX_SessionId - ID เซสชันของ SDX สำหรับ Win32

  • Data_SDX_Version - เวอร์ชัน SDX สำหรับ Win32

  • Data_SkuId - SKU ID ที่เลือก (ไม่จําเป็นต้องซื้อ) โดยลูกค้า

  • Data_TimestampUTC - การประทับเวลาของเหตุการณ์

  • Data_TsgId - ID คู่มือการแก้ไขปัญหาสำหรับแต่ละกิจกรรม

  • Data_UserAgent - แท็กส่วนหัว

Office.Docs.Shared.PremiumFeatureMessageBar

เหตุการณ์นี้จะรวบรวมการแตะที่ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมซึ่งอยู่เบื้องหลัง Paywall ของผู้ใช้ฟรี ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้เข้าใจชุดของฟีเจอร์ที่ผู้บริโภคโต้ตอบด้วยเมื่อพวกเขาได้รับการแปลงเป็นผู้ใช้ที่ชําระเงิน ซึ่งบอกเราเกี่ยวกับจุดเข้าใช้งานที่ต้องการของผู้ใช้ และปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • featureId - TCID สำหรับฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่ผู้ใช้แตะ

Office.Licensing.AcceptEulaForCurrentLicense

ซึ่งรวบรวมเมื่อผู้ใช้ได้รับสิทธิการใช้งาน และยอมรับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิสำหรับสิทธิการใช้งานปัจจุบัน

ซึ่งจะใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะดีหรือไม่ ใช้สำหรับสถานภาพของระบบ และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัยว่าผู้ใช้รายงานปัญหากับเครื่องของตนหรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ACID - ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • DwEulaId – ตัวระบุตัวเลขของชนิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ผู้ใช้ยอมรับ

Office.Licensing.ActivateDeviceEntitlement

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อเราพยายามเปิดใช้งานข้อเสนอ Office ถาวรบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ เราใช้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบสถานภาพของระบบและบริการ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Activity_Success - บอกเราว่าอุปกรณ์ได้รับสิทธิการใช้งานด้วยข้อเสนอ Office ถาวรบนอุปกรณ์หรือไม่

  • Data_Count - บอกจํานวนการให้สิทธิ์ Office ถาวรตามอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ให้กับเรา ทางเทคนิคนั้น ไม่ควรมีมากกว่าหนึ่งรายการ

  • Data_EligibleEntitlementsCount - บอกจํานวนการให้สิทธิ์กับเรา เนื่องจากบริการจะส่งกลับการให้สิทธิ์อุปกรณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ แต่เราต้องตรวจสอบข้อเสนอดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน Office ที่เรียกใช้อยู่

  • Data_Errors - สตริงที่มีรายการข้อผิดพลาดขณะที่เราดึงข้อมูลสิทธิการใช้งานสำหรับการให้สิทธิ์ โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค

  • Data_LicensedEntitlementsCount - บอกจํานวนการให้สิทธิ์ที่เราสามารถดึงข้อมูลสิทธิการใช้งานได้สำเร็จ อาจมีข้อผิดพลาดการให้สิทธิ์ที่ทำให้เราไม่ได้รับสิทธิการใช้งาน

Office.Licensing.Activation

หลังการตั้งค่าสิทธิการใช้งานในเครื่อง เราพยายามเปิดใช้งานสิทธิการใช้งานโดยการเรียกใช้บริการ AVS ซึ่งจะรายงานผลลัพธ์ของการเรียกใช้การเปิดใช้งาน

การตรวจสอบจำนวนผู้ใช้ที่พบปัญหาการเปิดใช้งานเป็นเรื่องสำคัญ เรามีการตรวจหาสิ่งผิดปกติเพื่อตรวจหาการถดถอยใดๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเรามีการอ้างอิงภายนอกใน AVS และสัญญาณนี้ชี้ว่าคู่ค้าภายนอกของเราทำงานปกติดีหรือไม่ นอกจากนี้ยังใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการวินิจฉัยและสถานภาพระบบถ้าผู้ใช้รายงานปัญหากับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ACID - ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • ReferralData – ตัวระบุของ OEM ที่ติดตั้ง Office บนเครื่อง

Office.Licensing.ActivationWizard

ถ้าเราไม่สามารถเปิดใช้งานสิทธิการใช้งานโดยอัตโนมัติด้วยเหตุผลบางประการ เราแสดงตัวช่วยสร้างการเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้ ซึ่งจะรายงานว่าจะแสดงตัวช่วยสร้างให้กับผู้ใช้ การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่มีฟังก์ชันการทำงานใดขาดหายไปหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Licensing.BusBar.CheckForDynamicBusbarExperiment

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์หนึ่งครั้งสำหรับชนิดของแถบธุรกิจที่ให้สิทธิการใช้งานทุกรายการที่จะแสดงที่ได้เปิดเวอร์ชันทดสอบของแถบธุรกิจแบบไดนามิก (กลุ่มการดูแล) เหตุการณ์ข้อมูลนี้จะรายงานว่ามีแคมเปญแถบธุรกิจแบบไดนามิก Lifecycle Programming Platform บนดิสก์หรือไม่ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดสถานภาพบริการของเทคโนโลยีแถบธุรกิจที่ให้สิทธิการใช้งานแบบไดนามิกของ Lifecycle Programming Platform ใหม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DoesCampaignExist (bool) - จะระบุว่ามีแคมเปญอยู่บนดิสก์หรือไม่

  • Type (int32) - ระบุชนิดของแถบธุรกิจการให้สิทธิการใช้งาน

Office.Licensing.BusBar.ShowStashedBusbar

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อแถบธุรกิจ Lifecycle Programming Platform ไม่แสดง และต้องมีแถบธุรกิจคงที่แบบสเตชแสดงแทน เหตุการณ์ข้อมูลนี้จะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการย้อนกลับไปยังแถบธุรกิจคงที่ประสบความสำเร็จ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Type (int32) - ระบุชนิดของแถบธุรกิจการให้สิทธิการใช้งาน

Office.Licensing.Dialogs.ReactNativeDialog.RekaService.CloseAndStoreUserAction

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อมีการปิดกล่องโต้ตอบ Licensing Validation User Experience (LVUX) 2.0 ReactNative ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์กล่องโต้ตอบ ReactNative เกิดขึ้นและทริกเกอร์ลักษณะการทํางานที่คาดไว้ และปิดกล่องโต้ตอบ ReactNative สําเร็จ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • Action - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX RN

  • DialogView - ระบุกล่องโต้ตอบ LVUX RN

  • Flow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

Office.Licensing.Dialogs.ReactNativeDialog.RekaService.HandleAction

เหตุการณ์จะถูกทริกเกอร์เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในกล่องโต้ตอบ Licensing Validation User Experience (LVUX) 2.0 ReactNative ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์กล่องโต้ตอบ ReactNative เกิดขึ้นและทริกเกอร์ลักษณะการทํางานที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • Action - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX RN

  • DialogView - ระบุกล่องโต้ตอบ LVUX RN

  • Flow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

Office.Licensing.Dialogs.ReactNativeDialog.Show

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อมีการแสดงกล่องโต้ตอบ Licensing Validation User Experience (LVUX) 2.0 ReactNative ใช้เพื่อตรวจสอบว่ากล่องโต้ตอบ ReactNative เปิดใช้งานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • DialogView - ระบุกล่องโต้ตอบ LVUX RN

  • Flow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

Office.Licensing.Dialogs.WebViewDialog.Close

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เป็นสัญญาณเพื่อบอกเราว่าประสบการณ์การซื้อในแอปกำลังถูกปิดโดยผู้ใช้หรือแอปพลิเคชัน ข้อมูลนี้ใช้ในการตรวจสอบและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานภาพของโฟลว์การสั่งซื้อในแอปเพื่อเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_ClosedDialog - ค่าสถานะที่ระบุว่าผู้ใช้ปิดกล่องโต้ตอบ

Office.Licensing.Dialogs.WebViewDialog.HandleErrorNotification

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เป็นสัญญาณเพื่อบอกเราว่าประสบการณ์การซื้อในแอปพยายามโหลด แต่เกิดข้อผิดพลาดซึ่งส่งผลให้กล่องโต้ตอบไม่แสดงขึ้น ข้อมูลนี้ใช้ในการตรวจสอบและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานภาพของโฟลว์การสั่งซื้อในแอปเพื่อเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Data_MoeErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่เห็นในเฟรมเวิร์กของกล่องโต้ตอบเว็บ

Office.Licensing.Dialogs.WebViewDialog.Preload

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เป็นสัญญาณเพื่อบอกเราว่าประสบการณ์การซื้อในแอปกำลังถูกโหลดในพื้นหลัง ข้อมูลนี้ใช้ในการตรวจสอบและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานภาพของโฟลว์การสั่งซื้อในแอปเพื่อเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ไม่มี

Office.Licensing.Dialogs.WebViewDialog.Show

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เป็นสัญญาณเพื่อบอกเราว่าประสบการณ์การซื้อในแอปกำลังแสดงให้ผู้ใช้เห็น ข้อมูลนี้ใช้ในการตรวจสอบและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานภาพของโฟลว์การสั่งซื้อในแอป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ไม่มี

Office.Licensing.Dialogs.WebViewDialog.Timeout

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เป็นสัญญาณเพื่อบอกเราว่าประสบการณ์การซื้อในแอปพยายามโหลดแต่หมดเวลา ข้อมูลนี้ใช้ในการตรวจสอบและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานภาพของโฟลว์การสั่งซื้อในแอปเพื่อเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ตามที่คาดไว้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ไม่มี

Office.Licensing.EnforceSignInQualified

สัญญาณที่บอกให้เราทราบถ้าการทดลองที่เราทำงานเพื่อบังคับผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิการใช้งานเสร็จสมบูรณ์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจหาความสำเร็จหรือล้มเหลวของการทดลองที่จะบังคับให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบซึ่งเป็นขั้นตอนจำเป็นสำหรับสแตกการให้สิทธิ์การใช้งานแบบใหม่ หากไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ จะทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถใช้แอปได้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Qualified – ระบุว่าผู้ใช้มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการบังคับใช้การลงชื่อเข้าใช้หรือไม่

Office.Licensing.Erfm.ErfmSubTriggerEvent

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เข้าสู่โฟลว์ UX การให้สิทธิการใช้งานเพื่อพยายามเปลี่ยนจากสถานะไม่มีสิทธิ์การใช้งานไปยังสถานะสิทธิการใช้งาน ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการให้สิทธิ์การใช้งาน Microsoft Office ทํางานตามที่คาดไว้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • AdsEnabled - ซึ่งแจ้งให้เราทราบว่ามีการเปิดใช้งานโฆษณาสําหรับลูกค้าหรือไม่

  • Flow - ซึ่งแจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับโฟลว์ย่อยที่แน่นอนของ UX การให้สิทธิการใช้งานที่ผู้ใช้กําลังดําเนินการอยู่

Office.Licensing.Erfm.InitializeERFM

เหตุการณ์นี้ถูกทริกเกอร์สําหรับผู้ใช้ที่เรียกใช้ Microsoft Office ภายใต้โหมดลดฟังก์ชันการทํางานขั้นสูง ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการให้สิทธิ์การใช้งาน Microsoft Office ทํางานตามที่คาดไว้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • AdsEnabled - ซึ่งแจ้งให้เราทราบว่ามีการเปิดใช้งานโฆษณาสําหรับลูกค้าหรือไม่

  • FailureReason - สิ่งนี้แจ้งให้เราทราบถึงประเภทของความล้มเหลวที่พบโดยแพลตฟอร์มโฆษณา

  • TryToReconstructToolbarsResult - ซึ่งแจ้งให้เราทราบว่าแถบเครื่องมือได้รับการสร้างใหม่หลังจากการเตรียมใช้งานสําเร็จหรือไม่

Office.Licensing.ExpirationDialogShown

สิ่งนี้จะถูกรวบรวมเมื่อเราแสดงกล่องโต้ตอบที่หมดอายุให้กับผู้ใช้ที่แจ้งว่าใบอนุญาตหมดอายุ การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่มีฟังก์ชันการทำงานใดขาดหายไปหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • LicNotificationState – ตัวระบุที่บอกให้เราทราบชนิดการแจ้งเตือนที่กำลังแสดงให้กับผู้ใช้

Office.Licensing.Flows.GenericRFMDialog

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อกล่องโต้ตอบ RFM ทั่วไป (โหมดฟังก์ชันที่ลดลง) แสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิ์การใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (LVUX: Licensing Validation User Experience) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

  • UserAction - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX ReactNative

Office.Licensing.Flows.GraceDialog

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อกล่องโต้ตอบการแจ้งเตือนสิทธิการใช้งานผ่อนผันแสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิ์การใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (LVUX: Licensing Validation User Experience) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ระยะเวลาผ่อนผันเป็นสิทธิการใช้งานฟรีห้าวันแบบครั้งเดียวเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งบนพีซีเครื่องใหม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • ACID - สิทธิการใช้งาน SKU ID ที่มีคีย์ผ่อนผันติดตั้งอยู่

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

Office.Licensing.Flows.GraceEula

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิผ่อนผันแสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิ์การใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (LVUX: Licensing Validation User Experience) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ระยะเวลาผ่อนผันเป็นสิทธิการใช้งานฟรีห้าวันแบบครั้งเดียวเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งบนพีซีเครื่องใหม่ เงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิที่ผ่อนผันคือข้อตกลงสิทธิการใช้งานที่ผู้ใช้ต้องยอมรับก่อนที่จะเปิดใช้งานสิทธิการใช้งานผ่อนผัน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

  • UserAction - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX ReactNative

Office.Licensing.Flows.GraceLicenseActiveDialog

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อกล่องโต้ตอบสิทธิการใช้งานผ่อนผันที่ใช้งานอยู่แสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิ์การใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (LVUX: Licensing Validation User Experience) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ระยะเวลาผ่อนผันเป็นสิทธิการใช้งานฟรีห้าวันแบบครั้งเดียวเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งบนพีซีเครื่องใหม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

  • UserAction - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX ReactNative

Office.Licensing.Flows.GraceLicenseExpiredDialog

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อกล่องโต้ตอบสิทธิการใช้งานผ่อนผันที่หมดอายุแสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิ์การใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (LVUX: Licensing Validation User Experience) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ระยะเวลาผ่อนผันเป็นสิทธิการใช้งานฟรีห้าวันแบบครั้งเดียวเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งบนพีซีเครื่องใหม่ เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

  • UserAction - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX ReactNative

Office.Licensing.Flows.GraceState

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เข้าสู่สถานะสิทธิการใช้งานผ่อนผัน ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบโฟลว์สิทธิการใช้งานผ่อนผันในประสบการณ์ใช้งานสิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (LVUX: Licensing Validation User Experience) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ใช้ได้รับระยะเวลาผ่อนผันก่อนโหมดฟังก์ชันการทำงานที่ลดลง สถานะที่ไม่มีสิทธิการใช้งานของแอป Office (RFM) ระยะเวลาผ่อนผันเป็นสิทธิการใช้งานฟรีห้าวันแบบครั้งเดียวเพื่อใช้ผลิตภัณฑ์ Office ที่ติดตั้งบนพีซีเครื่องใหม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

Office.Licensing.Flows.GraceWin11Reset

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อกล่องโต้ตอบการผ่อนผันของ Windows 11 แสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิการใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

  • UserAction - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX ReactNative

Office.Licensing.Flows.GraceWin11ResetConfirmation

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อกล่องโต้ตอบการยืนยันที่ตามหลังกล่องโต้ตอบการผ่อนผันของ Windows 11 แสดงในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นกล่องโต้ตอบการให้สิทธิการใช้งานที่เหมาะสมในประสบการณ์สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office (ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้สำหรับการตรวจสอบการให้สิทธิการใช้งาน/LVUX) และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการดําเนินการของผู้ใช้ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน Licensing Validation User Experience (LVUX)

  • UserAction - การดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ LVUX ReactNative

Office.Licensing.Flows.InstallGrace

เหตุการณ์นี้ถูกทริกเกอร์เมื่อ Office ติดตั้งสิทธิ์การใช้งานแบบผ่อนผัน ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการเปิดใช้งาน Microsoft Office นี้ทำงานตามที่คาดไว้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • GraceInstallResult - สิ่งนี้บอกเราว่าเราประสบความสําเร็จในการติดตั้งสิทธิการใช้งานผ่อนผันหรือไม่

Office.Licensing.Flows.PurchaseProduct

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เข้าสู่โฟลว์การซื้อแบบอินไลน์ในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่ามีการเปิดใช้งานโฟลว์การซื้อตามที่คาดไว้หรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

  • IdentityAvailable - ระบุว่าเซสชัน LVUX กำลังทำงานด้วยข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่หรือไม่

  • WebDialogResult - ระบุผลลัพธ์ของกล่องโต้ตอบการซื้อแบบอินไลน์

Office.Licensing.Flows.SearchForSCAToken

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เริ่มต้นระบบ Office ด้วยการกำหนดค่าการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ที่แชร์ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการเปิดใช้งาน Microsoft Office นี้ทำงานตามที่คาดไว้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • CurrentTokenRemainingDays - สิ่งนี้บอกเราถึงจำนวนวันที่เหลืออยู่ในโทเค็นเมื่อทำการค้นหานี้

  • IsSilentRenewal - สิ่งนี้บอกเราว่าการค้นหาถูกทริกเกอร์เนื่องจากเรากำลังพยายามต่ออายุโทเค็นเซสชันบนดิสก์ตามโอกาส

  • IsUserTriggeredRenewal - สิ่งนี้บอกเราว่าการค้นหาเกิดขึ้นโดยผู้ใช้ผ่านการคลิกบนแถบข้อความที่ขอให้ยืนยันบัญชีของตน

  • TokenCount - สิ่งนี้บอกให้เราทราบจำนวนโทเค็นเซสชันที่ถูกต้องบนดิสก์

Office.Licensing.Flows.ShowWebPurchaseExperience

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ถูกส่งไปยังโฟลว์การซื้อเว็บจากไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่ามีการเปิดใช้งานโฟลว์การซื้อตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน Licensing Validation User Experience (LVUX)

Office.Licensing.Flows.StartFlow

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อเริ่มโฟลว์ Licensing Validation User Experience (LVUX) ใหม่ในไคลเอ็นต์ Office ข้อมูลถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เปิดใช้และเข้าสู่ LVUX 2.0 ตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • FlowStatesExescuted - ระบุสถานะโฟลว์ (คอมโพเนนต์ของโฟลว์) ที่ใช้งานใน LVUX 2.0 ก่อนที่จะกลับไปเป็น LVUX 1.0 หรือออกจาก LVUX 2.0

  • FlowTypesExedcuted - ระบุชนิดของโฟลว์ที่ใช้งานใน LVUX 2.0 ก่อนที่จะกลับไปเป็น LVUX 1.0 หรือออกจาก LVUX 2.0

  • LvuxFallbackStats - ระบุสถานะที่ใช้แทนตั้งแต่ LVUX 2.0 ถึง LVUX 1.0

  • MainFlow - ชนิดโฟลว์รายการของเซสชัน LVUX

Office.Licensing.FullValidation

ข้อมูลนี้จะรวบรวมในทุกเซสชันที่รายงานสถานะการให้สิทธิการใช้งานของเครื่องและรายงานข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้พบเห็นอันเนื่องมาจากที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้แอปได้ เหตุการณ์นี้ระบุว่า เครื่องของผู้ใช้ทำงานได้ปกติหรือไม่ เราได้ตั้งค่าการตรวจหาสิ่งผิดปกติสำหรับเหตุการณ์นี้เพื่อระบุว่าการถดถอยหรือกลไกการเปิดใช้งานทำให้เกิดลักษณะการทำงานของผู้ใช้ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ นี่เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันเมื่อวินิจฉัยปัญหาของผู้ใช้และสำหรับการตรวจสอบสถานภาพระบบ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Acid – ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • ActivationAttributes - ชนิดกลไกการเปิดใช้งานที่ผู้ใช้กำลังใช้

  • IsSessionLicensing – ว่าเรากำลังทำงานอยู่ภายใต้โหมดการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ที่แชร์หรือไม่

  • LicenseCategory – ประเภทของสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • Licenses – รายชื่อของสิทธิการใช้งาน Office ทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่อง

  • LicenseStatuses – สถานะของสิทธิการใช้งาน Office ทั้งหมดที่แสดงอยู่ในเครื่อง

Office.Licensing.GetEntitlement

เรารวบรวมข้อมูลนี้เมื่อผู้ใช้ตั้งค่าอุปกรณ์ และเราเรียกใช้บริการการให้สิทธิการใช้งานเพื่อตรวจสอบว่า ผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบมีการให้สิทธิ์ Office หรือไม่ ซึ่งจะรายงานผลลัพธ์ของการเรียกใช้ดังกล่าว การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EntitlementCount – จำนวนการให้สิทธิ์ที่ผู้ใช้มี

Office.Licensing.GetNextUserLicense

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อดึงข้อมูลสิทธิการใช้งานสำหรับการได้รับสิทธิ์ Office ตามผู้ใช้ที่เลือกระหว่างประสบการณ์การเรียกใช้ครั้งแรก เราใช้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบสถานภาพของระบบและบริการ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Activity_Success - บูลีน: บอกเราว่าเราดึงข้อมูลสิทธิการใช้งานสำหรับอุปกรณ์ที่จะเปิดใช้งานบนแอปพลิเคชัน Office สำเร็จหรือไม่

  • Data_AllowNULPerpetual - บูลีน: บอกเราว่าเวอร์ชันทดสอบที่จะเปิดใช้งาน vNext Perpetual เปิดอยู่หรือไม่

  • Data_AttemptNulReactivation - บูลีน: บอกเราว่านี่เป็นสถานการณ์สมมติการเปิดใช้งานใหม่หรือไม่

  • Data_CurrentMode - 0 หมายถึง SPP (สแตกการให้สิทธิการใช้งานแบบดั้งเดิม) 2 หมายถึง vNext (สแตกการให้สิทธิการใช้งานแบบใหม่)

  • Data_HasError - บูลีน: บอกเราว่าเราได้รับข้อผิดพลาดเมื่อพยายามรับสิทธิการใช้งานสำหรับการได้รับสิทธิ์ตามผู้ใช้ที่เลือกหรือไม่

  • Data_IsSubscription - บูลีน: บอกเราว่าการเปิดใช้งานใหม่มีไว้สำหรับการสมัครใช้งาน Office หรือไม่

  • Data_NewMode - 0 หมายถึง SPP (สแตกการให้สิทธิการใช้งานแบบดั้งเดิม) 2 หมายถึง vNext (สแตกการให้สิทธิการใช้งานแบบใหม่) ส่วนใหญ่ เราควรคาดว่าจะเป็น 2

  • Data_SkuToSkuNeeded - บูลีน: บอกเราว่าเราต้องทำการแปลง SKU เป็น SKU เนื่องจาก Office SKU ที่ได้รับสิทธิ์ไม่ตรงกับ Office SKU ที่ติดตั้งไว้

Office.Licensing.Heartbeat

ในทุกเซสชัน เราตรวจสอบว่า ผ่านไป 72 ชั่วโมงแล้วหรือยังนับตั้งแต่การต่ออายุสิทธิการใช้งานครั้งล่าสุด และพยายามขยายการหมดอายุของสิทธิการใช้งานปัจจุบัน เหตุการณ์นี้รายงานความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการเรียกใช้ที่เราทำเพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถขยายการหมดอายุของสิทธิการใช้งาน และทำให้การติดตั้ง Office ของผู้ใช้ทำงานได้ การวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสมัครใช้งานและปัญหาของบริการสำหรับผู้ใช้เป็นเรื่องสำคัญ และการตรวจหาการถดถอยสำหรับผู้สมัครใช้งานที่ใช้งานอยู่ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Mode – การแสดงตัวระบุกองการให้สิทธิการใช้งาน Office ที่ใช้บนเครื่องนี้

Office.Licensing.InClientPinRedemption.CallPinRedemptionAPI

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลนี้จะติดตามผลลัพธ์ของการเรียกใช้บริการการแลกใช้ PIN ของ Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • ClientTransactionId - รหัสเฉพาะสำหรับการเรียกใช้บริการ

  • ErrorCategory - ข้อผิดพลาดแต่ละชนิดอาจอยู่ในชนิดที่กว้างกว่านี้ เช่น "สามารถลองใหม่ได้"

  • ErrorType - เหตุผลของความล้มเหลว เช่น "AlreadyRedeemedByOther"

  • InAFOFlow - บูลีนที่บ่งชี้ว่าเราอยู่ในขั้นตอนการแลกใช้การเปิดใช้งานสำหรับ Office หรือไม่

  • StatusCode - ผลลัพธ์แบบคำเดียวของการเรียกใช้บริการ เช่น "สร้างแล้ว"

  • StatusMessage - รายละเอียดของรหัสสถานะ เช่น "เตรียมใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว"

  • UsingNulApi - บูลีนที่บ่งชี้ว่าเรากำลังใช้สแตกการให้สิทธิการใช้งานใหม่อยู่หรือไม่

Office.Licensing.InGrace

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อโฟลว์การให้สิทธิการใช้งานเสร็จสิ้นและผู้ใช้อยู่ในสถานะผ่อนผัน ใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้มีสิทธิการใช้งานที่ผ่อนผัน และโฟลว์การได้รับทํางานอย่างถูกต้อง

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ACID - รหัสเฉพาะสากล (GUID) ที่แสดงสิทธิการใช้งาน SKU

  • DaysRemaining - วันที่เหลืออยู่ในสิทธิการใช้งาน

  • Mode - สแตกการให้สิทธิการใช้งานที่เรากําลังใช้ (0 = ดั้งเดิม, 2 = NUL)

  • ProductName - ชื่อที่เรียกง่ายต่อผู้ใช้ของ SKU

  • Reason - สถานะสิทธิการใช้งาน

Office.Licensing.InRFM

ถ้าอุปกรณ์เข้าสู่โหมดลดฟังก์ชันการทำงาน เราจะส่งสัญญาณนี้เพื่อระบุว่า เครื่องไม่ได้อยู่ในสถานะทำงานได้ตามปกติ การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ACID - ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • DaysRemaining - จำนวนวันที่เหลืออยู่ก่อนที่สิทธิการใช้งาน Office ตัวปัจจุบันจะหมดอายุ

  • Mode – การแสดงตัวระบุกองการให้สิทธิการใช้งาน Office ที่ใช้บนเครื่องนี้

  • ProductName – ชื่อของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่

  • Reason– รหัสข้อผิดพลาดที่ระบุเหตุผลสำหรับสถานะปัจจุบันของสิทธิการใช้งาน

Office.Licensing.InstallKey

ข้อมูลนี้จะรวบรวมเมื่อเราพยายามติดตั้งคีย์บนอุปกรณ์เพื่อให้สิทธิการใช้งานเครื่อง โดยจะรายงานว่าการติดตั้งสำเร็จหรือไม่ ถ้าเกิดไม่ ก็จะขึ้นเป็นรหัสข้อผิดพลาด การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่มีฟังก์ชันการทำงานใดขาดหายไปหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Prid – ชื่อของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กำลังมีการติดตั้งคีย์

  • SkuId - ตัวระบุ GUID แทนผลิตภัณฑ์ Office ซึ่งกำลังมีการติดตั้งคีย์

Office.Licensing.InvokeLicenseWizard

ในกรณีที่เราพบปัญหาเกี่ยวกับการเปิดใช้งานเวิร์กโฟลว์ เราจะทริกเกอร์ตัวช่วยสร้างสิทธิ์การใช้งานและส่งสัญญาณนี้เพื่อระบุค่าเดียวกัน การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่มีฟังก์ชันการทำงานใดขาดหายไปหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ACID - ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • LicenseStatus – สถานะสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • MachineKey - ตัวระบุตัวเลขและตัวอักษรของคีย์ใบอนุญาตที่ออกให้แก่ผู้ใช้

Office.Licensing.LaunchSetupOffice

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อเราแลกใช้ข้อเสนอของ Office ของผู้ใช้ที่ซื้ออุปกรณ์ที่รวมอยู่กับการให้สิทธิ์ล่วงหน้าของ OEM Office หรือใส่คีย์ผลิตภัณฑ์แล้ว เราใช้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบสถานภาพของระบบและบริการ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Activity_Result_Tag - บอกเราว่าทำให้เหตุการณ์นี้เสร็จสิ้นได้อย่างไร

  • Data_DialogResult - บอกเราเกี่ยวกับผลลัพธ์โดยรวมของกระบวนการแลกใช้

  • Data_Scenario - บอกเราเกี่ยวกับสถานการณ์เมื่อการแลกใช้เกิดขึ้น

  • Data_ShowingSignIn - บอกเราว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแลกใช้เราตัดสินใจที่จะแสดงพร้อมท์การลงชื่อเข้าใช้หรือไม่

  • Data_UsingRefactoredFlow - ระบุเวอร์ชันสําหรับกระบวนการแลกใช้

Office.Licensing.Licensed

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อโฟลว์การให้สิทธิการใช้งานเสร็จสิ้นและผู้ใช้อยู่ในสถานะที่มีสิทธิการใช้งาน ซึ่งใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้มีสิทธิการใช้งานที่ถูกต้องและ/หรือถ้าสถานะการให้สิทธิการใช้งานมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ACID - GUID ที่แสดงถึงสิทธิการใช้งาน SKU

  • DaysRemaining - วันที่เหลืออยู่ในสิทธิการใช้งาน

  • Mode - สแตกการให้สิทธิการใช้งานที่เรากําลังใช้ (0 = ดั้งเดิม, 2 = NUL)

  • ProductName - ชื่อที่เรียกง่ายต่อผู้ใช้ของ SKU

  • Reason - สถานะสิทธิการใช้งาน

Office.Licensing.LicensingBar

ถ้าอุปกรณ์กำลังเจอปัญหาด้านสิทธิการใช้งานและเราลงเอยด้วยการแสดงบัสบาร์แก่ผู้ใช้ เราจะส่งสัญญาณนี้ออกไปซึ่งจะรายงานชนิดของบัสบาร์ที่แสดงแก่ผู้ใช้อีกด้วย การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • SuppressNotification – บ่งชี้เมื่อเราระงับบัสบาร์สิทธิการใช้งาน

  • Title – ชื่อของบัสบาร์สิทธิการใช้งานที่แสดงแก่ผู้ใช้

  • Type – ชนิดของบัสบาร์สิทธิการใช้งานที่แสดงแก่ผู้ใช้

Office.Licensing.LicExitOfficeProcess

ถ้าเราลงเอยด้วยการปิดหรือทำให้ Office หยุดทำงานเนื่องจากปัญหาด้านสิทธิการใช้งาน เราจะส่งสัญญาณนี้ออกไปเพื่อบ่งชี้อย่างเดียวกัน การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ExitCode – โค้ดภายในที่ทำให้ออกจากแอป

Office.Licensing.LoadIdentityTicket

ระหว่างดำเนินการพยายามให้สิทธิการใช้งานแก่อุปกรณ์ แอปจะลองโหลดข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้เพื่อดูว่าผู้ใช้มีสิทธิใช้งาน Office หรือไม่ เหตุการณ์นี้รายงานความสำเร็จหรือความล้มเหลวตลอดจนถึงรหัสข้อผิดพลาด การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • FederationProvider – สตริงที่ระบุผู้ให้บริการภายนอกสำหรับผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบในปัจจุบัน

  • IdentityProvider – สตริงที่ระบุผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวสำหรับผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบในปัจจุบัน

Office.Licensing.LoadIdentityTicketInSignInProvider

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อเราโหลดตั๋วข้อมูลประจําตัวของผู้ใช้เพื่อดูว่าผู้ใช้มีสิทธิใช้งาน Office หรือไม่ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการให้สิทธิ์การใช้งาน Microsoft Office ทํางานตามที่คาดไว้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ไม่มี

Office.Licensing.LVUX.EULAExplicitCrash

นี่จะมีการเก็บรวบรวมถ้าเราแสดงเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิแก่ผู้ใช้ แล้วผู้ใช้เลือกไม่ยอมรับอันเนื่องมาจากที่เราปิด/ทำให้แอปหยุดทำงาน การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ACID - ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • OptInShown – บ่งชี้ว่ากล่องโต้ตอบการเลือกรับที่แสดงในการเริ่มต้นระบบแอปครั้งแรกได้มีการแสดงผลแล้วหรือไม่

Office.Licensing.NextUserLicensingEligible

สัญญาณนี้บอกให้เราทราบเมื่อผู้ใช้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในการย้ายไปสแตกการให้สิทธิการใช้งานตัวใหม่ของเรา การวัดผลกระทบที่มีต่อผู้ใช้ที่มีอยู่ให้เป็นปริมาณเป็นเรื่องสำคัญ ด้วยเราทยอยเปิดตัวสแตกการให้สิทธิการใช้งานตัวใหม่ของเราและทำให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะไม่สูญเสียฟังก์ชันการใช้งาน

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Licensing.Nul.Fetcher.FetchModelFromOls

เมื่ออุปกรณ์อยู่ในตัวสแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่ เราจะพยายามให้ได้ไฟล์สิทธิการใช้งานมาจากบริการโดยตรง เหตุการณ์นี้รายงานความสำเร็จหรือความล้มเหลวตลอดจนถึงรหัสข้อผิดพลาดของการเรียกบริการนั้น การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีในสแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่หรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Data_CountUsableIdentitiesInProfileList - รายงานจํานวนข้อมูลประจําตัวผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับโปรไฟล์ที่ลงชื่อเข้าใช้ Microsoft Office

  • Data_CountUsableIdentitiesInUnfilteredIdentityList - รายงานจํานวนข้อมูลประจําตัวผู้ใช้ในรายการข้อมูลประจําตัวทั้งหมดที่ยังไม่ได้กรองที่ลงชื่อเข้าใช้ Microsoft Office รวมถึงข้อมูลที่มีการดําเนินการที่ค้างอยู่ซึ่งต้องการการแก้ไขเพื่อรับรองความถูกต้อง

  • MetadataValidationResult – ผลการตรวจสอบความถูกต้องของเมตาดาต้าของสิทธิการใช้งานเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถูกแก้ไขข้อมูลโดยประสงค์ร้าย

  • SignatureValidationResult – ผลการตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นของสิทธิการใช้งานเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถูกแก้ไขข้อมูลโดยประสงค์ร้าย

Office.Licensing.Nul.Validation.FullValidation

นี่จะมีการเก็บรวบรวมในทุกเซสชันของอุปกรณ์ที่ดำเนินการในสแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่ รายงานสถานะการให้สิทธิการใช้งานของเครื่องและรายงานข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้พบเห็นอันเนื่องมาจากที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้แอปได้ เหตุการณ์นี้ระบุว่า เครื่องของผู้ใช้ทำงานได้ปกติในสแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่หรือไม่ เราได้ตั้งค่าการตรวจหาสิ่งผิดปกติสำหรับเหตุการณ์นี้เพื่อระบุว่า การถดถอยทำให้เกิดลักษณะการทำงานของผู้ใช้ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ นี่เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันเมื่อวินิจฉัยปัญหาของผู้ใช้และสำหรับการตรวจสอบสถานภาพระบบ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ACID - ตัวระบุ GUID ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้มีสิทธิการใช้งาน

  • AllAcids - รายชื่อ GUID ทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ได้รับสิทธิการใช้งานในปัจจุบัน

  • Category - ประเภทของสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • DaysRemaining – จำนวนวันที่เหลืออยู่ก่อนที่สิทธิการใช้งาน Office ตัวปัจจุบันจะหมดอายุ

  • EntitlementValidityDaysRemaining - จํานวนวันที่เหลืออยู่ก่อนที่สิทธิ์การใช้งานในบัญชี Microsoft หรือองค์กรของผู้ใช้จะหมดอายุ [ก่อนหน้านี้เขตข้อมูลนี้มีชื่อว่า DaysRemaining]

  • LicenseId – ตัวระบุตัวเลขและตัวอักษรของสิทธิการใช้งานที่ออกให้แก่ผู้ใช้

  • LicenseType - ชนิดของสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • LicenseValidityDaysRemaining - จํานวนวันที่เหลืออยู่ก่อนที่ไฟล์สิทธิ์การใช้งานบนดิสก์จะหมดอายุ

Office.Licensing.OfficeClientLicensing.DoLicenseValidation

นี่คือเมตาดาต้าการให้สิทธิการใช้งานที่มีการเก็บรวบรวมจากอุปกรณ์ในทุกการเริ่มต้นระบบที่รายงานเอซิดสิทธิการใช้งาน สถานะสิทธิการใช้งาน ชนิด และคุณสมบัติอื่นๆ ของสิทธิการใช้งานที่สำคัญในการระบุชุดฟีเจอร์ที่มีให้แก่ผู้ใช้ นี่ถือว่าสำคัญในการระบุชุดฟีเจอร์ที่มีให้แก่ผู้ใช้และเมื่อฟังก์ชันการทำงานหายไปจากผู้ใช้ และยังใช้สำหรับการคำนวณผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ต่อวัน/ผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ต่อเดือน และรายงานอื่นๆ โดยทีมต่างๆ ทั่วทั้ง Office เนื่องจากตัวนี้จะบอกชนิดผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการสมัครใช้งานหรือไม่ และไม่ว่าจะขาดฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญหรือไม่ก็ตาม

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • FullValidationMode – โหมดที่บ่งชี้ว่าเราอยู่ในขั้นการตรวจสอบความถูกต้องเต็มรูปแบบของการยืนยันสิทธิการใช้งาน

  • IsRFM – บ่งชี้ว่าผู้ใช้อยู่ในโหมดลดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่

  • IsSCA – บ่งชี้ว่าเรากำลังดำเนินการในโหมดการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ที่แชร์หรือไม่

  • IsSubscription – บ่งชี้ว่าผู้ใช้ใช้สิทธิการใช้งานแบบการสมัครใช้งานหรือไม่

  • IsvNext – บ่งชี้ว่าเรากำลังใช้สแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่ตัวใหม่หรือไม่

  • LicenseCategory - ประเภทของสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • LicenseStatus – สถานะสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • LicenseType - ชนิดของสิทธิการใช้งาน Office ที่ผู้ใช้ใช้อยู่

  • LicensingACID - ตัวระบุ GUID แทนผลิตภัณฑ์ Office ที่ผู้ใช้ได้รับสิทธิการใช้งาน

  • OlsLicenseId - ตัวระบุตัวเลขและตัวอักษรของสิทธิการใช้งานที่ออกให้แก่ผู้ใช้

  • SkuIdIsNull – บ่งชี้ว่าเราพบข้อผิดพลาดและไม่ทราบผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เรียกใช้งานอยู่หรือไม่

  • SlapiIsNull – บ่งชี้ว่าเราพบปัญหาในการนำเข้าหนึ่งในวัตถุการให้สิทธิการใช้งานแบบอัตโนมัติหรือไม่

Office.Licensing.OnlineRepair

ถ้าเราไม่สามารถเปิดใช้งานผู้ใช้ด้วยเหตุผลบางประการและต้องแสดงกล่องโต้ตอบที่ขอให้ผู้ใช้ออนไลน์แล้วลองทำขั้นตอนการซ่อมแซม เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่มีฟังก์ชันการทำงานใดขาดหายไปหรือไม่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Licensing.OOBE.HandleDigitalAttachFailure

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อการตรวจสอบบริการ (ดู Office.Licensing.OOBE.SearchForDigitalAttach) ไม่พบข้อเสนอการแนบแบบดิจิทัลที่แลกใช้ได้บนอุปกรณ์เครื่องนี้ เราจะแสดงกล่องโต้ตอบที่แตกต่างกันให้ผู้ใช้ ตามเงื่อนไขที่แตกต่างกันของอุปกรณ์ เหตุการณ์นี้จะบันทึกสถานการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการจัดการความล้มเหลวในการแนบแบบดิจิทัล

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Activity_Result_Tag บอกวิธีที่เราเปลี่ยนผู้ใช้เป็นสถานะข้อผิดพลาดต่างๆ

    • 0x222e318f - เราควรค้นหาข้อเสนอการเปิดใช้งานสำหรับ Office ต่อไป
    • 0x222e318e - เราจะย้อนกลับไปที่โหมด OEM ในเซสชันนี้เมื่ออุปกรณ์เครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับข้อเสนอการแนบแบบดิจิทัล
    • 0x222e318d - ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งจะนำเราไปสู่การแสดงกล่องโต้ตอบ NoInternetConnectivity ให้ผู้ใช้
    • 0 - เราจะแสดง UI ข้อผิดพลาดต่างๆ ตามรหัสข้อผิดพลาดเฉพาะ
  • Data_DigitalAttachErrorType - บอกรหัสข้อผิดพลาดที่มาจากการเรียกใช้บริการ

  • Data_FallbackFlight - บอกเราว่าเวอร์ชันทดสอบของ UseAFOAsFallBack เปิดอยู่หรือไม่

Office.Licensing.OOBE.HandleDigitalAttachSuccess

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อการตรวจสอบบริการพบข้อเสนอการแนบแบบดิจิทัลที่สามารถรับได้บนอุปกรณ์เครื่องนี้ เราจะแสดงกล่องโต้ตอบที่แตกต่างกันให้ผู้ใช้ ตามเงื่อนไขที่แตกต่างกันของอุปกรณ์ เหตุการณ์นี้จะบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการจัดการความสำเร็จในการแนบแบบดิจิทัล

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Activity_Result_Tag - บอกเราเกี่ยวกับวิธีการจัดการเหตุการณ์การแนบแบบดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ

    • 0 - เราสามารถโหลดข้อมูลประจำตัวโดยอัตโนมัติ และเราแสดง UI “คุณได้รับ Office” (พร้อมกับบัญชี) ให้ผู้ใช้
    • 0x222e3191 - เราไม่สามารถโหลดข้อมูลประจำตัวโดยอัตโนมัติได้ ดังนั้นเราจะแสดง UI “คุณได้รับ Office” (โดยไม่ระบุบัญชี)
    • 0x222e3193 - เราได้แสดง UI “คุณได้รับ Office” (โดยไม่ระบุบัญชี) ให้ผู้ใช้ หรือเราไม่จำเป็นต้องแสดง UI “คุณได้รับ Office” ให้ผู้ใช้เพราะว่าเป็นข้อเสนอตามอุปกรณ์
  • Data_IsClaimTypeDevice - บอกเราว่าชนิดการรับข้อเสนอการแนบแบบดิจิทัลยึดตามอุปกรณ์หรือไม่

Office.Licensing.OOBE.PopulateDigitalAttachOfferSignInDEX

ผู้ผลิตอุปกรณ์เดิม (OEM) จำหน่ายเครื่องที่มาพร้อมกับ Office (การสมัครใช้งานหนึ่งปีหรือถาวร) ซึ่งชำระเงินเมื่อลูกค้าซื้อเครื่องของพวกเขา เหตุการณ์นี้จะติดตามเมื่อพบการรับสิทธิ์ล่วงหน้าของ Office สำหรับอุปกรณ์ และผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft แล้วเพื่ออนุญาตให้เราตรวจสอบสถานภาพของระบบและบริการ

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Data_ExpirationDate - บอกวันหมดอายุของข้อเสนอการสมัครใช้งาน

  • Data_IsSubscription - บอกเราว่าผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับเป็น SKU การสมัครใช้งานหรือ SKU แบบถาวร

  • Data_ProductName - บอกชื่อผลิตภัณฑ์ของข้อเสนอการแนบแบบดิจิทัล

Office.Licensing.OOBE.SearchForDigitalAttach

ผู้ผลิตอุปกรณ์เดิม (OEM) จำหน่ายเครื่องที่มาพร้อมกับ Office (การสมัครใช้งานหนึ่งปีหรือถาวร) ซึ่งชำระเงินเมื่อลูกค้าซื้อเครื่องของพวกเขา เครื่องที่ตั้งค่าด้วยรีจิสทรีคีย์เฉพาะ (OOBEMode: OEMTA) อาจมีการรวมข้อเสนอ Office ที่แนบมาแบบดิจิทัล เมื่อเราบูต Office เราจะใช้การตรวจสอบบริการเพื่อดูว่าพบข้อเสนอ Office ที่แนบมาแบบดิจิทัลหรือไม่ กิจกรรมนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อติดตามสิ่งนี้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Activity_Result_Tag - บอกผลลัพธ์โดยรวมของการตรวจสอบบริการนี้

    • 0x222e318c เวอร์ชันทดสอบของการแนบแบบดิจิทัลปิดใช้งานอยู่ จึงไม่มีการตรวจสอบบริการ
    • 0x222e318b ไคลเอ็นต์ไม่มีอินเทอร์เน็ต จึงไม่มีการตรวจสอบบริการ
    • 0x222e318a พบข้อเสนอแนบแบบดิจิทัลที่แลกใช้ได้
    • 0x222e3189 พบข้อเสนอแนบแบบดิจิทัลที่แลกใช้ไม่ได้
  • Data_EnableDAFlight - บอกเราว่าเวอร์ชันทดสอบของแนบแบบดิจิทัลที่เปิดใช้งานการตรวจสอบบริการนี้เปิดอยู่หรือไม่

Office.Licensing.OOBE.ShowTouchlessAttachFailureDialog

ผู้ผลิตอุปกรณ์เดิม (OEM) จำหน่ายเครื่องที่มาพร้อมกับ Office (การสมัครใช้งานหนึ่งปีหรือถาวร) ซึ่งชำระเงินเมื่อลูกค้าซื้อเครื่องของพวกเขา เหตุการณ์จะทริกเกอร์เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการแลกใช้การแนบแบบดิจิทัลและโฟลว์การเปิดใช้งานสำหรับพีซี OEM ที่มาพร้อมใช้ Office mี่ได้รับสิทธิ์ล่วงหน้า เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของระบบและบริการ และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโฟลว์การเปิดใช้งาน Office สำหรับ OEM

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Data_Continue - บอกเราว่าผู้ใช้คลิก “ดำเนินการต่อ” ในกล่องโต้ตอบหรือไม่

  • Activity_Result_Tag - บอกปุ่มที่ผู้ใช้คลิกในกล่องโต้ตอบ

    • 0x222e319d - ผู้ใช้คลิก “ลองใหม่” ในกล่องโต้ตอบ
    • 0x222e319c - ผู้ใช้คลิก “ดำเนินการต่อ” ในกล่องโต้ตอบ
    • 0 - ผู้ใช้ออกจากกล่องโต้ตอบ
  • Data_IsForDigitalAttach - บอกแพลตฟอร์มและเวิร์กโฟลว์ที่ผู้ใช้ใช้งาน – ดั้งเดิม (การเปิดใช้งานสำหรับ Office (AFO)) หรือทันสมัย (แนบแบบดิจิทัล)

  • Data_Retry - บอกเราว่าผู้ใช้คลิก “ลองใหม่” ในกล่องโต้ตอบหรือไม่

Office.Licensing.OOBE.ShowTouchlessAttachOfferDialog

ผู้ผลิตอุปกรณ์เดิม (OEM) จำหน่ายเครื่องที่มาพร้อมกับ Office (การสมัครใช้งานหนึ่งปีหรือถาวร) ซึ่งชำระเงินเมื่อลูกค้าซื้อเครื่องของพวกเขา เหตุการณ์นี้จะติดตามเมื่อพบการรับสิทธิ์ล่วงหน้าของ Office สำหรับอุปกรณ์ และผู้ใช้ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft เพื่ออนุญาตให้เราตรวจสอบสถานภาพของระบบและบริการ

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Activity_Result_Tag - บอกเราว่าพบข้อมูลประจำตัวสำหรับผู้ใช้หรือไม่

    • 0x222e3194 - เราไม่สามารถรับข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ได้ (พวกเขาอาจยกเลิกการลงชื่อเข้าใช้หรือการรับรองความถูกต้องล้มเหลว)
    • 0 - เราได้รับข้อมูลประจำตัวจากผู้ใช้
  • Data_ExpirationDate - บอกวันหมดอายุของข้อเสนอการสมัครใช้งาน

  • Data_IsCentennial - บอกเราว่าการเรียกใช้แอปพลิเคชัน Office อยู่บนแพลตฟอร์ม Centennial หรือไม่

  • Data_IsForDigitalAttach - บอกเราว่ากล่องโต้ตอบนี้ทริกเกอร์จากโฟลว์แนบแบบดิจิทัลหรือโฟลว์การเปิดใช้งานสำหรับ Office

  • Data_IsSubscription - บอกเราว่าผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับเป็น SKU การสมัครใช้งานหรือ SKU แบบถาวร

  • Data_OExType - บอกเราว่าผู้ใช้ออกจากกล่องโต้ตอบหลังจากคลิกลิงก์ ChangeAccount หรือไม่

  • Data_ProductName - บอกชื่อผลิตภัณฑ์ของข้อเสนอการแนบแบบดิจิทัล

  • Data_UseInAppRedemption - บอกเราว่าเราใช้การแลกใช้ในแอปของการแลกใช้บนเว็บ – เกี่ยวข้องกับโฟลว์การเปิดใช้งานสำหรับ Office เท่านั้น

Office.Licensing.OOBE.TryBuyChoice

ผู้ใช้ที่มี Office ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าบนเครื่องใหม่ซึ่งไม่มีสิทธิการใช้งาน Office จะแสดงกล่องโต้ตอบที่พวกเขาสามารถลองใช้งาน ซื้อ หรือใส่คีย์ผลิตภัณฑ์เพื่อรับสิทธิการใช้งานได้ เหตุการณ์นี้จะบันทึกการดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบ เหตุการณ์นี้จะใช้เพื่อติดตามการดำเนินการของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบที่แสดงให้ผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิการใช้งาน Office ซึ่ง Office ติดตั้งไว้ล่วงหน้าบนเครื่อง และช่วยกำหนดว่าผู้ใช้จะมีสิทธิการใช้งานหรือไม่มีสิทธิการใช้งานตามการออกแบบหรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Buy - บอกว่าผู้ใช้คลิกที่ปุ่มซื้อหรือไม่

  • ForceAutoActivate - บอกว่าควรพยายามเปิดใช้งานในแอปหรือไม่

  • GoBackToSignIn - บอกว่าผู้ใช้ต้องการลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง (อาจใช้บัญชีอื่น) หรือไม่

  • IsPin - บอกว่าผู้ใช้ใส่ PIN หรือไม่

  • ProductKey - บอกว่าผู้ใช้พยายามใส่คีย์ผลิตภัณฑ์หรือไม่

  • Try - บอกว่าผู้ใช้คลิกที่ปุ่มลองใช้หรือไม่

  • UserDismissed - การดำเนินการนี้จะบอกว่าผู้ใช้ยกเลิกกล่องโต้ตอบและจะอยู่ในโหมดฟังก์ชันการทำงานที่ผ่อนผันหรือลดลงเนื่องจากผู้ใช้ไม่ได้เลือกที่จะซื้อ Office หรือรับรุ่นทดลองใช้หรือไม่

Office.Licensing.Purchase

[เหตุการณ์นี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

เรามีการทดลองที่ให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการลองและตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติสำหรับ Office โดยตรงจากแอปโดยไม่ต้องออกจากบริบทของแอปด้วยซ้ำ สิ่งนี้รายงานความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการทดลองนั้นตลอดจนถึงรหัสข้อผิดพลาด ซึ่งมีความสำคัญในการตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่สูญเสียฟังก์ชันการทำงาน โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • StorePurchaseStatus – แทนรหัสข้อผิดพลาด/รหัสความสำเร็จของการโทรสั่งซื้อที่ทำขึ้นผ่าน Microsoft Store

Office.Licensing.SearchForSessionToken

ถ้าผู้ใช้ดำเนินการผ่านโหมดการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ที่แชร์ เราจะลองค้นหาสำหรับโทเค็นเซสชันในเครื่องซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปได้ เหตุการณ์นี้รายงานความสำเร็จหรือความล้มเหลวของสถานการณ์พร้อมกับรหัสข้อผิดพลาด การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • LoadLicenseResult – แทนรหัสข้อผิดพลาด/รหัสความสำเร็จไม่ว่าเราจะสามารถโหลดสิทธิการใช้งานสำหรับผู้ใช้ในปัจจุบันได้หรือไม่

  • OpportunisticTokenRenewalAttempted – บ่งชี้ว่าเราพยายามต่ออายุโทเค็นเซสชันของผู้ใช้เมื่อมีโอกาสหรือไม่

  • SetAcidResult – แทนรหัสข้อผิดพลาด/รหัสความสำเร็จไม่ว่าเราจะสามารถตั้งเอซิดไปยังค่าที่คาดหวังได้หรือไม่

Office.Licensing.ShouldRunRedesignedGraceExperience

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อกําหนดว่าผู้ใช้ควรพบกับประสบการณ์ใช้งานการให้สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office ใหม่ (LVUX 1.0) หรือประสบการณ์ใช้งานการให้สิทธิการใช้งานไคลเอ็นต์ Office เก่า (LVUX 2.0) ใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เข้าสู่ LVUX 1.0/2.0 ตามชุดเกณฑ์สิทธิ์ LVUX = Licensing Validation User Experience

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ไม่มี

Office.Licensing.ShowNewDeviceActivationDialog

ในการเริ่มต้นระบบครั้งแรกของแอป Office เราจะพยายามแสดงกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้ที่นำเข้าแบบอัตโนมัติล่วงหน้าด้วยข้อมูลประจำตัวที่ผู้ใช้ได้ใช้งานเพื่อดาวน์โหลด Office จากนั้นผู้ใช้จะสามารถลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลประจำตัวเหล่านั้น ใช้ข้อมูลประจำตัวอื่น หรือปิดกล่องโต้ตอบ เหตุการณ์นี้รายงานถึงการกระทำของผู้ใช้เมื่อนำเสนอด้วยกล่องโต้ตอบนี้ การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีในสแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • UserAction – ตัวระบุสำหรับการกระทำของผู้ใช้เมื่อนำเสนอด้วยกล่องโต้ตอบนี้

Office.Licensing.SkuToSkuConversion

ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของการให้สิทธิการใช้งานแก่ผู้ใช้ ถ้าเราต้องเปลี่ยน SKU ของผู้ใช้จาก SKU หนึ่งไปอีกตัวหนึ่ง เราจะส่งสัญญาณนี้ออกไปตลอดจนถึงรหัสความสำเร็จหรือความล้มเหลว การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DestinationSku – ชื่อของ SKU ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งในปัจจุบันควรมีการแปลงมาเป็นตัวดังกล่าว

  • PendingAcid – ID ของผลิตภัณฑ์ที่การแปลง SKU ค้างอยู่

  • SourceSku – ชื่อของ SKU ดั้งเดิมที่ติดตั้งบนเครื่อง

  • UninstallProduct – บ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์เก่าจะถูกถอนการติดตั้งด้วยเป็นส่วนหนึ่งของการแปลงหรือไม่

Office.Licensing.StartTrialPass

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ยอมรับการทดลองใช้ 5 วัน หรือ 10 วัน และติดตั้งสิทธิการใช้งานที่เกี่ยวข้อง ใช้เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้สามารถเริ่มการทดลองใช้ 5 วันหรือ 10 วัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Acid - รหัสเฉพาะสากล (GUID) ที่แสดงสิทธิการใช้งาน SKU

  • GraceTime - เวลาทั้งหมดที่ให้โดยสิทธิการใช้งานผ่อนผัน

Office.Licensing.TelemetryFlow.OLSResults

เมื่อผู้ใช้ไม่มีสิทธิการใช้งาน เราเรียกใช้บริการหลายครั้งเพื่อให้ผู้ใช้เข้าสู่สถานะมีสิทธิการใช้งาน และเพื่อเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ Office เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อมีการเรียกใช้บริการการให้สิทธิการใช้งาน Office เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้ได้รับสิทธิ์หรือไม่ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อติดตามสถานะการให้สิทธิการใช้งานของผู้ใช้หลังจากเรียกใช้บริการการให้สิทธิการใช้งาน Office และสถานะของไคลเอ็นต์ Office หลังจากพยายามเปิดใช้งาน Office

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EntitlementPickerShown - บอกว่าผู้ใช้มีการให้สิทธิ์หลายรายการ และผู้ใช้ต้องเลือกด้วยตนเองเพื่อรับสิทธิการใช้งานหรือไม่

  • GetAuthResult - บอกสถานะต่างๆ ที่ไคลเอ็นต์อาจจะมีถ้าพวกเขาได้รับคีย์ผลิตภัณฑ์ที่ว่างเปล่าจากบริการการให้สิทธิการใช้งาน Office หรือหากพวกเข้าได้รับสิทธิ์สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นและ Office จำเป็นต้องแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่

  • GetEntitlementsCount - บอกจำนวนการให้สิทธิ์ที่ผู้ใช้มี

  • GetEntitlementsSucceeded - บอกว่าการเรียกใช้ API บริการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ Office เพื่อดึงข้อมูลการให้สิทธิ์ของผู้ใช้นั้นสำเร็จหรือไม่

  • GetKeySucceeded - บอกว่าการเรียกใช้ API บริการการให้สิทธิการใช้งาน Office เพื่อดึงข้อมูลคีย์นั้นสำเร็จหรือไม่

  • GetNextUserLicenseResult - บอกว่าสแตกการให้สิทธิการใช้งานสมัยใหม่สามารถทำงาน และผู้ใช้ได้รับสิทธิการใช้งานหรือไม่

  • InstallKeyResult - บอกเหตุผลต่างๆ ว่าทำไมผู้ใช้อาจอยู่ในสถานะไม่ดี เช่น หากการเปิดใช้งานล้มเหลว หรือการติดตั้งคีย์ล้มเหลว

  • NotInitializedBeforeWhileAdding - นี่เป็นเพียงการให้ข้อมูล และบอกว่ามีการเพิ่มเหตุการณ์ลงในแผนที่ตัวจัดการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลโดยไม่ต้องลงทะเบียนอย่างชัดเจนหรือไม่

  • NotInitializedBeforeWhileSending - นี่เป็นเพียงการให้ข้อมูล และบอกว่ามีความพยายามส่งเหตุการณ์โดยไม่ต้องลงทะเบียนอย่างชัดเจนในแผนที่ตัวจัดการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลก่อนหรือไม่

  • SentOnDestruction - รายการนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูล และบอกว่ามีการเพิ่มเหตุการณ์ลงในแผนที่ตัวจัดการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลและไม่ได้ส่งอย่างชัดเจนหรือไม่

  • Tag - ใช้เพื่อบอกตำแหน่งในรหัสที่เหตุการณ์ถูกส่งมา

  • VerifyEntitlementsResult - บอกสถานะต่างๆ ที่ผู้ใช้อาจจะมีหลังตรวจสอบการให้สิทธิ์ที่ดึงข้อมูลมาจากบริการการให้สิทธิการใช้งาน Office

Office.Licensing.TelemetryFlow.SearchForBindingResult

Oem ขายเครื่องที่มาพร้อมกับ Office (การสมัครใช้งานหนึ่งปีหรือไม่จำกัดระยะเวลา) ผลิตภัณฑ์ Office เหล่านี้จะได้รับการชำระเงินเมื่อลูกค้าซื้อเครื่องของตน เครื่องที่ตั้งค่าด้วยรีจิสทรีคีย์เฉพาะ (OOBEMode: OEMTA) อาจมีการรวม Office ที่เกี่ยวข้อง เมื่อเราเริ่มต้นระบบ Office บนเครื่องดังกล่าว เราจะตรวจสอบบริการเพื่อดูว่ามีการรวม Office ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหรือไม่

กิจกรรมการวัดและส่งข้อมูลทางไกลนี้ติดตามสัญญาณความสำเร็จและความล้มเหลวในการค้นหาการรวม เพื่อให้พวกเราสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องที่มีการรวมสามารถดึงข้อมูลได้สำเร็จ และบริการของเราพร้อมใช้งาน กิจกรรมนี้ไม่ได้ติดตามเครื่องที่ไม่มีการรวมใดๆ ที่เกี่ยวข้องหลังจากที่เราตรวจสอบกับบริการของเรา

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DexShouldRetry - สัญญาณว่าเราประสบปัญหาที่สามารถลองใหม่ได้ (ไม่มีอินเตอร์เน็ตหรือเซิร์ฟเวอร์ไม่ทำงาน)

  • GenuineTicketFailure - บอกเราเกี่ยวกับความล้มเหลว HRESULT เมื่อพยายามรับตั๋ว/คีย์ผลิตภัณฑ์ Windows (WPK) ของแท้ของเครื่อง

  • PinValidationFailure - บอกเราว่าทำไมกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของ PIN จึงล้มเหลว ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น:

    • GeoBlocked
    • InvalidFormat
    • InvalidPin
    • InvalidState
    • InvalidVersion
    • ไม่รู้จัก
    • ใช้แล้ว
  • PinValidationResult - บอกเราเกี่ยวกับผลลัพธ์การตรวจสอบความถูกต้อง PIN ของ PIN ที่เราไม่สามารถถอดรหัสได้

  • Pkpn - ช่วง Pkpn ที่มี PIN อยู่

  • Success - ระบุว่าเราดึงข้อมูลการรวม Office (PIN) ที่ถูกต้องสำหรับเครื่องได้สำเร็จ

  • Tag - บอกเราเกี่ยวกับขั้นตอนที่เราหยุดการค้นหาการรวม แท็กที่เป็นไปได้:

    • 0x03113809 ไม่มีอินเทอร์เน็ต/ข้อผิดพลาดในการบริการขณะตรวจสอบความถูกต้อง PIN
    • 0x0311380a การตรวจสอบความถูกต้อง PIN ซึ่งส่งมาพร้อมกับเขตข้อมูล PinValidationFailure
    • 0x0310410f ความสำเร็จ ซึ่งส่งมาพร้อมกับเขตข้อมูลความสำเร็จ
    • 0x0311380d ข้อผิดพลาดที่สามารถลองอีกครั้งได้ (ปัญหาอินเทอร์เน็ต ข้อผิดพลาดที่ไม่รู้จัก)
    • 0x0311380e ข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถลองอีกครั้ง (ข้อเสนอการรวมหมดอายุ)
    • 0x0311380f ข้อผิดพลาดอื่นๆ (ไม่สามารถให้สิทธิการใช้งานได้)
    • 0x03104111 ไม่สามารถถอดรหัส PIN ของ Office ได้ ส่งพร้อมเขตข้อมูล PinValidationResult
  • WpkBindingFailure - บอกรหัสข้อผิดพลาดในการรับ PIN ของ Office ซึ่งผูกไว้กับ WPK ของเครื่อง

Office.Licensing.TelemetryFlow.ShowAFODialogs

หลังจากประสบความสำเร็จในการรับ PIN ของ Office ที่ถูกต้องซึ่งผูกรวมกับเครื่องที่มาพร้อมกับ Office เราจะแสดงกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้หรือกล่องการแลกใช้ให้ผู้ใช้ เมื่อมีการแลก PIN เราจะแสดงกล่องโต้ตอบเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิ ในฐานะส่วนหนึ่งของการทำให้ฟีเจอร์การเปิดใช้งานสำหรับ Office ให้ทันสมัย เราได้รีเฟรชกล่องโต้ตอบสองกล่องเพื่อแสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Office ที่มาพร้อมกับเครื่อง การวัดและส่งข้อมูลทางไกลนี้จะติดตามว่าฟีเจอร์ของเราลดปัญหาของผู้ใช้ในการแลกใช้ผลิตภัณฑ์ของตนได้สำเร็จหรือไม่ โดยติดตามลำดับและจุดสิ้นสุดของกระบวนการแลกใช้ (ซึ่งกล่องโต้ตอบจะถูกยกเลิก)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ActionActivate - สัญญาณว่าผู้ใช้คลิกปุ่ม "เปิดใช้งาน"

  • ActionChangeAccount - สัญญาณว่าผู้ใช้คลิกไฮเปอร์ลิงก์ "ใช้บัญชีอื่น"

  • ActionCreateAccount - สัญญาณว่าผู้ใช้คลิกปุ่ม "สร้างบัญชี"

  • ActionSignIn - สัญญาณว่าผู้ใช้คลิกปุ่ม "ลงชื่อเข้าใช้"

  • CurrentView - ชนิดของกล่องโต้ตอบที่ผู้ใช้ปิด

  • DialogEULA - สัญญาณว่าเราแสดงกล่องโต้ตอบ ‘ยอมรับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิ’

  • DialogRedemption - สัญญาณว่าเราแสดงกล่องโต้ตอบการแลกใช้การเปิดใช้งานสำหรับ Office

  • DialogSignIn - สัญญาณว่าเราแสดงกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้การเปิดใช้งานสำหรับ Office

  • EmptyRedemptionDefaults - สัญญาณว่าเราไม่สามารถดึงข้อมูลการแลกใช้เริ่มต้นได้

  • GetRedemptionInfo - สัญญาณว่าเรากำลังดึงข้อมูลประชากรสำหรับการแลกใช้ PIN

  • MalformedCountryCode - ส่งสัญญาณว่ารหัสประเทศหรือภูมิภาคที่จําเป็นสําหรับการแลกใช้ PIN มีรูปแบบไม่ถูกต้อง

  • OExDetails - รายละเอียดข้อผิดพลาดที่เราได้รับเมื่อกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้ของข้อมูลประจำตัวถูกยกเลิก

  • OExType - ชนิดข้อผิดพลาดที่เราได้รับเมื่อกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้ของข้อมูลประจำตัว

  • Tag - บอกเราเกี่ยวกับขั้นตอนที่ผู้ใช้สิ้นสุดกระบวนการแลกใช้การเปิดใช้งานสำหรับ Office แท็กที่เป็นไปได้:

    • 0x0311380b ผู้ใช้ยกเลิกกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้ของข้อมูลประจำตัวจากกล่องโต้ตอบการแลกใช้
    • 0x0311380c ไม่สามารถโหลดข้อมูลประจําตัวโดยอัตโนมัติหลังการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้จากกล่องโต้ตอบการแลกใช้
    • 0x03113810 ไม่สามารถโหลดข้อมูลประชากรของบัญชี (รหัสประเทศหรือภูมิภาค ภาษา สกุลเงิน ข้อเสนอรุ่นทดลองใช้ และการกําหนดลักษณะการตลาด)
    • 0x03113805 ผู้ใช้ยกเลิกกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้ของข้อมูลประจำตัวจากกล่องลงชื่อเข้าใช้
    • 0x03113806 ไม่สามารถโหลดข้อมูลประจำตัวโดยอัตโนมัติหลังจากที่ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้จากกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้
    • 0x03113807 ไม่สามารถโหลดข้อมูลประจำตัวโดยอัตโนมัติได้
    • 0x03113811 ผู้ใช้ปิดกล่องโต้ตอบการลงชื่อเข้าใช้/การแลกใช้
    • 0x03113812 ผู้ใช้ปิดกล่องโต้ตอบ ยอมรับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิ
    • 0x03113808 ผู้ใช้ยอมรับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิ
    • 0x03113811 ผู้ใช้ปิดกล่องโต้ตอบ
    • 0x2370e3a0 ผู้ใช้ปิดกล่องโต้ตอบ
    • 0x2370e3c1 ไปที่เว็บสำหรับการแลกใช้ PIN
    • 0x2370e3a1 ไปที่เว็บสำหรับการแลกใช้ PIN
    • 0x2370e3c0 ลำดับกล่องโต้ตอบที่เกิดขึ้นโดยผู้ใช้วนรอบกลับไปมาในโฟลว์กล่องโต้ตอบ
    • 0x2370e3a3 ผู้ใช้คลิกไฮเปอร์ลิงก์ “ไม่ใช่ตอนนี้” ซึ่งข้ามข้อเสนอการเปิดใช้งานสำหรับ Office สำหรับเซสชันดังกล่าว
    • 0x2370e3a2 ผู้ใช้คลิกที่ไฮเปอร์ลิงก์ “ไม่ต้องแสดงสิ่งนี้กับฉัน” ซึ่งปิดใช้งานข้อเสนอการเปิดใช้งานสำหรับ Office
  • UseInAppRedemption - บอกว่าเรากำลังเก็บผู้ใช้ไว้ในแอปสำหรับการแลกใช้หรือส่งผู้ใช้ไปยังเว็บเพื่อแลกใช้ PIN ของผู้ใช้ดังกล่าวที่ดึงข้อมูลมา (นำเข้าแบบอัตโนมัติไว้ล่วงหน้า)

  • UseModernAFO - บอกให้ทราบว่าเรากำลังใช้ประสบการณ์การเปิดใช้งานสำหรับ Office ใหม่หรือเก่าอยู่

Office.Licensing.TelemetryFlow.ShowTryBuyDialogForOOBE

เมื่อเครื่องใหม่มี Office ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าและผู้ใช้ไม่มีสิทธิการใช้งาน เราจะแสดงกล่องโต้ตอบที่ให้ผู้ใช้สามารถลองใช้ ซื้อ หรือใส่คีย์ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับสิทธิการใช้งานและเหตุการณ์นี้จะติดตามหากมีการแสดงกล่องโต้ตอบ เหตุการณ์นี้จะช่วยให้ทราบว่ามีการแสดงกล่องโต้ตอบให้ผู้ใช้ลองใช้ ซื้อ หรือใส่คีย์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยเราในการกำหนดว่าผู้ใช้มีโอกาสได้รับสิทธิการใช้งานหรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • ActiveView- บอก ID ของกล่องโต้ตอบที่แสดงกับผู้ใช้

  • CurrentOOBEMode - บอกโหมดการติดตั้งล่วงหน้า (โหมด OOBE เช่น การเปิดใช้งานสำหรับ Office, OEM ฯลฯ)

  • NotInitializedBeforeWhileAdding - นี่เป็นเพียงการให้ข้อมูล และบอกว่ามีการเพิ่มเหตุการณ์ลงในแผนที่ตัวจัดการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลโดยไม่ต้องลงทะเบียนอย่างชัดเจนหรือไม่

  • SentOnDestruction - รายการนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูล และบอกว่ามีการเพิ่มเหตุการณ์ลงในแผนที่ตัวจัดการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลและไม่ได้ส่งอย่างชัดเจนหรือไม่

  • ShowTryButton - บอกว่าปุ่มลองใช้จะแสดงต่อผู้ใช้บนกล่องโต้ตอบหรือไม่

  • Tag - ใช้เพื่อบอกตำแหน่งในรหัสที่เหตุการณ์ถูกส่งมา

Office.Licensing.TelemetryFlow.TrialFlow

เมื่อผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิการใช้งาน Office ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าบนเครื่องพยายามรับรุ่นทดลองใช้ เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์ ซึ่งจะถูกใช้เพื่อดูเส้นทางที่ผู้ใช้จะปฏิบัติเพื่อรับรุ่นทดลองใช้ และหากมีข้อผิดพลาดขณะรับรุ่นทดลองใช้ผ่านการซื้อภายในแอป ผู้ใช้อาจไม่ได้รับสิทธิการใช้งานทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของผู้ใช้และผลลัพธ์ของการซื้อภายในแอป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • HasConnectivity - บอกว่าผู้ใช้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่ และในกรณีที่ไม่มี ผู้ใช้อาจต้องใช้สิทธิการใช้งานแบบผ่อนผันเป็นเวลาห้าวันหรืออาจอยู่ในโหมดลดฟังก์ชันการทำงาน

  • InAppTrialPurchase - บอกว่าเวอร์ชันทดสอบเปิดใช้งานสำหรับการเปิดใช้ SDK ของการซื้อสินค้าจาก Store หรือไม่เพื่อบันทึก PI และซื้อรุ่นทดลองใช้จากภายในแอปพลิเคชัน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • IsRS1OrGreater - บอกว่าเวอร์ชัน OS มากกว่า RS1 หรือไม่ เนื่องจากควรใช้ SDK ของการซื้อสินค้าจาก Store เฉพาะเมื่อเวอร์ชัน OS มากกว่า RS1 เท่านั้น

  • NotInitializedBeforeWhileAdding: นี่เป็นเพียงการให้ข้อมูล และบอกว่ามีการเพิ่มเหตุการณ์ลงในแผนที่ตัวจัดการการวัดและส่งข้อมูลทางไกลโดยไม่ต้องลงทะเบียนอย่างชัดเจนหรือไม่

  • OEMSendToWebForTrial - บอกว่าเวอร์ชันทดสอบเปิดใช้งานเพื่อส่งผู้ส่งไปยังเว็บเพื่อแลกใช้รุ่นทดลองใช้หรือไม่

  • StoreErrorConditions - บอกเงื่อนไขต่างๆ ที่อาจทำให้ SDK ของการซื้อสินค้าจาก Store ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • StoreErrorHResult - บอกรหัสข้อผิดพลาดที่ส่งกลับจาก SDK ของการซื้อสินค้าจาก Store [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • StorePurchaseStatusResult - บอกผลลัพธ์ของการเรียกใช้ SDK ของการซื้อสินค้าจาก Store และบอกว่าผู้ใช้ทำการสั่งซื้อหรือไม่ ซึ่งจะช่วยกำหนดว่าผู้ใช้ควรได้รับสิทธิการใช้งานในการใช้ Office หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • Tag - ใช้เพื่อบอกตำแหน่งในรหัสที่เหตุการณ์ถูกส่งมา

  • UserSignedInExplicitly - บอกว่าผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้อย่างชัดเจนในกรณีใด เราจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บสำหรับรุ่นทดลองใช้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

Office.Licensing.UseGraceKey

ด้วยเหตุผลบางประการ ถ้าเราไม่สามารถให้สิทธิการใช้งานแก่ผู้ใช้ได้ เราจะติดตั้งคีย์ระยะผ่อนผันแล้วส่งสัญญาณนี้ที่มีความหมายออกไป การตรวจหาว่าผู้ใช้อยู่ในสถานะที่ดีและไม่พลาดฟังก์ชันการทำงานหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ โดยใช้สำหรับสถานภาพระบบและใช้สำหรับวัตถุประสงค์ด้านการวินิจฉัยถ้าผู้ใช้รายงานปัญหาที่เกิดกับเครื่องของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • OpportunisticTokenRenewalAttempted – ระบุเมื่อเราพยายามต่ออายุเมื่อมีโอกาสสำหรับผู้ใช้ในโหมดการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ที่แชร์

  • ReArmResult – ระบุผลลัพธ์ของการติดตั้งคีย์ที่ติดตั้งใหม่ซึ่งสามารถขยายการหมดอายุของสิทธิการใช้งานปัจจุบันได้

Office.Omex.Checkout.Analytics.CheckoutStageChangeActivity

เหตุการณ์จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ดําเนินการตามขั้นตอนที่จําเป็นในการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งใช้เพื่อตรวจสอบโฟลว์การซื้อในมิติต่าง ๆ และแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการทํางาน

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • AvailabilityId - ตัวเลือกการกําหนดราคาของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้พยายามซื้อ

  • CurrentStage - ขั้นตอนปัจจุบันของโฟลว์การซื้อ

  • Error - คําอธิบายข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนที่กําหนดของโฟลว์การซื้อ (ถ้ามี)

  • PaymentInstrumentsNumber - จํานวนเครื่องมือในการชําระเงินที่ผู้ใช้มีในโปรไฟล์

  • PreviousStage - ขั้นตอนของโฟลว์การซื้อที่ผู้ใช้มาถึง

  • ProductId - ผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้พยายามซื้อ

  • Query.Flights - ข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานสําหรับผู้ใช้

  • Query.Language - ภาษาของประสบการณ์ผู้ใช้ในการซื้อที่พยายาม

  • Query.Market - ตลาดของการซื้อที่พยายาม

  • Query.PageURL - URL ของเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้กําลังใช้ขณะพยายามซื้อ

  • Query.ReferralURL - URL ของเบราว์เซอร์ที่อ้างอิงผู้ใช้ในการซื้อ

  • SelectedPaymentInstrumentFamily - กลุ่มของเครื่องมือการชำระเงินที่เลือกไว้สำหรับการซื้อ

  • SelectedPaymentInstrumentType - ชนิดของเครื่องมือการชำระเงินที่เลือกสำหรับการซื้อ

  • SkuId - ตัวเลือกการเรียกเก็บเงิน (SKU ID) ของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้พยายามซื้อ

  • Tracing.CheckoutVersion - เวอร์ชันของส่วนประกอบขั้นตอนการซื้อ

  • Tracing.Environment - สภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ เช่น การผลิตหรือก่อนการผลิต

  • Tracing.TraceId - ID สําหรับเชื่อมโยงเหตุการณ์กับเหตุการณ์อื่นๆ จากเซสชันผู้ใช้เดียวกัน

Office.Omex.Checkout.MonitoringEvent

เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยการเรียกใช้บริการที่เสร็จสิ้นหรือการดำเนินการที่ทริกเกอร์โดยผู้ใช้ ใช้ในการตรวจสอบประสิทธิภาพการทํางานและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการการชำระเงินและบริการที่ได้รับการสนับสนุน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Agent.Datacenter - การระบุของตัวแทนการตรวจสอบ ตําแหน่งที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลที่โฮสต์ประสบการณ์การชําระเงิน

  • Agent.Role - การระบุตัวแทนการตรวจสอบ ชนิดของบริการที่ส่งการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Agent.RoleInstance - การระบุของตัวแทนการตรวจสอบ อินสแตนซ์ของบริการที่ส่งการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Agent.ServiceName - การระบุของตัวแทนการตรวจสอบ บริการที่ส่งการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Agent.Tenant - การระบุตัวแทนการตรวจสอบ คลัสเตอร์บริการ

  • Duration - ระยะเวลาของการดําเนินการ เช่น การเรียกใช้บริการ

  • Metadata - เมตาดาต้าการดําเนินการเพิ่มเติม ถ้ามีในสถานการณ์เฉพาะ

  • Result - ผลลัพธ์ของการดําเนินการ เช่น ความสําเร็จหรือความล้มเหลว

  • ScopeName - ตัวระบุผลลัพธ์การดําเนินการที่มีการรายงาน

  • Subtype - ชนิดย่อยของการดําเนินการ ถ้ามีในสถานการณ์เฉพาะ เช่น ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์พยายามซื้อเมื่อเกิดการดําเนินการ

  • Tracing.CheckoutVersion - เวอร์ชันของส่วนประกอบขั้นตอนการซื้อ

  • Tracing.Environment - สภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ เช่น การผลิตหรือก่อนการผลิต

  • Tracing.TraceId - ID สําหรับเชื่อมโยงเหตุการณ์กับเหตุการณ์อื่นๆ จากเซสชันผู้ใช้เดียวกัน

Office.SetupOffice.Sdx.Log

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อเราแลกใช้ข้อเสนอของ Office ของผู้ใช้ที่ซื้ออุปกรณ์ที่รวมอยู่กับการให้สิทธิ์ล่วงหน้าของ OEM Office หรือใส่คีย์ผลิตภัณฑ์แล้ว ข้อมูลนี้ใช้สําหรับข้อความบันทึกทั่วไป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Ctid (Data_Ctid) - CorrelationId ใช้สําหรับการลิงก์บันทึกต่างๆ ภายในเซสชันการแลกใช้หนึ่งเซสชัน

  • สภาพแวดล้อม (Data_ Environment) - สภาพแวดล้อมนักพัฒนา (Pr, Edog, Prod, Int)

  • ข้อความ (Data_Message) - ข้อความบันทึกจาก setup.office.com ตัวอย่างเช่น "ไม่สามารถโหลด image ‘../img/spinner.csv’ ได้ มีการใช้ cdn"

  • ชนิด (Data_Type) - ชนิดของข้อความบันทึก (ข้อผิดพลาด คําเตือน ข้อมูล)

OneNote.EnrollmentResult

เหตุการณ์นี้บันทึกสถานะเมื่อลงทะเบียน Intune สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับบัญชีที่เปิดใช้งาน Intune โดยเฉพาะ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EnrollmentResult - ผลลัพธ์ของการลงทะเบียน Intune

SKU.PRODUCT.PRICE.NULL.EVENT

เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่บอกจำนวนผลกระทบของบักเนื่องจากปัจจุบันผู้ใช้เห็น “Null” แทนที่จะเป็นราคาที่หน้าจอตัวเลือก SKU บักจะถูกวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อระบุการแก้ไข

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • PriceNotFound - ไม่พบราคาจากร้านค้า

  • StoreNotInitilized - เมื่อเริ่มต้นร้านค้าไม่สำเร็จ

เหตุการณ์ Microsoft AutoUpdate (MAU)

additionalappinfo.invalidpreference

เหตุการณ์นี้รายงานชุดการกำหนดลักษณะที่ไม่ถูกต้องเพื่อแสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสิ้นสุดบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อให้คำแนะนำลูกค้าในการตั้งการกำหนดค่าที่ถูกต้องเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - รายละเอียดเกี่ยวกับรายการที่ไม่ถูกต้องในการกำหนดลักษณะ

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appdelegate.launch

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความพยายามในการเปิดใช้แอปเกิดขึ้น เราบันทึกผลลัพธ์ (ล้มเหลวหรือสำเร็จ) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อระบุกรณีที่ MAU ล้มเหลวในการเปิดใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppversionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ชุดข้อความแบบคงที่ซึ่งบ่งชี้สถานะการเปิดใช้

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appdelegate.terminate

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเกิดการออกจากแอปพลิเคชันโดยระบบไม่ชะงัก เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อแยกความแตกต่างของการออกจากแอปพลิเคชันโดยระบบไม่ชะงักกับการออกโดยที่ระบบชะงัก

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (WiFi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่ซึ่งบ่งบอกว่า Microsoft Autoupdate ได้สิ้นสุดแล้ว

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appinstall.connecttoxpc

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเกิดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อกับตัวช่วยเหลือ MAU (คอมโพเนนต์ที่ดำเนินการติดตั้งแอปพลิเคชัน) เหตุการณ์นี้แสดงถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นของแอปพลิเคชัน MAU อุปกรณ์จะไม่สามารถติดตั้งการอัปเดตได้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลข้อผิดพลาดเกี่ยวกับปัญหาการเชื่อมต่อ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appinstall.logscanned

เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อระบุว่าไฟล์บันทึกได้รับการดำเนินการเรียบร้อยแล้วหรือยัง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจหาและระบุปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการติดตั้งแอปพลิเคชัน

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบในระหว่างการติดตั้งแอปพลิเคชันและ/หรือการตรวจสอบสถานะเสร็จสมบูรณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appinstall.xpcremoteobjecterror

เหตุการณ์นี้จะรายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบขณะพยายามเชื่อมต่อกับ Privileged Helper Tool ผ่านการเชื่อมต่อ XPC เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาการติดตั้ง MAU ที่เป็นไปได้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของข้อผิดพลาดของพร็อกซีที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appregistry.config

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดใดๆ ที่พบในขณะที่กำลังโหลดข้อมูลรีจิสทรีของแอปพลิเคชัน Microsoft ใช้รายงานนี้เพื่อแนะนําผู้ดูแลระบบ IT ขององค์กรเกี่ยวกับรูปแบบที่ถูกต้องสําหรับการตั้งค่าการลงทะเบียนแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบกับการลงทะเบียนแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - สตริงมีเหตุผลโดยละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appregistry.info

เหตุการณ์นี้แสดงว่าแอปพลิเคชันเปิดใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อแสดงรายการแอปพลิเคชันที่ MAU สามารถควบคุมการอัปเดต จำนวนสำเนาที่มีรวมถึงเวอร์ชันและตำแหน่งการติดตั้ง (ค่าเริ่มต้นหรืออื่นๆ)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลรายการแอปพลิเคชันตัวระบุที่ใช้ในการลงทะเบียนกับบริการ Microsoft Autoupdate และจำนวนการติดตั้งที่ลงทะเบียนไว้สำหรับแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

appregistry.remove

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความพยายามที่จะลบแอปออกจากรายการแอปพลิเคชันที่จัดการโดย MAU เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อยืนยันว่ามีเพียงแอปพลิเคชันที่เผยแพร่ MAU เท่านั้นที่ได้รับการจัดการผ่านทาง MAU (ไม่ควรมีแอป AppStore ที่นี่)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ชื่อและตัวระบุแอปพลิเคชันที่ถูกลบออก ว่าแอปพลิเคชันนั้นยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ลงทะเบียนหรือไม่และแอปพลิเคชันมีการติดตั้งจาก AppStore หรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

แคมเปญ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อพบแคมเปญ แต่ไคลเอ็นต์ Microsoft Auto Update (MAU) ไม่สามารถอัปเดตแอปพลิเคชัน Office ได้ ข้อมูลจะแสดงว่าไฮเปอร์ลิงก์แสดงต่อผู้ใช้หรือไม่ และระบุว่าผู้ใช้คลิกลิงก์เพื่อดำเนินการหรือไม่ ข้อมูลช่วยให้ไคลเอ็นต์สามารถแก้ไขปัญหาได้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • CampaignID - ค่าจํานวนเต็มที่ระบุ ID แคมเปญ ซึ่งเป็นตัวระบุที่ไม่ซ้ํากันที่เกี่ยวข้องกับแต่ละแคมเปญที่ส่งจากเซิร์ฟเวอร์

  • Payload - คอลัมน์ทั่วไปที่มีข้อความเฉพาะเหตุการณ์ ใช้เฉพาะในกรณีของ Campaign.Hyperlink.Clicked และจะมี URL แสดงและคลิกโดยผู้ใช้

  • Reason - สตริงสำหรับเหตุผลโดยละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ สําหรับคุณลักษณะนี้ จะมีสตริงต่อไปนี้:

    • Campaign.Found - การดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีแคมเปญที่พร้อมให้ลูกค้าใช้งานหลังจากที่ลูกค้าเริ่มต้น แคมเปญจะให้บริการแก่ไคลเอ็นต์ MAU เมื่อไคลเอ็นต์ไม่สามารถอัปเดตแอปพลิเคชัน Office ได้ เหตุการณ์นี้จะยืนยันว่ามีการแสดงแคมเปญให้กับไคลเอ็นต์อย่างถูกต้อง

    • Campaign.Hyperlink.Clicked - การดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้คลิกไฮเปอร์ลิงก์ที่มีคำแนะนำในกล่องโต้ตอบแคมเปญ ลิงก์จะมีข้อมูลสำหรับแก้ไขปัญหาหรืออัปเดตแอป MAU เอง เหตุการณ์จะแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้คลิกลิงก์ที่ให้ไว้ในแคมเปญหรือไม่ และสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่

    • Campaign.Shown - สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหลังจากแสดงกล่องโต้ตอบแคมเปญแก่ผู้ใช้ กล่องโต้ตอบแคมเปญจะมีข้อความเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขไคลเอ็นต์ MAU และเริ่มการอัปเดตแอปพลิเคชันได้ เหตุการณ์นี้จะบอกเราว่าผู้ใช้เห็นข้อความให้ดำเนินการหรือไม่ และแคมเปญนั้นแสดงต่อผู้ใช้อย่างถูกต้องหรือไม่

campaign.found

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ Microsoft AutoUpdate พบแคมเปญที่พร้อมใช้งานจาก Backend เหตุการณ์นี้รายงานว่ามีแคมเปญที่พบโดยไคลเอ็นต์ ข้อมูลนี้ใช้เพื่อตรวจสอบว่าแคมเปญได้แสดงให้ลูกค้าอย่างถูกต้องหรือไม่

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • CampaignID - ค่าจํานวนเต็มที่ระบุ ID แคมเปญ

catalog.errorsignature

เหตุการณ์นี้รายงานปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับไฟล์ที่ดาวน์โหลด รวมถึงลายเซ็นผู้ขายและค่าแฮชที่ไม่ตรงกันในไฟล์ที่ดาวน์โหลด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจหาปัญหาในการเผยแพร่ชุดไฟล์กำกับสำหรับแอปพลิเคชัน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • FileHash – ค่าแฮชของไฟล์ที่ดาวน์โหลด

  • FileName – ชื่อของไฟล์ที่แสดงค่าแฮชที่ไม่ตรงกัน

  • HashInCatalog – รายการค่าแฮชในไฟล์แค็ตตาล็อกที่สอดคล้องกัน

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการรายงานแอป

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

catalog.invalid

เหตุการณ์นี้จะบันทึกเงื่อนไขข้อผิดพลาดที่ชี้ไปยังแค็ตตาล็อกแฟ้มกำกับที่ไม่ถูกต้องที่ดาวน์โหลด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดแสดงในไฟล์แฟ้มกำกับที่เผยแพร่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • CatalogFile – ชื่อของไฟล์แค็ตตาล็อกที่ก่อให้เกิดเงื่อนไขข้อผิดพลาด

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

cloningtask.begin

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าเริ่มต้นงานการโคลนก่อนการอัปเดตแอปพลิเคชัน เราใช้เหตุการณ์นี้ร่วมกับเหตุการณ์ cloningtask.status เพื่อกำหนดปริมาณของความล้มเหลวในการโคลนเพื่อตรวจสอบว่าฟีเจอร์การโคลนควรถูกเร่งในแชนเนลผู้ชมที่ต่างออกไปหรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID – ตัวระบุสำหรับการอัปเดต

cloningtask.helpertoolconnection

เหตุการณ์นี้บันทึกปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งบนลอกแบบ (ได้แก่ เราไม่สามารถเชื่อมต่อกับตัวช่วยเหลือเพื่อใช้การอัปเดต หรือเราเชื่อมต่อแต่ตัวช่วยเหลือไม่สามารถใช้การอัปเดตได้) หากเราได้รับบันทึกที่มีการรายงาน หมายความว่าการติดตั้งบนการลอกแบบล้มเหลวและขณะนี้จะต้องย้อนกลับไปใช้การอัปเดตที่มีอยู่แล้ว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID เพื่อระบุกิจกรรมการอัปเดตเดียว และรายงานข้อผิดพลาดของพร็อกซีในระหว่างกระบวนการลอกแบบ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

cloningtask.status

เหตุการณ์นี้บ่งชี้สถานะของกระบวนการโคลนสำหรับแอปพลิเคชันที่จะได้รับการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดอัตราความสำเร็จรวมถึงชนิดของข้อผิดพลาดที่พบซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความล้มเหลว เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อระบุว่าฟีเจอร์การโคลนควรถูกเร่งในแชนเนลผู้ชมอื่นหรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - สตริงที่ประกอบด้วยข้อมูลข้อผิดพลาดถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างงานการโคลน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - การนำเสนอสตริงของตัวแปรบูลีน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดต

cloningtask.status.finish

เหตุการณ์นี้รายงานการเสร็จสิ้นของงาน “การโคลน” เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของรายงานกระบวนการการอัปเดตและเราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - การบ่งชี้ว่างานการโคลนสำเร็จหรือไม่

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

configuration.channel

บันทึกของเหตุการณ์นี้พยายามที่จะเปลี่ยนแชนเนล (กลุ่มผู้ชม) ใน MAU เราใช้สิ่งนี้เพื่อบันทึกความพยายามและผลลัพธ์ที่ตามมา (สำเร็จหรือล้มเหลว)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อแชนเนลที่เลือก

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

configuration.metadata

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อใดก็ตามที่ MAU กำลังเริ่มต้น เป็นเหตุการณ์ชนิดฮาร์ทบีทของ MAU

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่ซึ่งบ่งชี้ว่าเมตาดาต้าแต่ละรายการกำลังเตรียมใช้งาน หรือการกำหนดค่ากำลังเตรียมใช้งาน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

configuration.preference

เหตุการณ์นี้จะถูกบันทึกเมื่อใดก็ตามที่ Microsoft AutoUpdate พบปัญหาเกี่ยวกับการกําหนดลักษณะ ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อกําหนดขอบเขตของปัญหาที่เกิดจากการตั้งค่าไคลเอ็นต์พจนานุกรมแอปพลิเคชันอย่างไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

configuration.systemVersion

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าความพยายามในการดึงข้อมูลเวอร์ชันของระบบล้มเหลว นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูล Microsoft Auto Update (MAU) ที่สามารถรวบรวมจากระบบได้ด้วย เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดว่า MAU ควรเตรียมตัวสำหรับความล้มเหลวหรือไม่ โปรดทราบว่าเวอร์ชันของระบบจะถูกใช้เพื่อระบุว่าการอัปเดตสามารถนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ไคลเอ็นต์ได้หรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบในขณะที่กำลังเรียกใช้สตริงเวอร์ชันของระบบ macOS

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.alertmanager.reinstallresponse

เหตุการณ์นี้แสดงว่า MAU ตกอยู่ในสถานะใช้ไม่ได้ /กู้คืนไม่ได้ และจะต้องติดตั้งใหม่ เหตุการณ์นี้แสดงถึงข้อผิดพลาดที่กู้คืนไม่ได้และต้องให้ผู้ใช้แทรกแซง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การกำหนดลักษณะสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีการเลือกผู้ใช้ที่แจงนับ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.alertmanager.tmpdiskfull

เหตุการณ์นี้แสดงว่าตรวจพบเนื้อที่ดิสก์ไม่เพียงพอ เราจะไม่สามารถติดตั้งการอัปเดตได้เนื่องจากเนื้อที่ดิสก์ไม่เพียงพอ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.alertmanager.tmpdiskfullretry

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความพยายามในการลองติดตั้งการอัปเดตใหม่หลังจากตรวจพบเนื้อที่ดิสก์ไม่เพียงพอ เราลองติดตั้งอีกครั้งหลังจากไม่สามารถติดตั้งการอัปเดตได้เนื่องจากเนื้อที่ดิสก์ไม่เพียงพอ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.alertmanager.tmpdiskfullretrycancel

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการยกเลิกความพยายามลองติดตั้งอีกครั้งหลังจากตรวจพบเนื้อที่ดิสก์ไม่เพียงพอ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดว่ากลไกที่ใช้แทนของเราพอที่จะแนะนำผู้ใช้ผ่านกระบวนการอัปเดตหรือไม่เมื่อตรวจพบดิสก์ไม่เพียงพอ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.checkwindow.noupdatefoundok

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการตรวจสอบการอัปเดตส่งผลให้พบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง ปรับการรองรับบริการให้เหมาะสม และนิยามความถี่ในการตรวจสอบการอัปเดตของเรา นอกจากนี้เรายังต้องการปรับจังหวะการเผยแพร่ของเราให้เหมาะสมตามความคาดหวังของผู้ใช้ในการอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.checkwindow.updatecheck

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการตรวจสอบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง ปรับการรองรับบริการให้เหมาะสม และนิยามความถี่ในการตรวจสอบการอัปเดตของเรา นอกจากนี้เรายังต้องการปรับจังหวะการเผยแพร่ของเราให้เหมาะสมตามความคาดหวังของผู้ใช้ในการอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.checkwindow.updatecheckcancel

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการตรวจสอบสำหรับการอัปเดตถูกยกเลิก (ทั้งโดยผู้ใช้หรือโดยระบบ) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง ปรับการรองรับบริการให้เหมาะสม และนิยามความถี่ในการตรวจสอบการอัปเดตของเรา นอกจากนี้เรายังต้องการปรับจังหวะการเผยแพร่ของเราให้เหมาะสมตามความคาดหวังของผู้ใช้ในการอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.checkwindow.updatecheckcanceluser

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการตรวจสอบสำหรับการอัปเดตถูกยกเลิกโดยผู้ใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง ปรับการรองรับบริการให้เหมาะสม และนิยามความถี่ในการตรวจสอบการอัปเดตของเรา นอกจากนี้เรายังต้องการปรับจังหวะการเผยแพร่ของเราให้เหมาะสมตามความคาดหวังของผู้ใช้ในการอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.checkwindow.updatesfound

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการตรวจสอบการอัปเดตส่งผลให้พบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.checkwindow.uptodate

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการตรวจสอบการอัปเดตส่งผลให้ไม่มีการอัปเดตเพราะแอปในอุปกรณ์เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.applaunchwithpendingupdate

เหตุการณ์นี้แสดงว่าแอปที่ได้รับการอัปเดตเปิดใช้แล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง เราควรป้องกันไม่ให้แอปที่เปิดไว้ได้รับการอัปเดต ต้องปิดแอปก่อนที่จะอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.closeapplicationdialog

เหตุการณ์นี้แสดงว่าแอปที่ได้รับการอัปเดตเปิดใช้แล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง เราควรป้องกันไม่ให้แอปที่เปิดไว้ได้รับการอัปเดต ต้องปิดแอปก่อนที่จะอัปเดต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.curtasknull

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นขณะพยายามใช้การอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.downloadcancel

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการดาวน์โหลดถูกยกเลิกโดยผู้ใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.downloadfailed

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.downloadfailedok

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อดาวน์โหลดการอัปเดตและผู้ใช้ได้รับแจ้งแล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตและดาวน์โหลดอย่างถูกต้อง และในกรณีที่ล้มเหลวจะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.downloadpathmissing

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า URL ดาวน์โหลดหายไป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.downloadtasknull

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ถูกขอให้หยุดชั่วคราว/ทำการดาวน์โหลดต่อ แต่ไม่สามารถหาตัวจัดการดาวน์โหลดที่เกี่ยวข้องได้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.filesignaturenotverified

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อดาวน์โหลดการอัปเดต เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า Microsoft เผยแพร่การอัปเดตนี้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่มี URL ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.installcomplete

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการติดตั้งการอัปเดตทั้งหมดที่ Microsoft Autoupdate เสนอได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเสนอการอัปเดตอย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.networkunavailablealert

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายขาดหายไปในขณะที่ดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.networkunavailablealertok

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายขาดหายไปในขณะที่ดาวน์โหลดการอัปเดต นอกจากนี้ยังแสดงว่าผู้ใช้ได้รับแจ้งเตือนถึงข้อผิดพลาดนี้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.noconnectionok

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายขาดหายไปในขณะที่ดาวน์โหลดการอัปเดต นอกจากนี้ยังแสดงว่าผู้ใช้ได้รับแจ้งเตือนถึงข้อผิดพลาดนี้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.repairrequired

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการอัปเดตล้มเหลว นอกจากนี้ยังแสดงว่าการอัปเดตเสร็จสมบูรณ์ แต่ Microsoft Autoupdate พบปัญหาเกี่ยวกับแอปพลิเคชันที่ได้รับการอัปเดต และต้องมีการซ่อมแซม เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.updateaborted

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการอัปเดตถูกยกเลิกการทำงาน นอกจากนี้ยังแสดงว่าการอัปเดตกำลังดำเนินการโดยเดมอนและผู้ใช้คลิกตกลงเพื่อยกเลิกการทำงานการดาวน์โหลด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.updatefailed

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการอัปเดตหนึ่งรายการขึ้นไปจากชุดปัจจุบันล้มเหลว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.updatesuccessful

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการอัปเดตทั้งหมดจากชุดปัจจุบันประสบความสำเร็จ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.userpaused

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการอัปเดตทั้งหมดจากชุดปัจจุบันประสบความสำเร็จ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.downloadwindow.userresumed

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการอัปเดตการดาวน์โหลดนั้นดำเนินการต่อได้สำเร็จหลังจากหยุดชั่วคราว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.mainwindow.setautomaticchecking

เหตุการณ์นี้แสดงว่าอุปกรณ์ได้รับการลงทะเบียนเข้าสู่โหมดการอัปเดตอัตโนมัติ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.mainwindow.setautomaticdownloadinstall

เหตุการณ์นี้แสดงว่าอุปกรณ์ได้รับการลงทะเบียนเข้าสู่โหมดการอัปเดตอัตโนมัติ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.mainwindow.setmanualchecking

เหตุการณ์นี้แสดงว่าอุปกรณ์ได้รับการลงทะเบียนเข้าสู่โหมดการอัปเดตด้วยตนเอง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.templateawindow.cancel

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้เลือกที่จะยกเลิกหรือละเว้นข้อความเตือนที่ให้ไว้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.templateawindow.enroll

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้เลือกที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำเตือนที่ให้ไว้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.templateawindow.install

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้เลือกที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำเตือนที่ให้ไว้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเริ่มดำเนินการติดตั้งซอฟต์แวร์ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.begindownloadingapps

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการดาวน์โหลดการอัปเดตนั้นเริ่มต้นขึ้นผ่านหน้าต่างการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีพจนานุกรมของแพคเกจการอัปเดตที่มีและการบ่งชี้ว่าผู้ใช้เลือกที่จะติดตั้งรายการนั้นหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.networkretry

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการทริกเกอร์การลองอีกครั้งที่แผ่นงานการอัปเดตเนื่องจากเครือข่ายล้มเหลว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.networkretrycancel

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการลองอีกครั้งไม่สามารถทริกเกอร์ได้ที่แผ่นงานการอัปเดตเนื่องจากเครือข่ายล้มเหลว เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้เลือกที่จะยกเลิกการอัปเดตหลังจากได้รับแจ้งว่าเครือข่ายไม่พร้อมใช้งาน เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.networkunavailable

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายขาดหายไปกะทันหัน เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถเข้าถึงได้เมื่อพยายามดาวน์โหลดแพคเกจการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.noupdateavailable

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการค้นหาการอัปเดตที่ส่งผลให้ไม่มีการอัปเดต เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าไม่พบการอัปเดตที่พร้อมใช้งานโดย Microsoft Autoupdate เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.noupdatestoselect

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นที่ส่งผลให้รายการอัปเดตว่างเปล่า เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate แสดงแผ่นงานการอัปเดตที่ว่างเปล่า ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

Controller.UpdateWindow.UpdateAvailable

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการค้นหาการอัปเดตที่ส่งผลให้มีการเสนอการอัปเดต เราใช้สิ่งนี้เพื่อกำหนดว่ามีการเสนอการอัปเดตให้ผู้ใช้เห็นหรือไม่ ว่ามีการแสดงการอัปเดตที่เหมาะสมหรือไม่ หรือว่าการบล็อกการอัปเดตนั้นทำงานตามที่คาดไว้หรือไม่ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีพจนานุกรมของแพคเกจการอัปเดตที่มีและสถานะการเลือกของผู้ใช้สำหรับแต่ละรายการ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

controller.updatewindow.updateavailablecancel

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้ยกเลิกหลังจากที่เราแสดงแผ่นงานการอัปเดตที่แสดงรายการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่ออธิบายเหตุผลในการไม่อัปเดต (คือผู้ใช้ยกเลิกด้วยความเต็มใจ) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadactor.pause

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้ออกคำร้องขอให้หยุดการดาวน์โหลดชั่วคราว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่ออธิบายเหตุผลสำหรับการอัปเดตที่ไม่สมบูรณ์ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadactor.redirect

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเอเจนต์ตัวดาวน์โหลดชี้ไปยังปลายทางที่ออก URL เปลี่ยนเส้นทางสำหรับการร้องขอการดาวน์โหลด เราใช้สิ่งนี้เพื่ออธิบายสาเหตุความล้มเหลวในการดาวน์โหลดและวินิจฉัยปัญหาพร็อกซี นอกจากนี้ยังสามารถช่วยวินิจฉัยสาเหตุที่เราสังเกตได้ว่าผู้ใช้ติดตั้งรุ่นที่เก่ากว่า เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี URL ที่เปลี่ยนเส้นทาง นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadactor.resume

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้ออกคำร้องขอให้ทำการดาวน์โหลดที่หยุดชั่วคราวต่อ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadactor.resumeerror

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้ออกคำร้องขอให้ทำการดาวน์โหลดที่หยุดชั่วคราวต่อ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีเส้นทาง URL ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadactor.status

เหตุการณ์นี้บันทึกว่ามีความพยายามในการดึงข้อมูลไฟล์เอกสารประกอบและผลลัพธ์ (สำเร็จหรือล้มเหลว) เราต้องการทราบเอกสารประกอบและแพคเกจที่ถูกดึงข้อมูลออกมา การดึงข้อมูลผิดไฟล์อาจบ่งบอกถึงปัญหาการรุ่น/เอกสารประกอบ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี URL ดาวน์โหลดและรหัสข้อผิดพลาดในกรณีที่ล้มเหลว URL ดาวน์โหลดคือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.cachedupdate

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อมีการร้องขอการดาวน์โหลดและไฟล์ที่แคชจะถูกบันทึกไว้ภายในเครื่องแล้ว เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับการใช้การอัปเดตที่แคช ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดความสําเร็จของฟีเจอร์การอัปเดตที่แคชจากจํานวนแพคเกจการอัปเดตที่แคชซึ่งอยู่ ใช้ การตรวจสอบที่ล้มเหลว เป็นต้น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Reason - สตริงมีเหตุผลโดยละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Success - บูลีนระบุถึงความสเร็จของการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

downloadmanifest.configuration

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการกำหนดค่า Microsoft Auto Update (MAU) ด้วยการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์แบบกำหนดเองในการกำหนดลักษณะหรือในคำจำกัดความปลายทางในตัวช่วยการอัปเดตในการติดตั้งคอมโพเนนต์ MAU เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้คำแนะนำผู้ดูแล IT ในการตั้งค่าจุดสิ้นสุดของเซิร์ฟเวอร์รายการกำกับที่ถูกต้อง

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • Payload - ระบุว่ามีข้อผิดพลาดอยู่กับการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์แบบกำหนดเองหรือคอมโพเนนต์ MAU ที่ติดตั้งไว้

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.downloadcatalogfail

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการดาวน์โหลดล้มเหลว ไฟล์ที่ไม่สามารถดาวน์โหลดได้จะถูกบันทึกไว้ เราต้องการทราบเอกสารประกอบและแพคเกจที่ถูกดึงข้อมูลออกมา ความล้มเหลวในการดาวน์โหลดไฟล์กำกับอาจเป็นสัญญานของความล้มเหลวในการสร้างเอกสารประกอบ, ข้อผิดพลาดการกำหนดค่า CDN, ข้อผิดพลาดการกำหนดค่าไคลเอ็นต์, ข้อผิดพลาดเครือข่าย เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.downloadcatalogsuccess

เหตุการณ์นี้แสดงว่าไฟล์มีการดาวน์โหลดสำเร็จแล้ว ความล้มเหลวในการดาวน์โหลดไฟล์กำกับอาจเป็นสัญญานของความล้มเหลวในการสร้างเอกสารประกอบ, ข้อผิดพลาดการกำหนดค่า CDN, ข้อผิดพลาดการกำหนดค่าไคลเอ็นต์, ข้อผิดพลาดเครือข่าย เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.downloadfail

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเกิดข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลด ไฟล์กำกับหรือไฟล์แพคเกจที่ไม่สามารถดาวน์โหลดได้รวมถึงรายละเอียดข้อผิดพลาดจะถูกบันทึก เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.downloadfromurl

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการดาวน์โหลดไฟล์แค็ตตาล็อกเริ่มต้นขึ้นแล้ว เราบันทึก URL ที่จะดาวน์โหลดไฟล์แค็ตตาล็อก เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.downloading

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการดาวน์โหลดไฟล์แค็ตตาล็อกเริ่มต้นขึ้นแล้ว เราบันทึก URL ที่จะดาวน์โหลดไฟล์แค็ตตาล็อก เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.downloadsuccess

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อการดาวน์โหลด XML และไฟล์แพคเกจสําเร็จแล้ว เราบันทึก URL ที่จะดาวน์โหลดไฟล์ Microsoft ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทํางานตามที่คาดไว้และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • CachedUpdate - การบ่งชี้ว่ามีการใช้งานการดาวน์โหลดที่แคชหรือไม่

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • LeapFrog - บูลีนระบุว่าการอัปเดตเป็นการอัปเดต "leapfrog" หรือไม่ Leap Frog จะเสนอการอัปเดตส่วนที่แตกต่างเป็นเวอร์ชันล่าสุด แต่ไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุดในข้อเสนอ

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - สตริงมีเหตุผลโดยละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • StaleCache - การบ่งชี้ว่าจําเป็นต้องดาวน์โหลดเนื่องจากการอัปเดตที่แคชที่ล้าสมัยหรือไม่

downloadmanifest.downloadurl

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการร้องขอให้ดาวน์โหลดไฟล์ เราบันทึก URL ที่จะดาวน์โหลดไฟล์ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรหัสข้อผิดพลาดในการดาวน์โหลดและ URL ไฟล์ดาวน์โหลด นี่คือตำแหน่งที่ตั้งการดาวน์โหลดของ Microsoft ยกเว้นเมื่อแชนเนลตั้งค่าเป็นกำหนดเอง สำหรับแชนเนลที่กำหนดเอง ค่านี้จะถูกตั้งเป็น "ตำแหน่งที่ตั้งที่กำหนดเอง"

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.filenameerror

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเกิดข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.invalidhash

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการตรวจสอบความถูกต้องความปลอดภัยของไฟล์ของเราล้มเหลว Microsoft ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทํางานตามที่คาดไว้และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • CatalogID - ตัวระบุสําหรับแค็ตตาล็อกแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • File - สตริงที่แสดงชื่อไฟล์ปัจจุบัน

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลดซึ่งมีค่าแฮชไม่ถูกต้อง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.missingdaemon

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้พยายามตรวจสอบการอัปเดตและเราค้นพบว่า MAU ไม่มีคอมโพเนนต์หลัก (เดมอน) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.signatureerror

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการตรวจสอบลายเซ็นในโค้ดล้มเหลวสำหรับแพคเกจ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลดซึ่งมีค่าแฮชไม่ถูกต้อง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmanifest.status

เหตุการณ์นี้บันทึกการสรุปรวมของความพยายาม/ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการดาวน์โหลดสำหรับไฟล์กำกับและไฟล์แพคเกจ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลรวมถึง URL (ที่อยู่ Microsoft), ส่วนเติมหน้าของไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลด, ข้อผิดพลาดที่พบ ฯลฯ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmgr.downloadend

เหตุการณ์นี้บันทึกเครื่องหมายที่บ่งชี้ว่ากระบวนการดาวน์โหลดเสร็จสิ้นด้วยตัวเอง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลรวมถึง URL (ที่อยู่ Microsoft), ส่วนเติมหน้าของไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลด, ข้อผิดพลาดที่พบ ฯลฯ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadmgr.downloadstart

เหตุการณ์นี้บันทึกการอัปเดตที่กำลังจะดาวน์โหลด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อของการอัปเดตที่กำลังดาวน์โหลด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

downloadtask.downloadbegin

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นกิจกรรมการดาวน์โหลดสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและเราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • BundleVersion - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • LeapFrog - บูลีนระบุว่าการอัปเดตเป็นการอัปเดต "leapfrog" หรือไม่ Leap Frog จะเสนอการอัปเดตส่วนที่แตกต่างเป็นเวอร์ชันล่าสุด แต่ไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุดในข้อเสนอ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • PreviousUpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdatePkg - ชื่อของแพคเกจการอัปเดตที่กำลังนำไปใช้

  • BundleVersion - เวอร์ชันของแอปพลิเคชันหลังการอัปเดต

downloadtask.downloadfailure

เหตุการณ์นี้บันทึกว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการดาวน์โหลดไฟล์แพคเกจ เราบันทึกเส้นทางการอัปเดตและข้อผิดพลาด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดล้มเหลว

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error – ข้อผิดพลาดที่สังเกตได้ระหว่างการดาวน์โหลด

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อของการอัปเดตที่กำลังดาวน์โหลดและข้อผิดพลาดที่สังเกต [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID – ตัวระบุของการอัปเดตที่กำลังดาวน์โหลด

downloadtask.downloadsuccess

การดาวน์โหลดไฟล์แพคเกจสำเร็จ เราบันทึกเส้นทางการอัปเดตที่ใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีเส้นทางการอัปเดตสำหรับการดาวน์โหลดที่สำเร็จ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID – ตัวระบุของการอัปเดตที่ดาวน์โหลดแล้ว

downloadtask.updatertypeerror

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของชนิดตัวอัปเดตในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อแจ้งเจ้าของไฟล์กำมกับเพื่อให้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdaterType - ประเภทของตัวอัปเดตที่ระบุในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

  • UpdateURL -URL ของแพคเกจการอัปเดตที่จำเป็นต้องนำไปใช้

downloadtask.urlerror

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดใน URL ที่ระบุในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อแจ้งเจ้าของไฟล์กำมกับเพื่อให้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • Error - ระบุลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateURL -URL ของแพคเกจการอัปเดตที่จำเป็นต้องนำไปใช้

errorsandwarnings

เหตุการณ์นี้ถูกทริกเกอร์โดยตรวจพบเงื่อนไขที่ผิดปกติขณะเรียกใช้ Microsoft AutoUpdate Microsoft จะใช้ข้อมูลในการตรวจหาและแก้ไขปัญหาใดๆ ที่พบ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Error - ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • File - สตริงที่แสดงชื่อไฟล์ปัจจุบัน

  • Operation - ระบุการดําเนินการที่กําลังดําเนินการเมื่อพบข้อผิดพลาดหรือคําเตือน

  • UpdateID - รหัสเฉพาะสากลของการอัปเดต ตัวระบุนี้ใช้เพื่อเชื่อมโยงและระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการอัปเดต

fba.changelastupdate

เหตุการณ์นี้รายงานเมื่อมีการตรวจสอบ Microsoft Auto Update (MAU) เราใช้เหตุการณ์นี้ในการตรวจแก้จุดบกพร่องเมื่ออุปกรณ์บางเครื่องไม่ได้รับการเสนอการอัปเดตเป็นระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • Payload - มีเวลาวันที่เมื่อ MAU ตรวจหาการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.checkforupdate

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการพื้นหลังกำลังตรวจสอบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.checkforupdateskip

เหตุการณ์นี้แสดงว่ากระบวนการพื้นหลังข้ามการอัปเดตเนื่องจาก MAU GUI กำลังเปิด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.forceinstallmsgsent

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการอัปเดตที่บังคับจะเริ่มต้นจากส่วนติดต่อผู้ใช้ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อกำหนดลักษณะการทำงานของฟีเจอร์การอัปเดต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.forceupdatecheck

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการตรวจสอบการอัปเดตถูกบังคับ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดปริมาณของการตรวจสอบการอัปเดตที่บังคับซึ่งเกิดขึ้นนอกเหนือจากรอบการตรวจสอบการอัปเดตปกติ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.guiappopen

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าส่วนติดต่อผู้ใช้กำลังถูกเปิดใช้งานภายใต้โหมดการตรวจสอบอัตโนมัติเนื่องจากแอปพลิเคชันที่มีการอัปเดตที่มีอยู่เปิดอยู่ในขณะนี้ เหตุการณ์นี้ใช้ในการกำหนดปริมาณการเปิดใช้ส่วนติดต่อกับผู้ใช้จากโหมดการตรวจสอบโดยอัตโนมัติสำหรับการพัฒนาฟีเจอร์ในอนาคต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.installpending

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Auto Update (MAU) ส่งการแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการอัปเดตที่ค้างอยู่ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่เริ่มจากการแจ้งเตือนผู้ใช้และใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้โดยการลดการขัดจังหวะผู้ใช้ในการเผยแพร่ในอนาคต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.launch

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นของ Microsoft Update Assistant ด้วยวิธีการเปิดใช้งาน เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่ามีการเปิดใช้งาน Microsoft Update Assistant ในบริบทที่ไม่ถูกต้องหรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.launchbyagent

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีการเปิดใช้งาน Microsoft Update Assistant ถูกเปิดใช้ผ่านทางตัวแทนการเปิด เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณที่ Microsoft Update Assistant จะเปิดใช้งานจากส่วนติดต่อผู้ใช้ สำหรับการพัฒนาในอนาคต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.launchfromprotocol

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีการเปิดใช้งาน Microsoft Update Assistant ผ่านทางโพรโทคอล URL เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณที่ Microsoft Update Assistant จะเปิดใช้งานผ่าน URL สำหรับการพัฒนาในอนาคต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงร่าง URL และโฮสต์ URL

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.launchgui

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Update Assistant พยายามเปิดใช้งานส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการเปิดใช้ UI เริ่มต้นจาก Microsoft Update Assistant เพื่อช่วยในการพัฒนาในอนาคตรวมถึงการลดการขัดจังหวะผู้ใช้จากการเปิดใช้งาน UI บ่อยๆ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.launchstatus

เหตุการณ์นี้บันทึกเดมอนของ MAU ที่ล้มเหลวขณะพยายามเปิดใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - มี OSStatus (รหัสสถานะของ Apple) ที่แสดงสถานะการเปิดใช้

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี OSStatus (รหัสสถานะของ Apple) ที่แสดงสถานะการเปิดใช้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success – บูลีนสตริงที่ระบุว่ากระบวนการเดมอน MAU ได้เปิดใช้อย่างเสร็จสมบูรณ์หรือไม่

fba.mausilentupdate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Update Assistant จะเริ่มการอัปเดตแบบเงียบ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่จะถูกนำไปใช้โดยไม่มีการขัดจังหวะของผู้ใช้เพื่อช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่ [เขตข้อมูลนี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฎอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - ข้อความแบบคงที่ที่ระบุว่าไม่สามารถดำเนินการอัปเดตแบบไม่แจ้งให้ทราบได้เนื่องจาก UI เปิดอยู่

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.moreinfofromappnotification

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อมูลที่แอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนกำลังกำหนดเส้นทางผ่าน Microsoft Auto Update (MAU) ตัวอย่างเช่น ข้อความสิ้นสุดการให้บริการจะถูกส่งผ่านการแจ้งเตือน MAU เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดปริมาณของอุปกรณ์ที่กำลังแสดงการแจ้งเตือนเช่นนี้เพื่อกำหนดความสำเร็จในการเผยแพร่ข้อมูล

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • AdditionalInfoID - ระบุโดยไม่ซ้ำกันว่า "ข้อมูลเพิ่มเติม" ถูกพุชผ่าน MAU

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • NotificationEvent - ข้อความคงที่ที่ระบุชนิดของการแจ้งเตือนที่จะถูกนำไปใช้

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.multipledaemon

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีการตรวจพบอินสแตนซ์อื่นของ Microsoft Update Assistant และอินสแตนซ์ปัจจุบันจะถูกยกเลิก เราจะใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดปริมาณของอุปกรณ์ที่พยายามเรียกใช้อินสแตนซ์จำนวนมากของตัวช่วยการอัปเดตและออกแบบการแก้ไขปัญหาชั่วคราวถ้าต้องการ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.nofifyappclosed

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Update Assistant จะส่งการแจ้งเตือนสำหรับการอัปเดตที่ค้างอยู่เนื่องจากไม่มีแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนเปิดอยู่และการอัปเดตจะดำเนินการต่อได้โดยไม่ขัดจังหวะผู้ใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่สามารถนำไปใช้แต่ต้องการการดำเนินการของผู้ใช้เพื่อทำเช่นนั้น เหตุการณ์นี้จะใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.nofifyappopen

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Update Assistant จะส่งการแจ้งเตือนสำหรับการอัปเดตที่ค้างอยู่เนื่องจากมีแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนเปิดอยู่และจำเป็นต้องปิดแอปพลิเคชันเพื่อดำเนินการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่จำเป็นต้องมีการขัดจังหวะของผู้ใช้ เหตุการณ์นี้จะใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.settimerfail

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าความพยายามในการตั้งค่าตัวจับเวลาเพื่อทริกเกอร์การอัปเดตในอนาคตล้มเหลว เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและเราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกำหนดปริมาณของความล้มเหลวในการพัฒนาการแก้ไขชั่วคราวในกรณีที่จำเป็น

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับปฏิทินและเวลาการอัปเดตล่าสุดที่ถูกใช้

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.silentupdateoptin

เหตุการณ์นี้แสดงว่าผู้ใช้กำลังเลือกรับการอัปเดตแบบไม่แจ้งให้ทราบ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.skipforcedupdate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการตรวจสอบการอัปเดตที่บังคับถูกข้ามเนื่องด้วยแอปพลิเคชันที่เปิดอยู่ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.startforcedupdate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีความพยายามในการใช้การอัปเดตที่บังคับ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.terminate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าเดมอน MAU สิ้นสุดตามปกติ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.updatefound

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าเดมอน MAU พบการอัปเดตที่พร้อมให้บริการ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีจำนวนการอัปเดตที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fba.updatetimer

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ากระบวนการเดมอนของ Microsoft Autoupdate ใช้งานได้เพื่อตรวจสอบการอัปเดตหลังจากสลีปเป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลวันที่เวลาปัจจุบัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.allappsclosed

เหตุการณ์นี้บันทึกหากแอปทั้งหมดถูกปิดก่อนการติดตั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.applaunchafterupdate

เหตุการณ์นี้บันทึกความพยายามในการเปิดใช้แอปอีกครั้งหลังจากการอัปเดตแบบไม่แจ้งให้ทราบและโหมดอัปเดต (ลอกแบบหรือไม่ลอกแบบ) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error – รายละเอียดของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระหว่างการเปิดใช้แอปพลิเคชันหลังการอัปเดต

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อแอปพลิเคชันที่เปิดใช้ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.applaunchwileinstalling

เราบันทึกเมื่อมีการเปิดใช้แอปขณะติดตั้งการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.appneedtoclose

เราบันทึกเมื่อกระบวนการอัปเดตได้เริ่มต้นและเราพบว่าแอปพลิเคชันที่จะอัปเดตได้เปิดขึ้น เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดตและ ID กลุ่มแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.appterminationeventreceived

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ได้รับเหตุการณ์ของ Apple ซึ่งแจ้งว่าแอปพลิเคชันนั้นยุติแล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error – รายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการสิ้นสุดแอปพลิเคชัน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและ ID กลุ่มแอปพลิเคชัน ซึ่งอาจมีสตริงข้อผิดพลาดหาก Microsoft Autoupdate กำหนดว่าแอปพลิเคชันยังคงทำงานอยู่แม้ว่าจะได้รับเหตุการณ์การสิ้นสุด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • AppID – ตัวระบุการอัปเดตแอปพลิเคชัน

FBASilentUpdate.ClientSession

เหตุการณ์นี้ใช้เพื่อคำนวณเมตริกสถานภาพการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ Microsoft Auto Update (MAU) เหตุการณ์นี้อนุญาตให้เราระบุว่าเซสชันการอัปเดตใด (ดาวน์โหลดหรือติดตั้ง) ที่แบ็กเอนด์กำลังจัดการอยู่ในขณะนี้

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – ระบุว่าเซสชันการอัปเดตใด (ดาวน์โหลดหรือติดตั้ง) ที่แบ็กเอนด์กำลังจัดการอยู่ในขณะนี้

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.codesignfailure

เหตุการณ์นี้บันทึกผลลัพธ์ของการตรวจสอบการเซ็นชื่อในโค้ดหลังจากใช้การอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีผลลัพธ์ของการดำเนินการตรวจสอบการเซ็นชื่อในโค้ด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.download

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • ScreenLocked – การบ่งชี้ว่าการดาวน์โหลดจะเริ่มต้นหลังจากที่คุณล็อกหน้าจอ

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.downloadfailed

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีความล้มเหลวเกิดขึ้นขณะดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error – รายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างดาวน์โหลดการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อการอัปเดต [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • AppID – ตัวระบุการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

fbasilentupdate.downloadinbackground

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเรากำลังเริ่มดาวน์โหลดชุดการอัปเดตในพื้นหลัง (เราบันทึกจำนวนการอัปเดตที่ดาวน์โหลดพร้อมกัน) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีจำนวนการอัปเดตที่อยู่ในคิว

    • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)
  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.downloadingrepairupdate

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเราได้เริ่มต้นความพยายามในการดาวน์โหลดการซ่อมแซมสำหรับการอัปเดตที่ล้มเหลว เราบันทึกเวอร์ชันและการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • ScreenLocked – การบ่งชี้ว่าการดาวน์โหลดจะเริ่มต้นหลังจากที่คุณล็อกหน้าจอ

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.duplicatedownloadattempted

เหตุการณ์นี้แสดงว่าเกิดข้อผิดพลาด เราควรจะดาวน์โหลดเฉพาะหนึ่งการอัปเดตสำหรับแอปที่กำหนดในแต่ละครั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.installattemptfailed

เหตุการณ์นี้แสดงว่าความพยายามติดตั้งสำหรับการอัปเดต (เวอร์ชัน) ล้มเหลว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.installcomplete

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการอัปเดตทั้งหมดบนชุดเสร็จสิ้นการติดตั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.installed

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการติดตั้งการอัปเดตแต่ละรายการเรียบร้อยแล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์ มีตัวระบุการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.installing

เหตุการณ์นี้แสดงว่ามีการเริ่มต้นการอัปเดตแต่ละรายการ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดตและชื่อแพคเกจการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.installstatus

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับสถานะของงานการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตแอปพลิเคชันและเราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลว่ามุมมองความคืบหน้าแสดงอยู่หรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - การบ่งชี้ว่าการอัปเดตแอปพลิเคชันสำเร็จหรือไม่

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

  • UpdatePkg - ชื่อของแพคเกจการอัปเดตที่กำลังนำไปใช้

fbasilentupdate.notificationerror

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบในขณะที่พยายามส่งการแจ้งเตือนผู้ใช้ เหตุการณ์นี้จะถูกนำไปใช้ในการแก้จุดบกพร่องสาเหตุของข้อผิดพลาดและดำเนินการแก้ไข

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • ErrType - ระบุลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Message - เนื้อหาของการแจ้งเตือน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Title - ชื่อเรื่องของการแจ้งเตือน

  • Type - ประเภทการแจ้งเตือน

fbasilentupdate.notificationremoved

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการอัปเดตที่ถูกบล็อกนั้นจะไม่ถูกบล็อกอีกต่อไป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID แอปพลิเคชัน (แอปพลิเคชันตัวระบุใช้ในการลงทะเบียนกับบริการ Microsoft Autoupdate) สำหรับแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกก่อนหน้านี้

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.queueinstall

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการอัปเดตจะได้รับการจัดคิวสำหรับการติดตั้งแบบไม่แจ้งให้ทราบ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.requiredappsclosed

เราบันทึกเมื่อแอปพลิเคชันที่มีการอัปเดตที่ค้างอยู่ถูกปิด นี่เป็นการบ่งชี้เวลาที่การติดตั้งจริงสามารถดำเนินต่อไปได้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและ ID กลุ่มแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

FBASilentUpdate.TimerForAppTermination

เหตุการณ์นี้ใช้เพื่อคำนวณเมตริกสถานภาพการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ Microsoft Auto Update (MAU) เหตุการณ์นี้จะทำให้เราสามารถติดตามเหตุการณ์การสิ้นสุดการทำงานของแอปพลิเคชันที่เปิดอยู่และระยะเวลาที่เปิด

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – ระบุว่ามีการตั้งค่าตัวจับเวลาสำหรับแอปพลิเคชันที่เปิดอยู่เมื่อมีการทริกเกอร์การติดตั้งการอัปเดตหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.updateavailablenotification

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีการทริกเกอร์การแจ้งเตือนการอัปเดต เราจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการทริกเกอร์โฟลว์เพื่อพร้อมท์การอัปเดตเมื่อตรวจพบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • CustomNotification – บูลีนที่บ่งชี้ว่ามีการใช้การแจ้งเตือนแบบกำหนดเองหรือไม่

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.userclicknotification

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าส่วนเนื้อหาที่ผู้ใช้คลิกของการแจ้งเตือนการอัปเดตที่มีและ Microsoft Autoupdate GUI กำลังถูกเปิดใช้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.userselectinstalllater

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้เลือกที่จะติดตั้งในภายหลังจากการแจ้งเตือนการอัปเดตที่มีได้ปรากฏ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

fbasilentupdate.userselectinstallnow

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้เลือกที่จะติดตั้งตอนนี้หลังจากการแจ้งเตือนการอัปเดตที่มีปรากฏ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.dashboardrowview.updatestate

เหตุการณ์นี้จะรายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบขณะพยายามแสดงข้อมูลแอปพลิเคชันใน MAU UI เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อรับรองสถานภาพของ MAU และติดตาม/แก้ไขปัญหาความล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.dashboardview.appisopendialog.display

เหตุการณ์นี้แสดงว่า UI แสดงกล่องโต้ตอบเพื่อปิดและเปิดแอปพลิเคชันเพื่อดำเนินการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่ล่าช้าเพื่อให้การปรับปรุงในอนาคตลดการขัดจังหวะผู้ใช้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

gui.dashboardview.appisopendialogbutton.clicked

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการอัปเดตแอปพลิเคชันถูกข้ามหรือความพยายามอื่นจะถูกทำหลังจากแสดงกล่องโต้ตอบแอปพลิเคชันที่เปิดอยู่ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่กำลังถูกข้ามและใช้เพื่อการปรับปรุงในอนาคตลดการขัดจังหวะผู้ใช้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • ButtonType - ข้ามหรือลองอีกครั้ง

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

gui.dashboardview.updateinprogressdialog.display

เหตุการณ์นี้บันทีกว่ากล่องโต้ตอบแสดงขึ้นต่อผู้ใช้ระบุว่าการอัปเดตถูกดำเนินการอยู่แล้ว

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.dashboardview.updatemodebutton.clicked

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าโหมดการอัปเดตเปลี่ยนแปลงจากการควบคุม UI เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของอุปกรณ์ที่เปลี่ยนจากโหมดหนึ่งไปยังอีกโหมดหนึ่งและใช้เพื่อช่วยระบุสาเหตุที่ลูกค้าจึงย้ายออกจากการอัปเดตอัตโนมัติ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - การบ่งชี้ว่าการดาวน์โหลดอัตโนมัติถูกปิดใช้งานหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.feedbackwindow.buttonclicked

เหตุการณ์นี้รายงานว่าส่งคำติชมแล้วหรือมีการยกเลิกก่อนการส่งคำติชม เหตุการณ์นี้ใช้ในการช่วยตรวจสอบปริมาณของคำติชมที่ส่งในรุ่นที่วางจำหน่ายเฉพาะ ซึ่งจะช่วยในการแยกปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • ButtonType - การบ่งชี้ว่าคำติชมถูกส่งหรือถูกยกเลิก

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.preferenceview.consentsheet.display

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าแผ่นงานการยินยอมสำหรับแชนเนลที่ได้รับจะแสดงขึ้นถ้ามีให้ใช้งาน เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนใหม่ในแชนเนลผู้ชมที่ใช้งานได้ (ข้อมูลเชิงลึกอย่างรวดเร็ว/ข้อมูลเชิงลึกที่อดใจรอได้) นอกจากนี้เรายังใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการแสดงกล่องโต้ตอบความยินยอมทำงานเพื่อแสดงข้อตกลงการใช้งานให้กับผู้ใช้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • ChannelName - แชนเนลที่กล่องโต้ตอบสำหรับการยินยอมจะปรากฏขึ้น

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.preferenceview.consentsheet.licenseerror

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบขณะพยายามแสดงกล่องโต้ตอบการยินยอม เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในผลิตภัณฑ์ถ้ามี

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • ErrorCode - รหัสข้อผิดพลาดที่พบ

  • ErrorDomain -โดเมนข้อผิดพลาด

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.preferenceview.switchchannel

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปมาระหว่างแชนเนลที่ผู้ใช้เลือก เหตุการณ์นี้ใช้เพื่อช่วยตรวจสอบว่าทำไมลูกค้าจึงไม่ได้เลือกแชนเนลข้อมูลเชิงลึก

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PickedFrom - แชนเนลเก่า

  • PickedTo - แชนเนลใหม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

gui.updatemanager.applaunchduringupdate

เหตุการณ์นี้รายงานว่าแอปพลิเคชันถูกเปิดใช้งานในขณะที่ได้รับการอัปเดตและ Microsoft AutoUpdate จะยุติแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งาน โปรดทราบว่าการเปิดใช้แอปพลิเคชันในขณะที่กำลังอัปเดตอาจทำให้แอปพลิเคชันเสียหาย เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้นตอนการอัปเดตจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปิดใช้แอปพลิเคชันก่อนที่จะพร้อมใช้งาน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุของแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานในระหว่างการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - ค่าบูลีนของสตริงที่ระบุว่าแอปพลิเคชันถูกยกเลิกเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือไม่

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดตแอปพลิเคชัน

gui.updatemanager.downloadupdateforapp

เหตุการณ์นี้รายงานสถานะความเสร็จสมบูรณ์ของการดาวน์โหลดสำหรับการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อรักษาสถานภาพของกระบวนการอัปเดตและ ติดตาม/ระบุจุดล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • IsRepair - บูลีนของสตริงระบุว่าการอัปเดตนั้นๆ เป็นการดาวน์โหลดซ่อมแซมหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • isRepair - การบ่งชี้ว่าการดาวน์โหลดนั้นเป็นการดาวน์โหลดซ่อมแซมสำหรับการอัปเดตที่ล้มเหลวก่อนหน้านี้หรือไม่

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

  • UpdateName - ชื่อการอัปเดต

gui.updatemanager.error

เหตุการณ์นี้จะรายงานย้อนกลับไปยังข้อผิดพลาดใดๆ ที่พบระหว่างการอัปเดตแอปพลิเคชัน ซึ่งอาจระบุว่ามีข้อผิดพลาดในลำดับการดำเนินการของ Microsoft Auto Update (MAU) เราใช้รายงานนี้เพื่อนำการอัปเดต MAU ไปใช้ในการตอบสนองสำหรับสถานการณ์ข้อผิดพลาดทั่วไป

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload – มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบระหว่างการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success – ค่าบูลีนของสตริงที่ระบุว่าแอปพลิเคชันถูกยกเลิกเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือไม่

gui.updatemanager.installcleanupforapp

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าไฟล์ชั่วคราวที่สร้างขึ้นในระหว่างการติดตั้งแอปพลิเคชันถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและเราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID – ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppState – จำนวนเต็มระบุสถานะของแอปพลิเคชันหลังจากความพยายามในการอัปเดต

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime – เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp – สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID – ตัวระบุการอัปเดต

gui.updatemanager.installsuccessforapp

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การอัปเดตแอปพลิเคชันที่ประสบความสำเร็จ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตที่เราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - บูลีนของสตริงระบุว่าการอัปเดตจะถูกติดตั้งสำเร็จหรือไม่

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

gui.updatemanager.installupdateforapp

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นกิจกรรมการติดตั้งจริงสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตแอปพลิเคชันที่เราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

gui.updatemanager.queueinstallforapp

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นกิจกรรมการติดตั้งจริงสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตแอปพลิเคชันที่เราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

gui.updatemanager.relaunchapp

เหตุการณ์นี้บันทึกว่าเปิดแอปพลิเคชันเสร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากการอัปเดต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชัน

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - ค่าบูลีนของสตริงที่ระบุว่าแอปพลิเคชันถูกยกเลิกเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือไม่

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

  • UpdateName - ชื่อการอัปเดต

installdata.checkrunning

เหตุการณ์นี้บันทึกผลลัพธ์ของการตรวจสอบระหว่างแอปที่จะติดตั้งและว่าความพยายามในการติดตั้งจะดำเนินการตามแอปที่กำลังเปิดอยู่หรือไม่ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installdata.cleanup

ไฟล์แพคเกจควรถูกลบออกหลังการติดตั้ง เหตุการณ์นี้บันทึกอินสแตนซ์ที่เราไม่สามารถลบออกได้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลดและรายละเอียดข้อผิดพลาด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installedapp.acknowledgedcoreappleevent

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Auto Update (MAU) ได้รับการตอบรับกิจกรรมของ Apple จากแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนเพื่อยุติแอปพลิเคชันเพื่อดำเนินการอัปเดตแอปพลิเคชันที่รอดำเนินการ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อช่วยพัฒนาการปรับปรุงในอนาคตให้ลดการขัดจังหวะผู้ใช้ในระหว่างการอัปเดตแอปพลิเคชัน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppleEventClass - ระบุชนิดของเหตุการณ์ที่ส่ง/รับทราบ

  • AppleEventID - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเหตุการณ์ที่ส่ง/รับทราบ

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีจำนวนการลองอีกครั้ง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

installedapp.invalidbundle

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ไม่สามารถดึงข้อมูลข้อมูลกลุ่มสำหรับแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนที่เส้นทางที่กำหนดได้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installedapp.invalidpreference

เหตุการณ์นี้บันทึกกรณีที่การตั้งค่าของผู้ใช้มีรายการแอปพลิเคชันที่ไม่ถูกต้อง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การกำหนดลักษณะสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installedapp.nilbundleid

เหตุการณ์นี้บันทึกกรณีที่ไม่มี ID กลุ่มสำหรับแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installedapp.nilbundlename

เหตุการณ์นี้บันทึกกรณีที่ไม่มีชื่อกลุ่มสำหรับแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installedapp.respondedcoreappleevent

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Auto Update (MAU) ได้รับรหัสการตอบกลับกิจกรรมของ Apple จากแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนเพื่อยุติแอปพลิเคชันเพื่อดำเนินการอัปเดตแอปพลิเคชันที่รอดำเนินการ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อช่วยพัฒนาการปรับปรุงในอนาคตให้ลดการขัดจังหวะผู้ใช้ในระหว่างการอัปเดตแอปพลิเคชัน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppleEventClass - ระบุชนิดของเหตุการณ์ที่ส่ง/รับทราบ

  • AppleEventID - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับเหตุการณ์ที่ส่ง/รับทราบ

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีจำนวนการลองอีกครั้ง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุการอัปเดต

installedapp.sendcoreappleevent

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Auto Update (MAU) กำลังส่งเหตุการณ์ Apple ไปยังแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนเพื่อยกเลิกแอปพลิเคชันดังกล่าวเพื่อดำเนินการอัปเดตแอปพลิเคชันที่ค้างอยู่ ขณะนี้กำลังใช้เหตุการณ์นี้เพื่อช่วยพัฒนาการปรับปรุงในอนาคตให้ลดการขัดจังหวะผู้ใช้ในระหว่างการอัปเดตแอปพลิเคชัน

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Acknowledged - ระบุว่าแอปพลิเคชันที่ระบุรับทราบการรับเหตุการณ์หรือไม่

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • appleEventClass - สตริงที่ระบุชนิดของคลาสเหตุการณ์ Apple

  • AppleEventID - ตัวระบุสําหรับเหตุการณ์ Apple ที่ส่งจาก Microsoft AutoUpdate ไปยังแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียน

  • AppToQuit - ระบุว่าแอปพลิเคชันจะสิ้นสุดการทํางานด้วยตนเองสําหรับ Microsoft Autoupdate เพื่อใช้การอัปเดตหรือไม่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • InAppMsg - ระบุว่าแอปพลิเคชันจะแสดงข้อความในแอปที่แนะนําให้ผู้ใช้ออกจากแอปเพื่ออัปเดตหรือไม่

  • Payload - มีจำนวนการลองอีกครั้ง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Retries - จํานวนการลองใหม่

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success -ระบุว่าแอปพลิเคชันที่ระบุรายงานความสำเร็จของการดำเนินการหรือไม่

  • Timeout - ค่าจํานวนเต็มที่ระบุจํานวนวินาทีในการรอให้แอปพลิเคชันตอบสนองหลังจากส่งเหตุการณ์ Apple

  • UpdateID - รหัสเฉพาะสากลของการอัปเดต ตัวระบุนี้ใช้เพื่อเชื่อมโยงและระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการอัปเดต

installstatus.codesign

เหตุการณ์นี้บันทึกสถานะของไบนารีการเซ็นชื่อในโค้ด OS เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installstatus.daemon

เหตุการณ์นี้บันทึกสถานะของเดมอน Microsoft AutoUpdate เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • BundleReachable – บูลีนที่บ่งชี้ว่ามีปัญหาในการเข้าถึงชุดแอปพลิเคชัน Microsoft AutoUpdate หรือไม่

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Codesigned – บูลีนที่บ่งชี้ว่าตัวช่วยอัปเดตมีการเซ็นชื่อในโค้ดอย่างถูกต้องหรือไม่

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • Exists – บูลีนที่บ่งชี้ว่าตัวช่วยการอัปเดตมีอยู่บนดิสก์หรือไม่

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีการบ่งชี้ว่ามีคอมโพเนนต์เดมอนอยู่ในตำแหน่งที่คาดหวังหรือไม่และมีการเซ็นชื่อในโค้ดหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installstatus.helper

เหตุการณ์นี้บันทึกสถานะของเครื่องมือตัวช่วย Microsoft AutoUpdate เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีการบ่งชี้ว่ามีคอมโพเนนต์ PrivilegedHelperTool อยู่ในตำแหน่งที่คาดหวังหรือไม่และมีการเซ็นชื่อในโค้ดหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.applaunched

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ได้ตรวจพบการเปิดใช้แอปพลิเคชันสำหรับการอัปเดตที่ถูกบล็อก แต่ไม่พบตัวติดตั้งที่ตรงกัน เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อของแอปพลิเคชันที่เปิดใช้

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.applaunchwithpendingupdate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ตรวจพบการเปิดใช้แอปพลิเคชันสำหรับแอปพลิเคชันที่มีการอัปเดตที่ค้างอยู่ แอปพลิเคชันที่เปิดใช้จะถูกยกเลิก เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.codesignverificationfail

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการตรวจสอบการเซ็นชื่อในโค้ดล้มเหลวสำหรับการอัปเดตแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อแอปพลิเคชันที่อัปเดตและรหัสความล้มเหลว

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.codesignverificationstart

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการตรวจสอบการเซ็นชื่อในโค้ดเริ่มต้นขึ้นสำหรับการอัปเดตแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อแอปพลิเคชันที่อัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.codesignverificationsuccess

เหตุการณ์นี้แสดงว่าการตรวจสอบการเซ็นชื่อในโค้ดสำเร็จสำหรับการอัปเดตแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อแอปพลิเคชันที่อัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.failsilentinstall

เหตุการณ์นี้บันทึกความล้มเหลวขณะใช้การอัปเดตแบบไม่แจ้งให้ทราบและว่าจะเป็นการติดตั้งแบบลอกแบบหรือแบบปกติ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชนิดการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.multiplerelocatablepackage

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate พบรายการแอปพลิเคชันหลายอินสแตนซ์สำหรับแพคเกจการอัปเดตที่ระบุในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดตและชื่อการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.removeclone

เหตุการณ์นี้แสดงว่าลอกแบบถูกลบ เราลบลอกแบบออกเมื่อกระบวนการติดตั้งบนลอกแบบเสร็จสมบูรณ์ หรือเมื่อกระบวนการใหม่เริ่มขึ้น และพบเวอร์ชันลอกแบบที่เก่ากว่าในเครื่อง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดต ชื่อแพคเกจการอัปเดต ลบสถานะลอกแบบ/รายละเอียดข้อผิดพลาด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.restoreclone

เมื่อผู้ใช้พยายามคืนค่าแอปที่ลอกแบบ เหตุการณ์นี้จะบันทึกขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการลอกแบบการคืนค่า Microsoft ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อกําหนดจุดความล้มเหลวที่เป็นไปได้เมื่อคืนค่าโคลนเพื่อใช้หน่วยวัดการแก้ไขที่จําเป็น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • BundleVersion - ระบุเวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่ติดตั้งก่อนที่จะคืนค่าเหตุการณ์

  • Error - ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • Success - บูลีนระบุถึงความสเร็จของการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • UpdateID - รหัสเฉพาะสากลของการอัปเดต ตัวระบุนี้ใช้เพื่อเชื่อมโยงและระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการอัปเดต

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

  • UpdatePkg - ชื่อของแพคเกจการอัปเดตที่กำลังนำไปใช้

installupdatestask.retryfail

เหตุการณ์นี้แสดงว่าพบข้อผิดพลาดในระหว่างกระบวนการลองติดตั้งอีกครั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดต และว่าการติดตั้งควรกระทำผ่านติดตั้งบนลอกแบบหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.retryproxyerror

เหตุการณ์นี้บันทึกข้อผิดพลาดการสื่อสารภายในกระบวนการ (การสื่อสารกับเครื่องมือตัวช่วยเหลือ MAU) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดตและรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของพร็อกซีที่รายงาน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.retryresponse

เหตุการณ์นี้บันทึกว่าการลองอีกครั้งไม่ทำงาน เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดต เวอร์ชันแอปพลิเคชัน ชื่อแพคเกจการอัปเดตและการบ่งชี้ว่าเปิดใช้งานติดตั้งบนลอกแบบหรือไม่ ว่าการติดตั้งสำเร็จหรือไม่และมีรายงานความล้มเหลวของข้อผิดพลาดใดๆ หรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.retrysuccess

เหตุการณ์นี้บันทึกการติดตั้งการอัปเดตที่สำเร็จหลังจากลองอีกครั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต ชื่อการอัปเดต เวอร์ชันแอปพลิเคชัน ชื่อแพคเกจการอัปเดตและการบ่งชี้ว่าเปิดใช้งานติดตั้งบนลอกแบบหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

installupdatestask.setreopengui

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการตั้งค่าการกำหนดลักษณะให้เปิด GUI อีกครั้งหลังจากติดตั้งประสบความสำเร็จหรือไม่ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความบ่งชี้ความสำเร็จของการดำเนินการ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success – บูลีนที่ระบุความสำเร็จของการดำเนินงาน

installupdatestask.updatestatus

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับสถานะของงานการติดตั้ง เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • BundleVersion - เวอร์ชันกลุ่มของแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • IOC - สตริงที่ระบุว่า Install On Clone สามารถใช้ได้กับการอัปเดตนี้หรือไม่

  • LeapFrog - บูลีนระบุว่าการอัปเดตเป็นการอัปเดต "leapfrog" หรือไม่ Leap Frog จะเสนอการอัปเดตส่วนที่แตกต่างเป็นเวอร์ชันล่าสุด แต่ไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุดในข้อเสนอ

  • NeedVerify - บูลีนที่ระบุถึงการอัปเดตที่ต้องการการตรวจสอบ

  • Operation - ระบุการดําเนินการที่กําลังดําเนินการเมื่อพบข้อผิดพลาดหรือคําเตือน

  • Payload - ข้อความคงที่ที่จะระบุจุดเริ่มต้นของกระบวนการติดตั้งถ้ามีปรากฏ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - บูลีนระบุถึงความสเร็จของการดําเนินการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • UpdateID - รหัสเฉพาะสากลของการอัปเดต ตัวระบุนี้ใช้เพื่อเชื่อมโยงและระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการอัปเดต

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

  • UpdatePkg - ชื่อของแพคเกจการอัปเดตที่กำลังนำไปใช้

Lifecycle.complimentproclaunch

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ถึงความพยายามที่จะเปิดใช้ Microsoft Update Assistant จาก Microsoft AutoUpdate หรือจาก Microsoft AutoUpdate จาก Microsoft Update Assistant เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อระบุและตรวจสอบสถานภาพของ Microsoft AutoUpdate และ Microsoft Update Assistant

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ข้อผิดพลาดใดๆ ที่รายงานในระหว่างการเปิดใช้งาน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - เหตุผลในการพยายามเปิดใช้กระบวนการชมเชย

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - การบ่งชี้ว่าการพยายามเปิดใช้สำเร็จหรือไม่

Lifecycle.launch

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นของ Microsoft AutoUpdate หรือ Microsoft Update Assistant นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังใช้ในการรายงานปัญหาที่พบในระหว่างกระบวนการเปิดใช้งาน ตลอดจนวิธีการรายงานที่ใช้ในการเปิดใช้งานในกรณีของ Microsoft Update Assistant

[เหตุการณ์นี้จะแทนที่เหตุการณ์ fba.launch และ appdelegate.launch]

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ข้อผิดพลาดใดๆ ที่พบในการเปิดใช้งาน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • LaunchedBy - สตริงที่ระบุวิธีการเปิดใช้กระบวนการ ตัวช่วย Microsoft Update สามารถเปิดใช้งานได้โดยการเปิดใช้เอเจนต์หรือเปิดใช้งานโดยตรง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

Lifecycle.periodiccheck

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับสถานะของกระบวนการ MicrosoftAutoUpdate เป็นระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะรายงานว่ามีกระบวนการงานใดเหลืออยู่ซึ่งรอให้ Update Assistant เสร็จสมบูรณ์ และในกรณีของ UI จะรายงานว่ากระบวนการยุติเนื่องจากผู้ใช้ไม่ดำเนินการหรือไม่ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจสอบสิ่งที่ทำให้ Update Assistant ไม่สามารถอัปเดตและยุติให้เสร็จสมบูรณ์ และ UI ยุติเนื่องจากผู้ใช้ไม่ดำเนินการหรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • dataCollectionDialog - บูลีนที่ระบุว่ากระบวนการกำลังรอการตอบสนองของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบการรวบรวมข้อมูลหรือไม่

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • forcedUpdateDialog - บูลีนที่ระบุว่ากระบวนการกำลังรอการตอบสนองของผู้ใช้ในกล่องโต้ตอบการอัปเดตที่บังคับหรือไม่

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • isBusy - บูลีนที่ระบุว่ากระบวนการกำลังยุ่งกับการอัปเดตที่ใช้งานอยู่หรือไม่

  • isInactive - บูลีนที่ระบุว่ากระบวนการกำลังรอการดำเนินการของผู้ใช้เป็นระยะเวลานานหรือไม่

  • isWaiting - บูลีนที่ระบุว่ากระบวนการกำลังรอการตอบสนองของผู้ใช้เกี่ยวกับการแจ้งเตือนหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • SessionLength - ความยาวของเซสชันกระบวนการปัจจุบันในเวลาเป็นวินาที

lifecycle.previousexitdata

เหตุการณ์นี้ถูกทริกเกอร์โดยการเปิดใช้ Microsoft AutoUpdate (MAU) และรายงานเกี่ยวกับสถานะการสิ้นสุดของเซสชันก่อนหน้า Microsoft ใช้ข้อมูลนี้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของกระบวนการ MAU สําหรับการปรับปรุงในอนาคต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DetectedHangCount - จํานวนการหยุดทํางานที่ตรวจพบสําหรับเซสชันก่อนหน้า

  • ExceptionEnum - ค่าตัวเลขที่ระบุข้อยกเว้นที่เกิดขึ้นซึ่งทําให้เซสชันก่อนหน้าจบการทํางาน

  • exitWasGraceful - สตริงที่ระบุว่าเซสชันก่อนหน้าจบการทํางานอย่างเรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งใช้เพื่อกําหนดความน่าเชื่อถือของกระบวนการ Microsoft AutoUpdate

  • LastULSLogTag - พบบันทึก ULS ล่าสุดก่อนจบการทํางานเซสชันก่อนหน้า

  • OSLocale - เซสชันก่อนหน้าของ OS Locale กําลังทํางานอยู่

  • OSVersion - เซสชันก่อนหน้าของ OS Version กําลังทํางานอยู่

  • ResidentMemoryOnCrash - หน่วยความจําหลักที่มีอยู่สําหรับเซสชันก่อนหน้า

  • SessionBuildNumber - สตริงที่ระบุหมายเลขรุ่นของเซสชันก่อนหน้า

  • sessionDurationSeconds - ระยะเวลาเซสชันก่อนหน้าเป็นวินาที

  • SessionId - สตริงที่ระบุเซสชันก่อนหน้า

  • sessionLongBuildNumber - สตริงที่ระบุเวอร์ชันเซสชันก่อนหน้าในรูปแบบเพิ่มเติม

  • SessionTerminationDurationSeconds - ระยะเวลาการสิ้นสุดเซสชันเป็นวินาที

  • SessionVersion - สตริงที่ระบุเวอร์ชันเซสชันก่อนหน้า

  • StackHash - พบค่าแฮชของสแตกการหยุดทำงาน

  • UnsymbolicatedChecksum - ตรวจสอบผลรวมของข้อมูลการหยุดทํางานที่ไม่ได้เชื่อมโยงสําหรับเซสชันก่อนหน้า

  • VirtualMemoryOnCrash - หน่วยความจําหลักเสมือนของเซสชันก่อนหน้า

Lifecycle.terminate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การสิ้นสุดของ Microsoft AutoUpdate หรือ Microsoft Update Assistant เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อระบุสถานภาพของ Microsoft AutoUpdate และ Microsoft Update Assistant

[เหตุการณ์นี้จะแทนที่เหตุการณ์ fba.terminate และ appdelegate.terminate]

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • SessionLength - ความยาวของเซสชันกระบวนการปัจจุบันในเวลาเป็นวินาที

msupdate.cli.eventhandler

เหตุการณ์นี้ใช้ในการคำนวณการใช้งาน API ส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับบรรทัดคำสั่งของ Microsoft Auto Update (MAU) ชนิดต่างๆ

โดยจะรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่ส่ง API ส่วนติดต่อบรรทัดคำสั่งไปยัง MAU

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • EventType - ประเภทของเหตุการณ์ที่แอปพลิเคชันส่งไปยัง API ส่วนติดต่อบรรทัดคำสั่งของ MAU

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.cli.eventhandler.applyupdates.appids

[เหตุการณ์นี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าคำสั่ง CLI (ส่วนติดต่อบรรทัดไคลเอ็นต์) ถูกใช้เพื่อใช้การอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ประกอบด้วยรายการ ID ของแอปพลิเคชันที่จะต้องอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.cli.eventhandler.config

[เหตุการณ์นี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

เหตุการณ์นระบุว่าโมดูลของอินเทอร์เฟซสำหรับบรรทัดคำสั่งของ Microsoft Autoupdate ได้รับเหตุการณ์ Apple ในการกำหนดค่า เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.cli.eventhandler.updates

[เหตุการณ์นี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

เหตุการณ์นบ่งชี้ว่ามอดูลส่วนติดต่อบรรทัดคำสั่ง Microsoft Autoupdate ได้รับเหตุการณ์ของ Apple เพื่อจัดทำรายการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.monitor.progress.downloaded

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีการดาวน์โหลดการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรายการอัปเดตที่ดาวน์โหลด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.monitor.progress.failure

เหตุการณ์นี้บันทึกรายการอัปเดตที่อยู่ในคิวซึ่งไม่สามารถใช้งานได้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรายการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.monitor.progress.finished

เหตุการณ์นี้บันทึกรายการอัปเดตที่อยู่ในคิวซึ่งเสร็จสิ้นการติดตั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรายการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

msupdate.monitor.progress.queued

เหตุการณ์นี้บันทึกรายการอัปเดตที่อยู่ในคิว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรายการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

Office.Apple.Licensing.ReportLicenseStatusData

เหตุการณ์จะถูกทริกเกอร์เมื่อเปิดใช้แอปพลิเคชัน Mac Office ข้อมูลนี้ถูกใช้เพื่อตรวจสอบสถานะการให้สิทธิการใช้งานและระบุว่าไคลเอ็นต์ Office ไม่สามารถเรียกข้อมูลได้หรือไม่ สถานะสิทธิการใช้งานจะใช้เพื่อทราบการอัปเดตที่จะให้

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • OfficeActivationLicense - ชนิดของสิทธิการใช้งานการเปิดใช้งานที่ใช้

Optinnotificationaction

[เหตุการณ์นี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

เหตุการณ์นี้บันทึกการตอบสนองของผู้ใช้ต่อกล่องโต้ตอบการเลือกรับการลงทะเบียนการอัปเดตแบบไม่แจ้งให้ทราบ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อความแบบคงที่ซึ่งแสดงการเลือกของผู้ใช้สำหรับการเลือกรับดาวน์โหลดอัตโนมัติและติดตั้ง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.autodismiss

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ากล่องโต้ตอบการอัปเดตที่บังคับที่แสดงจะถูกปิดเนื่องจากไม่มีการใช้งานของผู้ใช้ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่บังคับที่ดำเนินการโดยไม่มีผู้ใช้ป้อนข้อมูลให้กับการแจ้งเตือนที่แสดง เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อลดการขัดจังหวะ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่ [เขตข้อมูลนี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฎอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - ข้อความแบบคงที่

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.close

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้ได้เลือกที่จะปิดกล่องโต้ตอบการอัปเดตที่บังคับ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่ถูกบังคับที่ถูกเลื่อนโดยการดำเนินการของผู้ใช้ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อลดการขัดจังหวะ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.completeautodismiss

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการแสดงผลการอัปเดตที่บังคับจากฟีเจอร์กำหนดเวลาจะถูกยกเลิกเนื่องจากไม่มีการใช้งานของผู้ใช้ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่บังคับที่ดำเนินการโดยไม่มีผู้ใช้ป้อนข้อมูลให้กับการแจ้งเตือนที่แสดง เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อลดการขัดจังหวะสำหรับฟีเจอร์กำหนดเวลาสิ้นสุด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.completeclose

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การสร็จสมบูรณ์ของการอัปเดตที่บังคับ เหตุการณ์นี้ใช้เพื่อช่วยตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.display

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ากล่องโต้ตอบการอัปเดตที่บังคับปรากฏขึ้นแล้ว เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตที่บังคับและเราใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.displayfinalhour

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ากล่องโต้ตอบการอัปเดตที่บังคับชั่วโมงสุดท้ายปรากฏขึ้นแล้ว เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตที่บังคับและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.done

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการอัปเดตที่บังคับเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตที่บังคับและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.enabled

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อ Microsoft Auto Update (MAU) กำหนดว่าการอัปเดตที่บังคับสามารถใช้งานได้ เหตุการณ์นี้ใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Enabled - ระบุว่าเปิดใช้งานการอัปเดตที่บังคับอยู่หรือไม่

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • InvalidUpdates - จำนวนของการอัปเดตที่บังคับที่ตั้งค่าด้วยเวอร์ชันการอัปเดตที่ไม่ถูกต้อง

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.forcedupdatedismiss

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ากล่องโต้ตอบการอัปเดตที่บังคับชั่วโมงสุดท้ายที่แสดงจะถูกยกเลิกเนื่องจากไม่มีการใช้งานของผู้ใช้ เหตุการณ์นี้จะถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของการอัปเดตที่บังคับที่ดำเนินการโดยไม่มีผู้ใช้ป้อนข้อมูลให้กับการแจ้งเตือนที่แสดง เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อปรับปรุงส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อลดการขัดจังหวะ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่ [เขตข้อมูลนี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฎอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - ข้อความแบบคงที่

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.forcequitandupdatenow

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การอัปเดตที่บังคับที่เริ่มต้นดดยผู้ใช้ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.forceterminate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นของการอัปเดตที่บังคับด้วยแอปพลิเคชันถูกบังคับยกเลิก เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าวและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีจำนวนของแอปพลิเคชันที่จะต้องถูกยกเลิก

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.quitandupdatenow

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้ได้เลือกที่จะปิดแอปพลิเคชันและใช้การอัปเดต เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.snooze

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้ได้เลือกที่จะเลื่อนการอัปเดตที่บังคับ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Duration - ข้อความที่ระบุระยะเวลาของการเลื่อนการเตือน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่ [เขตข้อมูลนี้ถูกลบออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฎอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.terminate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นของการอัปเดตที่บังคับที่มีแอปพลิเคชันที่ถูกบังคับยกเลิก เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าวและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีจำนวนของแอปพลิเคชันที่จะต้องถูกยกเลิก

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauforcedupdate.updatenow

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้ได้เลือกที่จะอัปเดตแอปพลิเคชันเดี๋ยวนี้ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์การอัปเดตที่บังคับ

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

sauupdateinfoprovider

เหตุการณ์นี้จะบันทึกเมื่อใดก็ตามที่คีย์ไฟล์กำกับจะหายไปจากเอกสารประกอบ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีสตริงที่ใช้เพื่อค้นหาตำแหน่งที่ตั้งหรือขนาดการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.applaunchdetected

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าแอปพลิเคชันถูกเปิดใช้งานในขณะที่กำลังดำเนินการอัปเดต เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อกำหนดปริมาณของแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานในระหว่างการอัปเดตและใช้สำหรับการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ในรุ่นที่วางจำหน่ายในอนาคต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - ระบุว่าแอปที่เปิดใช้งานถูกยกเลิกเรียบร้อยแล้ว

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

update.appterminationreceived

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าแอปพลิเคชันที่มีการอัปเดตที่ถูกบล็อกถูกยกเลิกแม้ว่า Microsoft Auto Update (MAU) จะสามารถดำเนินการต่อด้วยการอัปเดตได้ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ระบุว่ามีอินสแตนซ์อื่นของแอปพลิเคชันที่ยังกำลังทำงานอยู่และป้องกันไม่ให้ MAU ดำเนินการต่อหรือไม่

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความคงที่ที่ระบุ MAU จะดำเนินการต่อด้วยการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

update.blockedappclosed

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Auto Update (MAU) ตรวจพบว่าแอปพลิเคชันที่มีการอัปเดตที่ถูกบล็อกปิดลงและสามารถดำเนินการอัปเดตต่อได้ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

update.blockedinstallskip

เหตุการณ์นี้บันทึกข้อผิดพลาดที่พบเมื่อพยายามข้ามการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.clientsession

เหตุการณ์นี้ได้รับการรายงานเมื่อสถานะของอุปกรณ์ไคลเอ็นต์เปลี่ยน ทำให้ Microsoft Update Assistant หยุดชั่วคราวหรือดำเนินการอัปเดตต่อ เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ระบุว่า Microsoft Auto Update (MAU) กำลังดำเนินการต่อหรือหยุดชั่วคราว

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.clonedisablereason

เหตุการณ์นี้จะบันทึกเงื่อนไขที่ฟีเจอร์ Install-On-Clone ถูกปิดใช้งานในการอัปเดตเฉพาะ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจสอบสถานภาพฟีเจอร์ Install-On-Clone และเพื่อมอบบริการที่ปรับปรุง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • เหตุผล – เหตุผลว่าทำไม Install On Clone จึงถูกปิดใช้งานในการอัปเดตนี้

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.download.begin

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่มต้นกระบวนการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • IsRepair - ระบุว่าการอัปเดตนั้นสำหรับการซ่อมแซมการอัปเดตที่ล้มเหลวหรือไม่

  • Payload - ระบุว่ามีความพยายามดำเนินการดาวน์โหลดก่อนหน้านี้หรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

update.download.finish

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเสร็จสิ้นของเฟสการดวาน์โหลดสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • IsRepair - ระบุว่าการอัปเดตนั้นสำหรับการซ่อมแซมการอัปเดตที่ล้มเหลวหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

update.downloadresume

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่พบขณะพยายามดำเนินการดาวน์โหลดต่อหลังจากการชั่วคราว เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ระบุลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

update.error

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่พบขณะพยายามอัปเดตแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนไว้ เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.installcleanupforapp

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการติดตั้งการอัปเดตนี้เสร็จสมบูรณ์และ Microsoft Auto Update (MAU) จะถูกทำลาย เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppState - สถานะของแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนไว้ อาจแสดงข้อผิดพลาด การซ่อมแซมที่ค้างอยู่ และอื่นๆ

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

update.installupdateforapp

เหตุการณ์นี้ใช้ในการรายงานเกี่ยวกับการเริ่มต้นกระบวนการติดตั้งการอัปเดตแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ข้อผิดพลาดที่พบ ถ้ามี

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

update.installupdateforapp.success

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับสถานะของงานติดตั้ง เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • ForcedUpdate - การบ่งชี้สตริงว่าการอัปเดตถูกบังคับโดยผู้ดูแลระบบ IT หรือไม่

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ระบุว่ามีการแสดงมุมมองความคืบหน้าในระหว่างกระบวนการติดตั้งหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - การบ่งชี้ความสำเร็จที่ส่งกลับจากงานติดตั้ง

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

Update.InstallVariance

เหตุการณ์นี้ใช้เพื่อคำนวณเมตริกสถานภาพการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับ MAU เหตุการณ์นี้อนุญาตให้เราตรวจสอบการวัดความสำเร็จของการติดตั้งฟีเจอร์ที่มีลำดับความสำคัญก่อนและตรวจสอบความสมบูรณ์ของฟีเจอร์

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรายการรหัสแอปพลิเคชันและลำดับความสำคัญของการติดตั้งที่สอดคล้องกันที่แสดงเป็นตัวเลข

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.multipleappupdates

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการอัปเดตหลายแอปพลิเคชันกำลังดำเนินการในพื้นหลัง เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนของแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.previousidnil

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ามีการดาวน์โหลดแพคเกจการอัปเดตซ่อมแซมแต่ไม่มีข้อมูลดาวน์โหลดก่อนหน้า เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - ระบุลักษณะของข้อผิดพลาดที่พบ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

update.queueinstallforapp

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าแพคเกจการอัปเดตที่ดาวน์โหลดได้ถูกวางไว้ในคิวสำหรับการติดตั้ง เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความคงที่ที่ระบุว่าจำเป็นต้องปิดแอปพลิเคชัน เมื่อปรากฏ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่ปรากฏในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลดไว้

update.relaunchafterupdate

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าการอัปเดตแอปพลิเคชันเสร็จสมบูรณ์แล้วและจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง เหตุการณ์นี้สร้างส่วนหนึ่งของกระบวนการการอัปเดตและใช้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error - มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดใดๆ ที่พบขณะพยายามเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdateID - ตัวระบุสำหรับการอัปเดตแอปพลิเคชัน

update.timerforapptermination

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การเริ่ม/สิ้นสุดการจับเวลาสำหรับการตรวจสอบสถานะของแอปพลิเคชัน เหตุการณ์นี้จะมาเป็นคู่และใช้ในการกำหนดวัตถุตัวจับเวลาทั้งหมดจะถูกเอาออกเมื่อมีความคืบหน้าในการอัปเดตแอปพลิเคชัน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ระบุว่าตัวจับเวลาถูกเพิ่มหรือถูกเอาออก

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatecore.appregistration

เหตุการณ์นี้บันทึกความพยายามที่จะลงทะเบียนแอปและผลลัพธ์/เหตุผล เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีตัวระบุที่ใช้ในการติดตามกิจกรรมการอัปเดต การบ่งชี้ว่ามีการกำหนดลักษณะพร้อมใช้งานหรือไม่ การบ่งชี้ว่าเป็นการลงทะเบียนอีกครั้งหรือไม่และการบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนหรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatecore.loadinglaunchagent

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่ากำลังโหลดเปิดใช้เอเจนต์ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatecore.runnstaskcommand

เหตุการณ์นี้รายงานเกี่ยวกับข้อผิดพลาดขณะพยายามเปิดใช้งาน เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีเส้นทางไปยังคำสั่งที่กำลังดำเนินการ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatecore.server.connectionfail

เหตุการณ์นี้บันทึกข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นขณะเข้าถึง CDN เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเซิร์ฟเวอร์ ว่าเซิร์ฟเวอร์ถูกต้องหรือไม่และเซิร์ฟเวอร์เข้าถึงได้หรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatecore.server.nullurl

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่ระบุว่าไม่สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ระบุได้ เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อระบุอัตราล้มเหลวในการอัปเดตที่เกิดจากปัญหาเครือข่าย

โดยจะรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefilterhelper.cannotretrievebuilddate

เราสามารถกรองการอัปเดตผ่านบริการ MAU ได้เฉพาะเมื่อการอัปเดตที่เสนอนั้นไม่นานกว่าจำนวนวันที่กำหนด ตอนนี้เราจะบันทึกว่าเราไม่สามารถดึงวันที่จากเมตาดาต้าของแอปได้ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID ของแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefilterhelper.invalidappid

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่ระบุว่าไม่มีไฟล์กำกับที่ตรงกันที่สามารถพบได้ด้วยรหัสแอปพลิเคชันที่ดึงมาจากการตอบสนองของเว็บ เหตุการณ์นี้ใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มี ID ของแอปพลิเคชันในการตอบสนองของเว็บ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefilterhelper.invalidappidfromwebservices

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่ระบุว่ารหัสแอปพลิเคชันที่ดึงมาจากการตอบสนองของเว็บไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่คาดไว้ เหตุการณ์นี้ใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefilterhelper.invalidresponsefromupdatefiltering

เราสามารถกรองการอัปเดตผ่านบริการ MAU ได้เฉพาะเมื่อการอัปเดตที่เสนอนั้นไม่นานกว่าจำนวนวันที่กำหนด ที่นี่เราบันทึกวันที่หายไปจากเมตาดาต้าของแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID ของแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefilterhelper.missingbuilddate

เราสามารถกรองการอัปเดตผ่านบริการ MAU ได้เฉพาะเมื่อการอัปเดตที่เสนอนั้นไม่นานกว่าจำนวนวันที่กำหนด ที่นี่เราบันทึกวันที่หายไปจากเมตาดาต้าของแอป เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID ของแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefilterhelper.updatebypassedoldage

เราสามารถกรองการอัปเดตผ่านบริการ MAU ได้เฉพาะเมื่อการอัปเดตที่เสนอนั้นไม่นานกว่าจำนวนวันที่กำหนด ตอนนี้เราบันทึกบริการจะถูกเลี่ยงผ่านเนื่องจากวันที่อัปเดตเก่า เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID ของแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.appspecificupdatefilter

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองจาก Microsoft Auto Update (MAU) หรือเมื่อ MAU ตรวจหาการอัปเดตในพื้นหลังเป็นระยะๆ และเมื่อพบการอัปเดตแอปและมีการระบุตัวกรองการอัปเดตเฉพาะแอป ข้อมูลนี้จะถูกรวมเพื่อตรวจสอบการใช้งานตัวกรองการอัปเดต จํานวนการอัปเดตแอปที่ถูกกรอง และระบุสถานภาพของฟีเจอร์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม

  • ส่วนข้อมูล - คอลัมน์ทั่วไปที่มีข้อความเฉพาะเหตุการณ์

updatefinder.check.error

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่พบขณะตรวจหาการอัปเดต เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Code - รหัสข้อผิดพลาด

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Domain - โดเมนข้อผิดพลาด

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.check.start

เหตุการณ์นี้บันทึกเมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มต้นการดำเนินการตรวจสอบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดตที่จะเสนอ แอปพลิเคชันที่ลงทะเบียน และไฟล์ที่ดาวน์โหลดตำแหน่งที่ตั้งชั่วคราวจะถูกบันทึก

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.check.status

เหตุการณ์นี้รวบรวมสถานะการดำเนินการตรวจสอบการอัปเดต (ช่วงระยะจากการค้นหาจนถึงการดาวน์โหลด) เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดตที่จะเสนอ แอปพลิเคชันที่ลงทะเบียน และไฟล์ที่ดาวน์โหลดตำแหน่งที่ตั้งชั่วคราวจะถูกบันทึก

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.check.updatefound

เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่พบผลลัพธ์ในการอัปเดตการตรวจสอบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.check.updatenotfound

เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่การตรวจสอบการอัปเดตส่งผลให้ไม่มีการเสนอการอัปเดตเนื่องจากไม่พบการอัปเดต เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.check.uptodate

เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่การตรวจสอบการอัปเดตส่งผลให้ไม่มีการเสนอการอัปเดตเนื่องจากแอปทั้งหมดเป็นรุ่นล่าสุดอยู่แล้ว เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.offerupdates.invalidappid

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดขณะพยายามประเมินว่าการอัปเดตพร้อมใช้งานหรือไม่ เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • CatalogID - ตัวระบุสำหรับแค็ตตาล็อกที่เข้าถึง

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • IsNullID - ระบุว่า ID เป็น null หรือไม่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.offerupdates.minoscheckfail

เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่เราบล็อกการอัปเดตเนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ OS เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีเวอร์ชัน OS ขั้นต่ำตามที่ระบุในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.offerupdates.missingtrigger

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดขณะพยายามประเมินทริกเกอร์จากรายการอัปเดตของแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลด ซึ่งมีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • TriggerKey - คีย์ทริกเกอร์ที่พบในรายการกำกับ

  • Triggers - พจนานุกรมของทริกเกอร์ที่พบในรายการกำกับ

updatefinder.offerupdates.nullbundleforappid

เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า Microsoft Autoupdate ไม่สามารถโหลดข้อมูลกลุ่มสำหรับ ID แอปพลิเคชันที่ระบุในไฟล์กำกับที่ดาวน์โหลด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID ของแอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.offerupdates.updaterulematched

เหตุการณ์นี้แสดงว่าพบการอัปเดตสำหรับแอปและขั้นต้น เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID แอปพลิเคชันและข้อมูลเวอร์ชันกลุ่มแอป

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.registeredapps

เราบันทึกแอปที่ติดตั้ง/ลงทะเบียน/ควบคุมโดย MAU เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID แอปพลิเคชันและข้อมูลเวอร์ชันกลุ่มแอป

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.invalidsuiteversion

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดเวอร์ชันของชุดโปรแกรมในขณะที่ประเมินว่าการอัปเดตพร้อมใช้งานหรือไม่ เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Suit - ชื่อของชุดโปรแกรมภายใต้การพิจารณา

updatefinder.suite.keyvaluemissing

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดขณะพยายามเพิ่มแอปพลิเคชันลงในชุดโปรแกรม เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Suit - ชื่อแอปพลิเคชันของชุดโปรแกรมจะถูกเพิ่ม

updatefinder.suite.missingcollateral

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่การอัปเดตชุดโปรแกรมใช้ไม่ได้เนื่องจากไม่มีเอกสารประกอบ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความที่บ่งชี้ลักษณะของเหตุการณ์

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.staleversion

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่การอัปเดตชุดโปรแกรมใช้ไม่ได้เนื่องจากเวอร์ชันขั้นต้นเก่าเกินไป เราบันทึกเวอร์ชันขั้นต้นและ Suite AppId เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อชุด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.updateapplicable

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่การอัปเดตชุดโปรแกรมใช้ได้ เราบันทึกเวอร์ชันขั้นต้นและ Suite AppId เราบันทึกเวอร์ชันขั้นต้นและ Suite AppId เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อ ขั้นต้น และเวอร์ชันอัปเดตสำหรับชุด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.updatenotapplicabledefaultpath

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่ไม่มีการเสนอการอัปเดตชุดโปรแกรมเนื่องจากแอปพลิเคชันชุดโปรแกรมทั้งหมดไม่ได้ติดตั้งภายใต้เส้นทางเริ่มต้น เราบันทึกเวอร์ชันขั้นต้นและ Suite AppId เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อ ขั้นต้น และเวอร์ชันอัปเดตสำหรับชุด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.updatenotapplicableversion

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่ไม่มีการเสนอการอัปเดตชุดโปรแกรมเนื่องจากบางแอปพลิเคชันชุดโปรแกรมไม่ได้มีเวอร์ชันขั้นต้นเดียวกัน เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อ ขั้นต้น และเวอร์ชันอัปเดตสำหรับชุด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.updatenotoffered

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่ไม่มีการเสนอการอัปเดตชุดโปรแกรมเนื่องจากขนาดชุดโปรแกรมใหญ่กว่าการอัปเดตแต่ละรายการ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อชุด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatefinder.suite.updateoffered

การอัปเดตชุดโปรแกรม - เราบันทึกเมื่อใดก็ตามที่มีการเสนอการอัปเดตชุดโปรแกรม เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีชื่อ ขั้นต้น และเวอร์ชันอัปเดตสำหรับชุด

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatemanager.checkupdate

เหตุการณ์นี้บันทึกจํานวนการอัปเดตที่พบโดย Microsoft AutoUpdate ขณะตรวจหาการอัปเดตที่พร้อมใช้งาน Microsoft ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทํางานตามที่คาดไว้และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • ตรวจพบ - จํานวนการอัปเดตที่ตรวจพบ

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • IsMainThread - บูลีนที่ระบุว่าการดําเนินการจะถูกดําเนินการในเธรดหลักหรือไม่

  • Payload - มีจำนวนการอัปเดตที่พบ

  • Pending - จํานวนการอัปเดตที่รอดำเนินการ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

updatemanager.network

เหตุการณ์นี้จะบันทึกความพร้อมใช้งานของเครือข่าย เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App – กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language – ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong – เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel – การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID – ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model – รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType – ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild – เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name – ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time – เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck – การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry – ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId – ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • ServerReacheable – บูลีนที่ระบุว่าเครือข่ายพร้อมใช้งานหรือไม่

updatemanager.updatespending

เหตุการณ์นี้แสดงว่าพบการอัปเดตและอยู่ระหว่างการติดตั้ง เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีการบ่งชี้ว่างานกำลังเรียกใช้อยู่บนเธรดหลัก และจำนวนการอัปเดตที่ค้างอยู่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

UpdateStatus.Codesign

เหตุการณ์นี้รายงานสถานะจากการตรวจสอบความถูกต้องของ Microsoft Update Assistant codesign หลังจากติดตั้งการอัปเดตแอปพลิเคชัน เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่าเราให้บริการแพคเกจที่มีผลบังคับใช้และจะอัปเดตแอปพลิเคชันที่ติดตั้งเป็นเวอร์ชันล่าสุด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppID - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับการอัปเดต

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Error -ข้อผิดพลาดใดๆ ที่เห็นในระหว่างกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของ codesign

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • Success - ระบุว่าการตรวจสอบความถูกต้องของ codesign ประสบความสำเร็จหรือไม่

  • UpdateID - ระบุการนำการอัปเดตไปใช้โดยไม่ซ้ำกัน

  • UpdateName - ชื่อของการอัปเดตตามที่อธิบายไว้ในแฟ้มกำกับการอัปเดต

  • UpdatePkg - ชื่อของแพคเกจการอัปเดตที่นำไปใช้

urlutilities.getmauinfo

เหตุการณ์นี้รายงานข้อผิดพลาดที่พบในขณะเข้าถึงชุดแอปพลิเคชัน Microsoft Auto Update (MAU) เหตุการณ์นี้มีความสำคัญและใช้ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่รายงาน

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่พบ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.checkforsilentupdates

เหตุการณ์นี้แสดงว่าพบผู้สมัครการอัปเดตแบบไม่แจ้งให้ทราบ Microsoft ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทํางานตามที่คาดไว้และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Candidates - จํานวนการอัปเดตเบื้องต้นที่ถูกตรวจสอบ

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • ตรวจพบ - จํานวนการอัปเดตที่ตรวจพบ

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีจำนวนการอัปเดตที่พบและ ID แอปพลิเคชัน

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.deltaupdater

เหตุการณ์นี้บันทึกการโต้ตอบระหว่างโค้ดไคลเอ็นต์และเกตฟีเจอร์ที่ควบคุมว่าไคลเอ็นต์ควรอนุญาตให้มีการอัปเดต Delta หรือไม่ Microsoft ใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการอัปเดตทํางานตามที่คาดไว้และเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - ข้อความแบบคงที่

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • Reason - สตริงมีเหตุผลโดยละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

  • UpdaterType - สตริงที่ระบุชนิดของตัวอัปเดต (Full/FileDelta/BinaryDelta) ที่กําลังถูกนําไปใช้

webservices.serviceaction

เราบันทึกข้อผิดพลาดที่เป็นผลมาจากการตอบสนองของบริการเว็บที่ไม่คาดคิด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มีรายละเอียดของการกระทำที่ถูกผลักจากบริการเว็บ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.serviceresponse

เหตุการณ์นี้บันทึกการร้องขอไปยังบริการ MAU, เวลาตอบสนอง และข้อผิดพลาด เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID คำขอ, ชื่อแอปพลิเคชัน, เวลาตอบสนอง และ/หรือรหัสสถานะ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.silentupdate

เราบันทึกคำขอเพื่อตรวจสอบกฎการบังคับใช้ "กำลังอัปเดต" ได้แก่ เราต้องนำผู้ใช้จากรุ่น N ไปยังรุ่น N+1 เนื่องจากปัญหาหลักบางประการ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID คำขอ, ชื่อแอปพลิเคชัน, เวลาตอบสนอง และ/หรือรหัสสถานะ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.updatefiltering

เหตุการณ์นี้บ่งชี้การกรองที่ดำเนินการในรายการอัปเดตที่เกี่ยวข้องผ่านทางเว็บเซอร์วิส เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าบล็อกแอปพลิเคชันทำงานอย่างถูกต้องถ้าเราต้องบล็อกการอัปเดต

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck - วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนของการอัปเดตที่ถูกบล็อกผ่านทางเว็บเซอร์วิส

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.webcontent

เราบันทึกคำขอและคำตอบที่ได้รับในบริการเว็บ เราใช้เหตุการณ์นี้เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการอัปเดตทำงานได้ตามที่คาดหวังและเพื่อช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App - กระบวนการแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language - ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - โมเดลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time - เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowTocheck - การตั้งค่าสำหรับการตรวจสอบการอัปเดต

  • Payload - มี ID ผู้โทรจากบริการเว็บ

  • PipelineInfo_ClientCountry - ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - 3 ออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId - ตัวระบุสำหรับเซสชัน

webservices.whatsnew

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อ Microsoft Auto Update (MAU) สอบถามเว็บเซอร์วิสถึงฟีเจอร์ "มีอะไรใหม่" สำหรับแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียน เหตุการณ์นี้มีไว้เพื่อตรวจสอบสถานภาพของฟีเจอร์ "มีอะไรใหม่"

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • App - กระบวนการของแอปพลิเคชันที่ส่งเหตุการณ์

  • AppInfo_Language -ภาษาที่แอปพลิเคชันใช้งานอยู่

  • AppVersionLong - เวอร์ชันของแอปพลิเคชัน

  • Channel - การกำหนดลักษณะสำหรับผู้ชม

  • Device_NetworkCountry -ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • DeviceID - ตัวระบุอุปกรณ์

  • DeviceInfo_Model - รุ่นฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์

  • DeviceInfo_NetworkType - ประเภทของเครือข่าย (Wi-Fi, แบบผ่านสาย, ไม่ทราบ)

  • DeviceInfo_OsBuild - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Event_ReceivedTime - เวลาที่ได้รับการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventInfo_Name - ชื่อของเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกบันทึก

  • EventInfo_Time -เวลาที่เหตุการณ์ที่บันทึกเกิดขึ้น

  • HowToCheck -วิธีการตรวจสอบการตั้งค่า

  • Payload - ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนแอปพลิเคชันที่มีข้อมูลว่ามีอะไรใหม่

  • PipelineInfo_ClientCountry -ประเทศหรือภูมิภาคของอุปกรณ์ (ตามที่อยู่ IP)

  • PipelineInfo_ClientIp - สามออกเตตแรกของที่อยู่ IP

  • SessionId -ตัวระบุสำหรับเซสชัน

เหตุการณ์การซิงค์ OneNote

Office.OneNote.Storage.NotebookSyncResult

เหตุการณ์นี้บันทึกผลลัพธ์การซิงค์ของสมุดบันทึก ซึ่งใช้สําหรับการคํานวณจํานวนเป้าหมายการซิงค์ที่ไม่ซ้ำกันเมื่อคํานวณคะแนนการซิงค์ OneNote

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม

  • CachedError_Code - รหัสที่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรและตัวเลขซึ่งใช้เพื่อระบุลักษณะของข้อผิดพลาดที่แคช และ/หรือสาเหตุที่เกิดขึ้น

  • CachedError_Description – คำอธิบายของข้อผิดพลาดที่แคช

  • CachedError_Tag – บ่งชี้ตำแหน่งที่รหัสได้ส่งข้อผิดพลาดที่แคช

  • CachedError_Type – ชนิดของข้อผิดพลาดที่แคช เช่น Win32Error เป็นต้น

  • ExecutionTime – เวลาหน่วยมิลลิวินาทีที่ใช้ในการทำซ้ำสมุดบันทึก

  • Gosid – ID เนื้อที่วัตถุส่วนกลาง

  • IdentityType – ชนิดข้อมูลประจำตัว เช่น Windows Live, ID องค์กร เป็นต้น

  • InitialReplicationInSession – การทำซ้ำนี้เป็นการทำซ้ำสมุดบันทึกครั้งแรกหลังจากเปิดขึ้นมาใช่หรือไม่

  • IsBackgroundSync – พื้นหลังนี้ซิงค์อยู่หรือไม่

  • IsCachedErrorSuppressed – ข้อผิดพลาดที่แคชถูกระงับใช่หรือไม่

  • IsCachedErrorUnexpected – ไม่ได้คาดหวังข้อผิดพลาดที่แคชนี้ใช่หรือไม่

  • IsNotebookErrorSuppressed – ข้อผิดพลาดการซิงค์ระดับสมุดบันทึกถูกระงับใช่หรือไม่

  • IsNotebookErrorUnexpected – ไม่ได้คาดหวังข้อผิดพลาดการซิงค์ระดับสมุดบันทึกใช่หรือไม่

  • IsSectionErrorSuppressed – ข้อผิดพลาดการซิงค์ส่วนถูกระงับใช่หรือไม่

  • IsSectionErrorUnexpected – ไม่ได้คาดหวังข้อผิดพลาดการซิงค์ส่วนใช่หรือไม่

  • IsUsingRealtimeSync – การซิงค์สมุดบันทึกกำลังใช้การซิงค์เนื้อหาหน้าแบบสมัยใหม่อยู่หรือไม่

  • LastAttemptedSync – ประทับเวลาเมื่อมีการพยายามซิงค์สมุดบันทึกครั้งล่าสุด

  • LastBackgroundSync – ประทับเวลาเมื่อมีการพยายามซิงค์พื้นหลังครั้งล่าสุด

  • LastNotebookViewedDate – วันที่ดูสมุดบันทึกครั้งล่าสุด

  • LastSuccessfulSync – ประทับเวลาเมื่อซิงค์สมุดบันทึกสำเร็จก่อนหน้านี้

  • NeedToRestartBecauseOfInconsistencies – การซิงค์จำเป็นต้องรีสตาร์ตเนื่องจากความไม่สอดคล้องกันหรือไม่

  • NotebookErrorCode – ข้อผิดพลาดการซิงค์ระดับสมุดบันทึกที่บันทึกบนพื้นที่กราฟของสมุดบันทึก

  • NotebookId – ID สมุดบันทึก

  • NotebookType – ชนิดสมุดบันทึก

  • ReplicatingAgainBecauseOfInconsistencies – การซิงค์ได้รีสตาร์ตเนื่องจากความไม่สอดคล้องกันหรือไม่

  • SectionError_Code – รหัสที่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรและตัวเลขซึ่งใช้เพื่อระบุลักษณะของข้อผิดพลาดการซิงค์ส่วน และ/หรือสาเหตุที่เกิดขึ้น

  • SectionError_Description – คำอธิบายของข้อผิดพลาดการซิงค์ส่วน

  • SectionError_Tag – บ่งชี้ตำแหน่งที่รหัสได้ส่งข้อผิดพลาดการซิงค์ส่วน

  • SectionError_Type – ชนิดของข้อผิดพลาดการซิงค์ส่วน เช่น Win32Error เป็นต้น

  • Success – การซิงค์สมุดบันทึกประสบความสำเร็จหรือไม่

  • SyncDestinationType – ชนิดปลายทางการซิงค์ ได้แก่ OneDrive หรือ SharePoint Online

  • SyncId – ตัวเลขที่ไม่ซ้ำกันของการซิงค์สมุดบันทึกแต่ละรายการ

  • SyncWasFirstInSession – การซิงค์นี้เป็นการซิงค์ครั้งแรกในเซสชันปัจจุบันใช่หรือไม่

  • SyncWasUserInitiated – การซิงค์นี้เป็นการซิงค์ที่เริ่มโดยผู้ใช้ใช่หรือไม่

  • TenantId – ID ผู้เช่า SharePoint

  • TimeSinceLastAttemptedSync – เวลาตั้งแต่การพยายามซิงค์สมุดบันทึกครั้งล่าสุด

  • TimeSinceLastSuccessfulSync – เวลาตั้งแต่การซิงค์สมุดบันทึกสำเร็จครั้งล่าสุด

Office.OneNote.Storage.RealTime.WebSocketSessionInfo

เหตุการณ์นี้บันทึกผลลัพธ์การซิงค์ WebSocket สำหรับการซิงค์เนื้อหาเพจสมัยใหม่ของ OneNote และการซิงค์เนื้อหาลำดับชั้นสมัยใหม่ โดยใช้สำหรับคำนวณจำนวนซิงค์เป้าหมายเฉพาะเมื่อคำนวณคะแนนซิงค์ OneNote นอกจากนี้ยังใช้สำหรับแดชบอร์ดประสิทธิภาพการซิงค์สมัยใหม่ของ OneNote

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CloseReason - เหตุผลที่ปิด WebSocket เช่น การปิดผิดปกติ ฯลฯ

  • DataIsFreshCount - จำนวนคำขอการดึงที่สำเร็จในเซสชัน WebSocket

  • DeviceSessionId - ID เซสชันอุปกรณ์

  • DownloadCount - จำนวนการดาวน์โหลดในเซสชัน WebSocket

  • Error - โดยพื้นฐานคือ Exception_Type + Exception_Description + Exception_Code + Exception_Tag

  • Exception_Code - รหัสที่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้เพื่อระบุลักษณะของข้อผิดพลาด และ/หรือสาเหตุที่เกิดขึ้น

  • Exception_Description - คำอธิบายของข้อผิดพลาด

  • Exception_Tag - บ่งชี้ตำแหน่งที่รหัสได้ส่งข้อผิดพลาด

  • Exception_Type - ชนิดของข้อผิดพลาด เช่น Win32Error เป็นต้น

  • FirstUpdateSize - ความยาวข้อความอัปเดตครั้งแรก

  • HasError - มีข้อผิดพลาดระหว่างเซสชัน WebSocket หรือไม่

  • IsEducationNotebook - เป็นสมุดบันทึกการศึกษาสมุดบันทึกปัจจุบันหรือไม่

  • IsHierarchyResource - เป็นทรัพยากรในปัจจุบันของหน้าหรือส่วน

  • NotebookId - ID สมุดบันทึก OneNote

  • OperationWithError - การดำเนินการใดที่เกิดข้อผิดพลาด เช่น WebSocket.Close, WebSocket.Open ฯลฯ

  • ResourceId - ID ทรัพยากรหน้าหรือส่วนของ OneNote

  • SectionId - ID ส่วนของ OneNote

  • ServerSessionId - ID เซสชันที่ใช้เพื่อเชื่อมโยงคำขอ WebSocket กับ onenote.com

  • SessionDurationInMs - ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีของเซสชัน WebSocket

  • TenantId - ID ผู้เช่า SharePoint

  • TimeToFirstUpdateInMs - เวลาเป็นมิลลิวินาทีที่ใช้รับการอัปเดตครั้งแรกจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์หลังจากสร้างเซสชัน WebSocket

  • UploadAckCount - จำนวนการรับรู้การอัปโหลดในเซสชัน WebSocket

  • WebUrl - URL เว็บที่ถูกย่อของ PII

Office.OneNote.Storage.SectionSyncResult

เหตุการณ์นี้บันทึกผลลัพธ์การซิงค์ส่วน ซึ่งใช้สําหรับการคํานวณจํานวนเป้าหมายการซิงค์ที่ไม่ซ้ำกันเมื่อคํานวณคะแนนการซิงค์ OneNote นอกจากนี้ยังใช้สำหรับแดชบอร์ดประสิทธิภาพการซิงค์สมัยใหม่ของ OneNote

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม

  • Error_Code - รหัสที่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้เพื่อระบุลักษณะของข้อผิดพลาด และ/หรือสาเหตุที่เกิดขึ้น

  • Error_Description - คำอธิบายของข้อผิดพลาด

  • Error_Tag - บ่งชี้ตำแหน่งที่รหัสได้ส่งข้อผิดพลาด

  • Error_Type - ชนิดของข้อผิดพลาด เช่น Win32Error เป็นต้น

  • ErrorLast - รหัสข้อผิดพลาดของข้อผิดพลาดที่เห็นครั้งสุดท้าย

  • ExecutionTime - เวลาหน่วยมิลลิวินาทีที่ใช้ในการทำซ้ำส่วน

  • InitialReplicationInSession - การทำซ้ำนี้เป็นการทำซ้ำสมุดบันทึกครั้งแรกหลังจากเปิดขึ้นมาใช่หรือไม่

  • IsAttachedViaShortcut - ส่วนถูกแนบมาด้วยทางลัดหรือไม่

  • IsBackgroundSync - พื้นหลังนี้ซิงค์อยู่หรือไม่

  • IsEncrypted - ส่วนถูกเข้ารหัสหรือไม่

  • IsErrorSuppressed - ข้อผิดพลาดถูกระงับใช่หรือไม่

  • IsErrorTransient - ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นชั่วคราวหรือไม่

  • IsErrorUnexpected - ไม่ได้คาดหวังข้อผิดพลาดนี้ใช่หรือไม่

  • IsUsingRealtimeSync - การซิงค์ส่วนกำลังใช้การซิงค์เนื้อหาหน้าแบบสมัยใหม่อยู่หรือไม่

  • NotebookId - ID สมุดบันทึก

  • NotebookPath - URL สมุดบันทึกที่ถูกย่อของ PII

  • SectionPath - URL ส่วนที่ถูกย่อของ PII

  • SectionReplicatingIsOutbound - การจำลองแบบนี้เป็นการจำลองแบบขาออกหรือไม่

  • SectionReplicatingIsSameIdentity - การจำลองแบบนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลประจำตัวของไฟล์เดียวกันหรือไม่

  • SectionResourceId - ID ทรัพยากรส่วนของ OneNote

  • Success - การซิงค์ส่วนประสบความสำเร็จหรือไม่

  • SyncDestinationType - ชนิดปลายทางการซิงค์ ได้แก่ OneDrive หรือ SharePoint Online

  • SyncId - ตัวเลขที่ไม่ซ้ำกันของการซิงค์ส่วนแต่ละรายการ

  • SyncWasFirstInSession - การซิงค์นี้เป็นการซิงค์ครั้งแรกในเซสชันปัจจุบันใช่หรือไม่

  • SyncWasUserInitiated - การซิงค์นี้เป็นการซิงค์ที่เริ่มโดยผู้ใช้ใช่หรือไม่

  • TenantId - ID ผู้เช่า SharePoint

  • UnmappedGosid - ID ส่วนก่อนที่จะใช้การแมป GUID

Office.OneNote.Storage.SyncScore

เหตุการณ์นี้บันทึกปัจจัยลบทั้งหมดในประสบการณ์การซิงค์ที่ผู้ใช้มองเห็นได้ ใช้เพื่อคำนวณคะแนนซิงค์ OneNote ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินประสบการณ์การซิงค์ของผู้ใช้ OneNote

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม

  • AutoShowSyncStatus - สถานะการซิงค์จะแสดงโดยอัตโนมัติหรือไม่

  • Cause - สิ่งที่ทำให้หน้า/ส่วนของ OneNote ย้ายไปยังส่วนที่วางผิดตำแหน่ง

  • Context - enum จัดประเภทสิ่งที่ผู้ใช้พยายามทำ เช่น เปลี่ยนชื่อส่วน เปิดสมุดบันทึกอีกครั้ง ฯลฯ

  • Error_Code - รหัสที่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้เพื่อระบุลักษณะของข้อผิดพลาด และ/หรือสาเหตุที่เกิดขึ้น

  • Error_Description - คำอธิบายของข้อผิดพลาด

  • Error_Tag - บ่งชี้ตำแหน่งที่รหัสได้ส่งข้อผิดพลาด

  • Error_Type - ชนิดของข้อผิดพลาด เช่น Win32Error เป็นต้น

  • ErrorText - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่แสดงใน UI

  • Explanation - อธิบายประเภทการเปลี่ยนแปลงขาออกที่ค้างอยู่ที่ต้องย้ายไปยังส่วนที่วางผิดตำแหน่ง

  • fishbowlType - ประเภท fishbowl เช่น หน้า fishbowl, ส่วน fishbowl ฯลฯ

  • IDS - ตัวระบุจำนวนเต็มสำหรับข้อความที่แสดงใน UI

  • idsFishbowl - ตัวระบุจำนวนเต็มสำหรับข้อผิดพลาด fishbowl ที่แสดงใน UI

  • IsUsingRealtimeHierarchySync - กำลังใช้การซิงค์ลำดับชั้นแบบสมัยใหม่หรือไม่

  • NotebookId - ID สมุดบันทึก

  • PageSyncUIState - สตริงสถานะการซิงค์หน้า เช่น UpToDate, Syncing, SaveOffline, SyncError ฯลฯ

  • ServerGosid - ID ทรัพยากรสำหรับหน้าข้อขัดแย้งที่สร้างขึ้นใหม่

  • Source - enum บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ใดที่ทริกเกอร์ UI ได้แก่ สร้างภาพ redx ใหม่, ข้อผิดพลาดในการซิงค์ UI, การแสดงกล่องโต้ตอบผิดพลาด ฯลฯ

OneNote.App.Provisioning.MoveLocalNotebookToOnlineNotebookFailed

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อการย้ายสมุดบันทึกภายในเครื่องไปยังไดรฟ์ล้มเหลว สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ล่าช้าโดยเฉพาะ เมื่อผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้ สมุดบันทึกภายในเครื่องจะถูกถ่ายโอนไปยังที่เก็บข้อมูลบน OneDrive ของตน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorMsg - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่สอดคล้องกับความล้มเหลว

OneNote.Storage.ConnectivityChanged

บันทึกเหตุการณ์ถ้าผู้ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่ การดำเนินการนี้จะใช้เพื่อเชื่อมโยงกับเมตริกประสิทธิภาพการทำงานของการซิงค์อื่นๆ ด้วยการอนุญาตให้เราละเว้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้ใช้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจากเราไม่ได้คาดหวังให้เวลาแฝงของบริการได้รับการยอมรับโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การทำเช่นนี้ช่วยให้เราคำนวณจำนวนเซสชันที่ถูกต้องสำหรับเมตริกของเราในส่วนของลูกค้า (ต่อผู้เช่า ต่อภาค) นอกจากนี้ เรายังใช้เพื่อกรองรายงานข้อผิดพลาดด้วย เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการซิงค์มากมายที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายแต่จะตรวจสอบการรับรองอย่างอื่น

ถ้าเราไม่ได้รับข้อมูลนี้ เราจะไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างถูกต้อง หรือระบุว่ามีข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้พบจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • InternetConnectivityNowAvailable - ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสถานะการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตก็จะเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

OneNote.Storage.LegacyInboundLatency

สัญญาณสำคัญที่ใช้ในการติดตามประสิทธิภาพการทำงานของการซิงค์ขาเข้าที่สื่อสารโดยตรงกับ SharePoint รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงช่วยให้เราสามารถตรวจทานและตรวจสอบประสิทธิภาพของการอัปโหลดข้อมูลไปยังบริการของเราได้ สัญญาณนี้จะได้รับการรวบรวมสำหรับการดาวน์โหลดประสิทธิภาพการทำงานที่เลวร้ายที่สุดใน 300 วินาทีสุดท้ายเท่านั้น (กำหนดค่าจำนวนวินาทีได้โดย Microsoft โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและเงื่อนไขของบริการ)

เราใช้สัญญาณนี้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของบริการ โดยทำให้เราสามารถดูผู้เช่าที่กำลังพบปัญหาความช้าอย่างมากสำหรับการนำข้อมูลเข้าไปยังบริการของเรา ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผู้ใช้อัปโหลดขณะพบปัญหาความล่าช้าในการนำเข้าและแพร่กระจายในผู้เช่าที่มีปัญหาเวลาแฝง นอกจากนี้ยังใช้ในการรายงานสถานภาพบริการและประสิทธิภาพการทำงานกับลูกค้าของเราเพื่อวัดแนวโน้มในช่วงเวลาและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานทางวิศวกรรมโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่มีข้อมูลนี้ เราก็จะตรวจสอบประสิทธิภาพในการดาวน์โหลดที่เพียงพอเมื่อผู้ใช้ซิงค์การเปลี่ยนแปลงจาก SharePoint ไปยังคอมพิวเตอร์ของตนเอง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • IsEducationNotebook - Bool ที่ระบุว่าสมุดบันทึกเป็นสมุดบันทึกการศึกษาหรือไม่

  • NotebookId - รหัสสมุดบันทึกที่อัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ

  • TimeToConfirmSyncedWithServerInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่จะดำเนินการอัปโหลด

OneNote.Storage.LegacyOutboundLatency

สัญญาณสำคัญที่ใช้ในการติดตามประสิทธิภาพการทำงานของการซิงค์ขาออกที่สื่อสารโดยตรงกับ SharePoint รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงช่วยให้เราสามารถตรวจทานและตรวจสอบประสิทธิภาพของการอัปโหลดข้อมูลไปยังบริการของเราได้ สัญญาณนี้จะได้รับการรวบรวมสำหรับการดาวน์โหลดประสิทธิภาพการทำงานที่เลวร้ายที่สุดใน 300 วินาทีสุดท้ายเท่านั้น (กำหนดค่าจำนวนวินาทีได้โดย Microsoft โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและเงื่อนไขของบริการ)

เราใช้สัญญาณนี้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของบริการ โดยทำให้เราสามารถดูผู้เช่าที่กำลังพบปัญหาความช้าอย่างมากสำหรับการนำข้อมูลออกไปยังบริการของเรา ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผู้ใช้อัปโหลดขณะพบปัญหาความล่าช้าในการนำออกและแพร่กระจายในผู้เช่าที่มีปัญหาเวลาแฝง นอกจากนี้ยังใช้ในการรายงานสถานภาพบริการและประสิทธิภาพการทำงานกับลูกค้าของเราเพื่อวัดแนวโน้มในช่วงเวลาและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานทางวิศวกรรมโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่มีข้อมูลนี้ เราก็จะตรวจสอบประสิทธิภาพที่เพียงพอเมื่อการซิงค์ผู้ใช้เปลี่ยนไปเป็น SharePoint

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • IsEducationNotebook - Bool ที่ระบุว่าสมุดบันทึกเป็นสมุดบันทึกการศึกษาหรือไม่

  • NotebookId - รหัสสมุดบันทึกที่อัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ

  • TimeToConfirmSyncedWithServerInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่จะดำเนินการอัปโหลด

OneNote.Storage.RealTime.FileDataObjectDownload

สัญญาณสำคัญที่ใช้ในการติดตามประสิทธิภาพการทำงานเมื่อผู้ใช้นำเข้าวัตถุข้อมูลไฟล์ (เช่น ไฟล์หรือรูปภาพที่ฝัง) ที่ดาวน์โหลดโดยตรงจากบริการของเราและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการซิงค์ในหน้า ส่วน หรือสมุดบันทึก สัญญาณนี้จะได้รับการรวบรวมสำหรับการดาวน์โหลดประสิทธิภาพการทำงานที่เลวร้ายที่สุดใน 300 วินาทีสุดท้ายเท่านั้น (กำหนดค่าจำนวนวินาทีได้โดย Microsoft โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและเงื่อนไขของบริการ)

การดำเนินการนี้จะใช้เพื่อตรวขสอบประสิทธิภาพการบริการและประสิทธิภาพการทำงานโดยช่วยให้เราสามารถดูผู้เช่าที่พบการดาวน์โหลดข้อมูลที่มีความล่าช้าอย่างมากได้ รวมถึงระดับการแพร่กระจายของปัญหาเกี่ยวกับเวลาแฝงและรายงานเกี่ยวกับลักษณะการทำงานของเราในเวลาซึ่งช่วยให้เราสามารถวัดแนวโน้มประสิทธิภาพของบริการได้ ถ้าเราเห็นเวลาแฝงที่ยอมรับไม่ได้สำหรับวัตถุไฟล์ เราจะใช้ข้อมูลนี้ในการเชื่อมโยงกับสัญญาณอื่นๆ จากลูกค้าและบริการตามวัตถุเพื่อปรับปรุงกระบวนการดาวน์โหลดของเรา นอกจากนี้ เรายังแยกข้อมูลโดยยึดตามนามสกุลของวัตถุไฟล์ที่ดาวน์โหลดด้วย เนื่องจากเรามีความคาดหวังอื่นโดยอิงจากการที่ไฟล์นั้นจะแสดงแบบอินไลน์ในพื้นที่ของเรา (เช่น รูปภาพ) หรือเป็นไฟล์ที่ไม่ใช่แบบอินไลน์ (เช่น เอกสารข้อความ) ถ้าเราไม่ได้รับข้อมูลนี้ เราก็จะตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของการดาวน์โหลดเหล่านี้เหล่านี้ไม่ได้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • FileSizeInBytes - ขนาดของไฟล์ที่ดาวน์โหลดเป็นหน่วยไบต์

  • IsImage - Bool ที่กำหนดว่าไฟล์ที่ดาวน์โหลดมีส่วนขยายที่ตรงกับรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของรูปแบบรูปภาพทั่วไป (.bmp, .emf, .gif, .jpe, .csv, .jpg, .png) ที่เราแสดงแบบอินไลน์ในพื่นที่หรือไม่

  • TimeToDownload - ระยะเวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลด FDO จากที่เก็บ blob ของเราลงในอุปกรณ์

OneNote.Storage.RealTime.WebSocketDownload

สัญญาณสำคัญที่ใช้ในการติดตามประสิทธิภาพการทำงานของการซิงค์ขาเข้า รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงช่วยให้เราสามารถตรวจทานและตรวจสอบประสิทธิภาพของการดาวน์โหลดข้อมูลจากบริการของเราได้ สัญญาณนี้จะได้รับการรวบรวมสำหรับการดาวน์โหลดประสิทธิภาพการทำงานที่เลวร้ายที่สุดใน 300 วินาทีสุดท้ายเท่านั้น (กำหนดค่าจำนวนวินาทีได้โดย Microsoft โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและเงื่อนไขของบริการ)

เราใช้สัญญาณนี้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของบริการ โดยทำให้เราสามารถดูผู้เช่าที่กำลังพบปัญหาความช้าอย่างมากสำหรับการนำข้อมูลเข้าจากบริการของเรา ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดขณะพบปัญหาความล่าช้าในการนำเข้าและแพร่กระจายในผู้เช่าที่มีปัญหาเวลาแฝง นอกจากนี้ยังใช้ในการรายงานสถานภาพบริการและประสิทธิภาพการทำงานกับลูกค้าของเราเพื่อวัดแนวโน้มในช่วงเวลาและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานทางวิศวกรรมโดยอัตโนมัติ

หากเราเห็นเวลาแฝงที่ยอมรับไม่ได้สำหรับส่วนหรือสมุดบันทึก เราจะยังใช้ข้อมูลนี้ในการเชื่อมโยงกับสัญญาณอื่นๆ จากไคลเอ็นต์และบริการตามเอกสารเดียวกันด้วยเพื่อระบุการถดถอยของประสิทธิภาพการทำงานของไคลเอ็นต์ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถให้การบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ถ้าเราไม่ได้รับข้อมูลนี้ เราจะไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของบริการของเราหรือผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านเซิร์ฟเวอร์ที่เราอาจพบว่าจำเป็นเนื่องจากการใช้งานหรือปัจจัยอื่น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • DeviceSessionId - รหัสของเซสชันของอุปกรณ์

  • IsEducationNotebook - Bool ที่ระบุว่าสมุดบันทึกเป็นสมุดบันทึกการศึกษาหรือไม่

  • IsHierarchyResource - Bool ที่ระบุว่าทรัพยากรเป็นทรัพยากรลำดับขั้นหรือไม่

  • NotebookId - รหัสสมุดบันทึกที่อัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ

  • ResourceId - รหัสของทรัพยากรที่เรากำลังอัปโหลด

  • SectionId - รหัสของส่วนที่การอัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่ง

  • ServerSessionId - รหัสเซสชันของเซิร์ฟเวอร์ที่การอัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่ง

  • TimeToConfirmSyncedWithServerInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีระหว่างการไปยังหน้าของผู้ใช้และการยีนยันกองการจำลองว่าหน้าดังกล่าวซิงค์อยู่กับเซิร์ฟเวอร์

  • TimeToFirstUpdateInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีระหว่างการเริ่มต้นใช้งานการจำลองแบบขาเข้าของเครื่องมือการซิงค์ของหน้าและการดำเนินการของการจำลองแบบที่เข้าถึงการซิงค์กับสถานะของเซิร์ฟเวอร์

OneNote.Storage.RealTime.WebSocketUpload

สัญญาณสำคัญที่ใช้ในการติดตามประสิทธิภาพการทำงานของการซิงค์ขาออก รวมถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงช่วยให้เราสามารถตรวจทานและตรวจสอบประสิทธิภาพของการอัปโหลดข้อมูลไปยังบริการของเราได้

เราใช้สัญญาณนี้เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของบริการ โดยทำให้เราสามารถดูผู้เช่าที่กำลังพบปัญหาความช้าอย่างมากสำหรับการนำข้อมูลออกไปยังบริการของเรา ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลที่ผู้ใช้อัปโหลดขณะพบปัญหาความล่าช้าในการนำออกและแพร่กระจายในผู้เช่าที่มีปัญหาเวลาแฝง นอกจากนี้ยังใช้ในการรายงานสถานภาพบริการและประสิทธิภาพการทำงานกับลูกค้าของเราเพื่อวัดแนวโน้มในช่วงเวลาและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานทางวิศวกรรมโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ เรายังจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดตามผลกระทบและประสิทธิภาพของการปรับปรุงที่เราทำกับลูกค้าและบริการของเราด้วย

ถ้าเราเห็นเวลาแฝงที่ยอมรับไม่ได้สำหรับส่วนหรือสมุดบันทึก เราจะใช้ข้อมูลนี้ในการเชื่อมโยงกับสัญญาณอื่นๆ จากไคลเอ็นต์และบริการตามเอกสารเดียวกันเพื่อระบุการถดถอยของประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถให้การบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ถ้าเราไม่ได้รับข้อมูลนี้ เราจะไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของบริการของเราหรือผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านเซิร์ฟเวอร์ที่เราอาจพบว่าจำเป็นเนื่องจากการใช้งานหรือปัจจัยอื่น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • DeviceSessionId - รหัสของเซสชันของอุปกรณ์

  • IsEducationNotebook - Bool ที่ระบุว่าสมุดบันทึกเป็นสมุดบันทึกการศึกษาหรือไม่

  • IsHierarchyResource - Bool ที่ระบุว่าทรัพยากรเป็นทรัพยากรลำดับขั้นหรือไม่

  • IsWorstTime - Bool ที่ระบุว่าเวลาเป็นเหตุการณ์การอัปโหลดปกติหรือเวลาที่เลวร้ายที่สุดที่เราเห็นบนไคลเอ็นต์นี้ใน 300 วินาทีาสุดท้าย (Microsoft จะกำหนดจำนวนวินาทีโดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและเงื่อนไขของบริการ)

  • NotebookId - รหัสสมุดบันทึกที่อัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ

  • RecommendedPutIntervalInMs - เวลาที่บริการได้รับการติดต่อสื่อสารไปยังไคลเอ็นต์ตามช่วงเวลาที่แนะนำ

  • ResourceId - รหัสของทรัพยากรที่เรากำลังอัปโหลด

  • SectionId - รหัสของส่วนที่การอัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่ง

  • SenderRequestId - รหัสของผู้ส่งที่กำลังดำเนินการอัปโหลด

  • ServerSessionId - รหัสเซสชันของเซิร์ฟเวอร์ที่การอัปโหลดนี้เป็นส่วนหนึ่ง

  • UploadNonSuspendedTimeInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่ใช้ในการดำเนินการอัปโหลด โดยไม่รวมถึงเวลาที่แอปพลิเคชันถูกหยุดชั่วคราว

  • UploadTimeInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีที่ใช้ในการอัปโหลดจริง

  • WaitTimeInMs - เวลาในหน่วยมิลลิวินาทีระหว่างการร้องขอการอัปโหลดและการเริ่มต้นการอัปโหลด

  • WebUrl - URL ของเว็บของการอัปโหลด (เข้าสู่ระบบ PiiWz)

OneNote.Storage.SyncHealth

สัญญาณสำคัญที่ใช้ในการติดตามข้อผิดพลาดและข้อยกเว้นที่เกิดขึ้นภายในกองซิงค์ในไคลเอ็นต์ OneNote ซึ่งช่วยให้เราสามารถตรวจสอบและบรรเทาเงื่อนไขที่ไม่คาดคิดเหล่านี้ได้

การดำเนินการนี้จะใช้ในการตรวจสอบสถานภาพของบริการ โดยช่วยให้เราสามารถดูรายงานข้อผิดพลาดจากลูกค้าได้โดยใกล้เคียงกับเวลาจริง ซึ่งช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อปัญหาในการซิงค์ได้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ในการระบุความรุนแรงของปัญหาและความรุนแรงจากการอ้างอิงแท็กข้อผิดพลาดด้วยโค้ดไคลเอ็นต์เพื่อระบุแหล่งข้อมูลของความล้มเหลว นอกจากนี้ เรายังรวมข้อมูลนี้เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของเราที่เกิดขึ้นตลอดเวลา รวมถึงผลกระทบและประสิทธิภาพของการปรับปรุงที่เราทำกับลูกค้าและบริการของเรา ถ้าไม่มีข้อมูลนี้ เราจะไม่สามารถตอบสนองต่อเงื่อนไขข้อผิดพลาดในบริการการซิงค์ของเราได้โดยไม่ต้องมีการเลื่อนระดับลูกค้า

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • Service - บริการการซิงค์ที่ลูกค้าใช้งานเมื่อเกิดข้อผิดพลาด (การซิงค์แบบดั้งเดิมหรือแบบสมัยใหม่)

  • Tag - แท็ก (ค่าที่ระบุ) จะแสดงข้อผิดพลาดที่ลูกค้าพบระหว่างดำเนินการซิงค์

OneNote.Sync.CreateNotebookFailed

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อการสร้างสมุดบันทึกล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • NetworkConnection - บันทึกชนิดการเชื่อมต่อที่อุปกรณ์กำลังเปิดใช้งานอยู่ เช่น Wi-Fi, ออฟไลน์, 3G

  • ServerType - บันทึกชนิดเซิร์ฟเวอร์ที่จะสร้างสมุดบันทึก

OneNote.Sync.FirstRunError

เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกเมื่อการซิงค์บันทึกย่อด่วนล้มเหลวสำหรับผู้ใช้ในระหว่างประสบการณ์การใช้งานครั้งแรกบนอุปกรณ์ของตน การดำเนินการนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเรียกใช้ครั้งแรกโดยเฉพาะ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • NetworkConnection - บันทึกชนิดการเชื่อมต่อที่อุปกรณ์กำลังเปิดใช้งานอยู่ เช่น Wi-Fi, ออฟไลน์, 3G

  • ServerType - บันทึกชนิดเซิร์ฟเวอร์ที่จะสร้างสมุดบันทึกของบันทึกย่อด่วน

เหตุการณ์การกำหนดค่าบริการ

ไม่มีการรวบรวมเหตุการณ์ข้อมูลบริการที่จำเป็นโดยการกำหนดค่าบริการ

เหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกล

เหตุการณ์นี้ช่วยในการติดตามการใช้งานการเปิดใช้การประชุมปฏิทินในปลายทางอื่นๆ เหตุการณ์นี้จะช่วยให้เราตรวจหาสองสิ่งเมื่อการประชุมถูกเปิดใช้ผ่าน Skype for Business และเมื่อเปิดใช้การประชุมผ่าน Teams และถ้าติดตั้งแอป Teams

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • account - ข้อมูลบัญชีที่มีการแฮชที่ดำเนินการ

  • action_type - การดำเนินการที่ทำ เช่น เปิดใช้การประชุม หรือติดตั้งแอปพลิเคชัน

  • แอปพลิเคชัน - แอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานผ่านการเชื่อมโยงโดยตรง เช่น Teams หรือ Skype for Business

  • context - ประสบการณ์ที่นำทางไปยังภายในแอป เช่น office_union - word, office_union – excel เป็นต้น

  • one_drive_photo_exp_action_type - ชนิดการดําเนินการของการทดลองภาพถ่ายของ OneDrive ตัวอย่างเช่น: show_get_one_drive_card, click_get_one_drive_card, enable_camera_backup_succeeded เป็นต้น

  • one_drive_photo_exp_plan_number - หมายเลขแผนการทดลองของการทดลองภาพถ่าย OneDrive สําหรับการทดสอบ A/B/n

  • one_drive_photo_exp_referral_type - ชนิดการอ้างอิงของการทดลองภาพถ่ายของ OneDrive ตัวอย่างเช่น: inline_card, bottom_card

  • source - ที่มาของการดำเนินการ ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นจากผู้ใช้ เริ่มต้นโดยอัตโนมัติโดยไคลเอ็นต์ เป็นต้น

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PaywallOperationMetrics

[เหตุการณ์นี้เคยมีชื่อว่า Office.Android.DocsUI.Views.PaywallOperationMetrics]

Microsoft ใช้สิ่งนี้เพื่อดูความสมบูรณ์ของคุณลักษณะความสำเร็จหรืออัตราข้อผิดพลาดสำหรับผู้ใช้สำหรับการซื้อเพื่อให้แน่ใจว่ามีการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การซื้อของลูกค้าบนแพลตฟอร์มมือถือ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • OperationTimeInMs - เวลาที่ใช้ในการดำเนินการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์ (ความยาว - มิลลิวินาที)

  • PaywallOperationResult - ความสำเร็จ / รหัสข้อผิดพลาด / ผู้ใช้ถูกยกเลิก (Enum / int – จำกัด)

  • PaywallOperationType - ชนิดของการดำเนินการ Paywall (enum / int - จำกัด )

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PaywallPrivacyUIEvent

เหตุการณ์นี้จะทริกเกอร์เมื่อหน้าจอความเป็นส่วนตัวการยินยอมแสดงขึ้นก่อนหน้าจอ Paywall ของการสมัครใช้งาน ข้อมูลที่รวบรวมไว้ที่นี่จะต้องเข้าใจว่าหน้าจอและองค์ประกอบทํางานตามที่คาดไว้หรือไม่และเพื่อค้นหาการสูญเสียในเซสชัน Paywall ของผู้ใช้อันเป็นผลมาจากการเลือกของผู้ใช้บนหน้าจอความยินยอม

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • FunnelPoint - จํานวนเต็ม – ระบุผู้ใช้ที่พบด้วยหน้าจอความยินยอมความเป็นส่วนตัว (0: หน้าจอจะแสดงต่อผู้ใช้ 1: ผู้ใช้ยอมรับ; 2: ผู้ใช้ปฏิเสธ)

Office.Android.DocsUI.PaywallControl.PaywallSessionData

[เหตุการณ์นี้เคยมีชื่อว่า Office.Android.DocsUI.Views.PaywallSessionData]

เมตาดาต้าตามเซสชันเมื่อ UI ของ Paywall ปรากฏให้ผู้ใช้เห็น Microsoft ใช้ข้อมูลนี้เพื่อรับการเดินทางของผู้ใช้ และทำความเข้าใจอุปกรณ์และเวอร์ชัน OS ที่ผู้ใช้กำลังใช้งาน เพื่อช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ในพื้นที่เหล่านี้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • App Version - รหัสเวอร์ชันของแอปพลิเคชันที่ใช้งาน

  • ClientId - ตัวระบุอุปกรณ์เฉพาะที่ไม่ระบุชื่อที่ไม่ใช่ PII (GUID / สตริง)

  • DeviceNetworkType - จํานวนเต็ม – ระบุชนิดของอุปกรณ์เครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ (0 : ไม่ได้เชื่อมต่อ, 1: wifi, 2: มือถือ, 3: อีเทอร์เน็ต)

  • Entry Point - รหัสเฉพาะสำหรับจุดเข้าใช้งานตามบริบทหรือคงที่จากแอปพลิเคชันที่ใช้งาน

  • isTablet - อุปกรณ์กำลังแสดง UX ของแท็บเล็ตอยู่หรือไม่

  • OSVersion - เวอร์ชัน Android OS ของอุปกรณ์

  • SessionId - GUID: ตัวระบุเซสชัน Paywall ที่ไม่ซ้ำกัน

  • V2Enabled - แบบบูลีน – ค่าสถานะจะแสดง ถ้ามีการแสดง UX การเพิ่มยอดขายที่ทันสมัยแบบทดลอง

Office.Apple.Licensing.AutoRenewData

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้มาถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) "ตัวเตือนการต่ออายุอัตโนมัติของการสมัครใช้งาน" ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าฟีเจอร์ทํางานตามที่คาดไว้และเพื่อความน่าเชื่อถือของบริการที่ดีขึ้น

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • isAROff - Bool - true ถ้าผู้ใช้ปิดใช้งานการต่ออายุโดยอัตโนมัติ

  • IsSubscriptionPurchaser - Bool - บูลีนที่ระบุว่าผู้ใช้เป็นผู้ซื้อการสมัครใช้งานหรือไม่ (ผู้รับผลประโยชน์)

  • isTrial - Bool - true ถ้าผู้ใช้มีระยะเวลารุ่นทดลองใช้ต่อเนื่อง

  • ProductId - String - ProductId ของผลิตภัณฑ์การสมัครใช้งาน

  • PurchaseApp - String - แอปที่ผู้ใช้ซื้อการสมัครใช้งาน (Word/Excel/PowerPoint)

  • PurchasePlatform - String - แพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ซื้อการสมัครใช้งาน (iOS กับ Windows กับ Android)

  • SubscriptionExpirationDateTime - String - วันที่และเวลาที่การสมัครใช้งานจะหมดอายุ

Office.Apple.Licensing.AutoRenewToastVisible

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ไปที่ส่วนติดต่อผู้ใช้ "การแจ้งเตือน Bizbar การต่ออายุการสมัครใช้งาน" (UI) ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้ดูการแจ้งเตือน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ไม่มี

Office.Apple.Licensing.AutoRenewViewVisible

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้มาถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) "ตัวเตือนการต่ออายุอัตโนมัติของการสมัครใช้งาน" ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้ดูหน้าจอ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ไม่มี

Office.Apple.Licensing.CPCOnFailure

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อหน้าจอการสมัครใช้งานประสบปัญหา และหน้าจอความล้มเหลวที่เกี่ยวข้องจะแสดงแทน ข้อมูลถูกใช้เพื่อติดตามสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ไม่รู้จักของ Apple App Store และดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อแก้ไข

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • hasNetworkConnection - ค่าบูลีนของสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายของอุปกรณ์

Office.BusinessCheckout.AnalyticsEvent

เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการดำเนินการของผู้ใช้หรือการทำงานของส่วนประกอบภายใน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของการเดินทางของผู้ใช้ผ่านช่องทางการซื้อในส่วนประกอบการชำระเงิน เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บริการทำงานตามที่คาดไว้และระบุการยกเลิกในขั้นตอนการเช็คเอาท์

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • appName - ชื่อแอปพลิเคชัน (เช็คเอาท์ทางธุรกิจ)

  • checkoutStage - ขั้นตอนปัจจุบันในขั้นตอนการเช็คเอาต์

  • correlationId - ตัวระบุที่ใช้สำหรับเหตุการณ์ที่สัมพันธ์กันจากเซสชันเดียว

  • environment - สภาพแวดล้อมเช็คเอาท์ทางธุรกิจ (int, edog, prod)

  • flights - แสดงการเผยแพร่ฟีเจอร์เพื่อทดสอบ

  • language - ภาษาที่เลือกสําหรับแอปพลิเคชัน

  • market - ตลาดของการซื้อที่พยายาม

  • partner - แอปพลิเคชันคู่ค้าที่ใช้การเช็คเอาท์ทางธุรกิจ (DIME)

  • platform - แพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันของคู่ค้า (Win32, WXP online, office.com)

  • product - ผลิตภัณฑ์ที่เลือกโดยผู้ใช้

  • puid - ตัวระบุผู้ใช้แบบถาวร

  • result - ผลลัพธ์ของโฟลว์การเช็คเอาท์ (ซื้อแล้ว ยกเลิกแล้ว เป็นต้น)

  • seats - จํานวนสิทธิ์การใช้งานที่ซื้อ

  • sessionId - ตัวระบุสําหรับแต่ละเซสชัน

  • sku - ตัวเลือกของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เลือกโ (หน่วยเก็บสต็อก)

  • tenantId - ID ผู้เช่า Microsoft Entra ของผู้เช่าเงาที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้ทั่วไป ผู้เช่าเงาหมายถึงรายละเอียดการใช้งานที่จำเป็นสำหรับการแนบสิทธิ์การใช้งานที่ซื้อกับผู้ใช้ MSA

  • version - เวอร์ชันรุ่นแพคเกจ

Office.BusinessCheckout.DiagnosticEvent

เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการดำเนินการของผู้ใช้หรือการทำงานของส่วนประกอบภายใน ซึ่งใช้เพื่อแก้ไขปัญหาส่วนประกอบการเช็คเอาท์หากตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับการซื้อ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • activityId - ตัวระบุเฉพาะที่แสดงถึงโฟลว์ เป็นการผสมผสานระหว่าง activitySpanId และ activityTraceId

  • activitySpanId - ตัวระบุเฉพาะสําหรับงานย่อย

  • activityTraceId - ตัวระบุเฉพาะสําหรับโฟลว์ทั้งหมด

  • checkoutStage - ขั้นตอนปัจจุบันในขั้นตอนการเช็คเอาต์

  • environment - สภาพแวดล้อมเช็คเอาท์ทางธุรกิจ (int, edog, prod)

  • flights - แสดงการเผยแพร่ฟีเจอร์เพื่อทดสอบ

  • language - ภาษาที่เลือกสําหรับแอปพลิเคชัน

  • logLevel - ระดับบันทึก (ข้อมูล การแก้จุดบกพร่อง ฯลฯ)

  • market - ตลาดของการซื้อที่พยายาม

  • message - ข้อความการวินิจฉัย

  • ocid - ID แคมเปญเพิ่มเติม

  • parentActivityId - ใช้สำหรับเปิดใช้งานโครงสร้างแผนภูมิการติดตามระหว่างกิจกรรมย่อย

  • partner - แอปพลิเคชันคู่ค้าที่ใช้การเช็คเอาท์ทางธุรกิจ (DIME)

  • platform - แพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันของคู่ค้า (Win32, WXP online, office.com)

  • product - ผลิตภัณฑ์ที่เลือกโดยผู้ใช้

  • propertyBag - แสดงข้อมูลเมตาเพิ่มเติม

  • puid - ตัวระบุผู้ใช้แบบถาวร

  • sku - ตัวเลือกของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เลือกโ (หน่วยเก็บสต็อก)

  • tagId - ตัวระบุการจับคู่แหล่งที่มาของข้อความภายใน

  • tenantId - ID ผู้เช่า Microsoft Entra ของผู้เช่าเงาที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้ทั่วไป

  • time - เวลาของเหตุการณ์การบันทึก

  • version - เวอร์ชันรุ่นแพคเกจ

Office.BusinessCheckout.MetricEvent

เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการดำเนินการของผู้ใช้หรือการทำงานของส่วนประกอบภายใน เหตุการณ์การตรวจสอบจะใช้สําหรับการติดตามผลลัพธ์และการกําหนดเวลาของการดําเนินการ ระบบจะออกให้เมื่อใดก็ตามที่การบล็อกที่รวมอยู่ใน "ขอบเขตการตรวจสอบ" เสร็จสมบูรณ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • appName - ชื่อแอปพลิเคชัน (เช็คเอาท์ทางธุรกิจ)

  • market - ตลาดของการซื้อที่พยายาม

  • metadata - แสดงข้อมูลเมตาเพิ่มเติม เช่น คําขอ / การตอบสนองของ

  • metricName - ชื่อของเหตุการณ์เมตริก เช่น Duration, CrashCount, Count

  • metricValue - ค่าสําหรับชื่อเมทริกซ์ เช่น ระยะเวลา - เวลาที่ใช้

  • name - ชื่อกิจกรรมเฉพาะ

  • result - ผลลัพธ์ของเหตุการณ์เมตริก (สําเร็จ systemError เป็นต้น)

  • subType - ข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันของคู่ค้าที่ใช้การเช็คเอาท์ทางธุรกิจ เช่น คู่ค้า/แพลตฟอร์ม

Office.FirstRun.Apple.TelemetryOptIn

เหตุการณ์นี้ถูกรวบรวมเพื่อให้แอปพลิเคชัน Office ทำงานภายใต้แพลตฟอร์ม Apple เหตุการณ์นี้ถูกใช้เพื่อตรวจคุณภาพการวัดและส่งข้อมูลทางไกลของเราในประสบการณ์การใช้งานครั้งแรก เราเก็บรวบรวมโค้ดที่แสดงถึงชนิดของตัวเลือกการรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยที่ถูกเลือกโดยผู้ใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม:

  • Data_EventId –โค้ดที่ระบุการกำหนดลักษณะการรวบรวมข้อมูลการวินิจฉัยที่ถูกเลือกโดยผู้ใช้

Office.iOS.Paywall.ShareSubscriptionScreen.ShareLinkTap

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้แตะที่ "คำเชิญแชร์กับครอบครัว" เมื่อเห็นมุมมองการสมัครใช้งานแชร์กับครอบครัว ข้อมูลถูกใช้เพื่อตรวจหาการคลิกและจำนวนการแชร์การสมัครใช้งานที่สำเร็จ

โดยจะรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • entryPoint - ระบุ entryPoint ที่ ShareSubscriptionView จะแสดงขึ้นเมื่อผู้ใช้แตะคำเชิญแชร์กับครอบครัว

Office.iOS.Paywall.ShareSubscriptionScreen.Shown

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้เห็นมุมมองการสมัครใช้งานแชร์กับครอบครัว ข้อมูลถูกใช้เพื่อบันทึกจำนวนผู้ใช้ที่เข้ามาดูมุมมองนี้ 

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • entryPoint - ระบุ entryPoint ที่ ShareSubscriptionView แสดงต่อผู้ใช้

Office.Omex.Checkout.LoggingEvent

เหตุการณ์เกิดขึ้นจากการดำเนินการของผู้ใช้หรือการทำงานของส่วนประกอบภายใน ซึ่งใช้เพื่อแก้ไขปัญหาส่วนประกอบการเช็คเอาท์หากมีปัญหากับการซื้อที่ตรวจพบ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Agent.Datacenter - การระบุของตัวแทนการตรวจสอบ ตําแหน่งที่ตั้งของศูนย์ข้อมูลที่โฮสต์ประสบการณ์การชําระเงิน

  • Agent.Role - การระบุตัวแทนการตรวจสอบ ชนิดของบริการที่ส่งการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Agent.RoleInstance - การระบุของตัวแทนการตรวจสอบ อินสแตนซ์ของบริการที่ส่งการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Agent.ServiceName - การระบุของตัวแทนการตรวจสอบ บริการที่ส่งการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • Agent.Tenant - การระบุตัวแทนการตรวจสอบ คลัสเตอร์บริการ

  • Level - ระดับความรุนแรงของข้อความการวินิจฉัย

  • Message - ข้อความการวินิจฉัย

  • Query.Flights - ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองที่ผู้ใช้รวมอยู่ในนั้น

  • Query.Language - ภาษาของประสบการณ์ผู้ใช้ในการซื้อที่พยายาม

  • Query.Market - ตลาดของการซื้อที่พยายาม

  • Query.PageURL - URL ของเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้กําลังใช้ขณะพยายามซื้อ

  • Query.ReferralURL - URL ของเบราว์เซอร์ที่อ้างอิงผู้ใช้ในการซื้อ

  • Tag - ตัวระบุการจับคู่แหล่งที่มาของข้อความภายใน

  • Tracing.CheckoutVersion - เวอร์ชันของส่วนประกอบขั้นตอนการซื้อ

  • Tracing.Environment - สภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ เช่น การผลิตหรือก่อนการผลิต

  • Tracing.TraceId - ID สําหรับเชื่อมโยงเหตุการณ์กับเหตุการณ์อื่นๆ จากเซสชันผู้ใช้เดียวกัน

Office.OneNote.GetSharePointIdsForDocument

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจะบันทึกความล้มเหลวและความสำเร็จของการดึงข้อมูล ID ของ SharePoint (SPO) สำหรับ URL เอกสาร ความสำเร็จและความล้มเหลว (รวมถึงเหตุผลสำหรับความล้มเหลว) ของการโทรจะถูกบันทึกสำหรับแพลตฟอร์มทั้งหมด จำเป็นต้องใช้เครื่องหมายนี้เพื่อติดตามและวินิจฉัยสถานภาพของการโทรเพื่อรับ ID จำเป็นต้องใช้ ID เพื่อให้ข้อมูลหน้า OneNote (ที่เป็นของสมุดบันทึกที่จัดเก็บไว้ใน SharePoint) แสดงในฟีด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorCode - ค่า int ของข้อผิดพลาด

  • ErrorMessage - สตริงที่อธิบายข้อผิดพลาด

  • FailureType - สตริงเพื่อระบุชนิดของข้อผิดพลาด

  • HttpStatusCode - รหัสข้อผิดพลาด HTTP สำหรับการโทรบนเครือข่าย

  • InnerErrorCode - รหัส int

  • InnerErrorMesage - ข้อความสำหรับข้อผิดพลาด

  • IsSuccess - ค่าบูลีนสำหรับสัญญาณที่ประสบความสำเร็จ

Office.OneNote.GetSharePointIdsForDocumentW32Old

การวัดและส่งข้อมูลทางไกลจะบันทึกสถานการณ์ความล้มเหลวและความสำเร็จของการดึงข้อมูล ID ของ SharePoint (SPO) สำหรับ URL เอกสาร ความสำเร็จและความล้มเหลว (รวมถึงเหตุผลสำหรับความล้มเหลว) ของการโทรจะถูกบันทึก ซึ่งจะบันทึกในแพลตฟอร์ม win32 เก่าเท่านั้น จำเป็นต้องใช้เครื่องหมายนี้เพื่อติดตามและวินิจฉัยสถานภาพของการโทรเพื่อรับ ID จำเป็นต้องใช้ ID เพื่อให้ข้อมูลหน้า OneNote (ที่เป็นของสมุดบันทึกที่จัดเก็บไว้ใน SharePoint) แสดงในฟีด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorCode - ค่า int ของข้อผิดพลาด

  • ErrorMessage - สตริงที่อธิบายข้อผิดพลาด

  • FailureType - สตริงเพื่อระบุชนิดของข้อผิดพลาด

  • HttpStatusCode - รหัสข้อผิดพลาด HTTP สำหรับการโทรบนเครือข่าย

  • InnerErrorCode - รหัส int

  • InnerErrorMesage - ข้อความสำหรับข้อผิดพลาด

  • IsSuccess - ค่าบูลีนสำหรับสัญญาณที่ประสบความสำเร็จ

Office.System.GracefulExit.GracefulAppExitDesktop

เหตุการณ์จะทริกเกอร์โดยการสิ้นสุดแอปพลิเคชันที่เหมาะสมสำหรับแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์ของ Office เช่น Word, Excel, PowerPoint และ Outlook เป็นต้น เราใช้เมตริกการออกอย่างเหมาะสมเพื่อวัดสถานภาพของผลิตภัณฑ์ไคลเอ็นต์ Office ซึ่งมีไว้ใช้เป็นสัญญาณที่มีความสำคัญต่อธุรกิจซึ่งวิศวกรของ Office ใช้เพื่อสรุปความเสถียรของผลิตภัณฑ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppBuild - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppMajor - ตัวระบุเวอร์ชันหลักสำหรับกระบวนการได้รับผลกระทบ

  • AppMinor - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppRevision - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการได้รับผลกระทบ

  • BootCompleted – ระบุว่าบูตกระบวนการ Office สำเร็จหรือไม่

  • DetectionTime - เวลาที่ตรวจพบการจบการทำงานที่ไม่คาดคิด

  • EcsETag - ตัวระบุการทดลองสำหรับกระบวนการ

  • HasEdit – ระบุว่ามีการแก้ไขเอกสารระหว่างกระบวนการ Office หรือไม่

  • HasOpen – ระบุว่ามีการเปิดเอกสารระหว่างกระบวนการ Office หรือไม่

  • InstallMethod - บิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • LicenseId - ข้อมูลการให้สิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้

  • OfficeUILang – ภาษาของกระบวนการ Office

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

  • SafeMode – ระบุว่ากระบวนการ Office อยู่ในเซฟโหมดหรือไม่

  • SessionId - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำของกระบวนการ

  • SessionInitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบเริ่มต้นขึ้น

Office.System.GracefulExit.GracefulAppExitDesktopRealTime

เหตุการณ์จะทริกเกอร์โดยการสิ้นสุดแอปพลิเคชันที่เหมาะสมสำหรับแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์ของ Office เช่น Word, Excel, PowerPoint และ Outlook เป็นต้น ข้อมูลจะถูกรายงานทันทีเมื่อเกิดการสิ้นสุดการทํางาน ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อวัดสถานภาพของผลิตภัณฑ์ไคลเอ็นต์ Office และเป็นสัญญาณสําคัญทางธุรกิจที่วิศวกรของ Office ใช้เพื่ออนุมานความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppName - ชื่อของแอป

  • EcsETag - ตัวระบุการทดลองสำหรับกระบวนการ

  • InstallMethod - บิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • OfficeUILang – ภาษาของกระบวนการ Office

  • PreviousAppBuild - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • PreviousAppMajor - ตัวระบุเวอร์ชันหลักสำหรับกระบวนการได้รับผลกระทบ

  • PreviousAppMinor - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • PreviousAppRevision - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการได้รับผลกระทบ

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

  • PreviousSessionId - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำของกระบวนการ

  • PreviousSessionInitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบเริ่มต้นขึ้น

  • PreviousSessionUninitTime - เวลาที่ตรวจพบการจบการทำงานที่ไม่คาดคิด

  • ProcessorArchitecture - ชนิดตัวประมวลผล

  • SessionFlags - เมตาดาต้าของระบบเกี่ยวกับสถานะของกระบวนการ

Office.System.IdentityChanged

ข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ที่จำเป็นเพื่อตอบสนองคำขอของเจ้าของข้อมูล

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • IdentityChanged - จริงเสมอ ข้อมูลประจำตัวมีการเปลี่ยนแปลง

  • TimerDetectedChange - ว่า ping ตามกำหนดเวลาประจำได้ตรวจหาการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

Office.System.PrivacyFallbackToSettingsStore

ใช้เพื่อกำหนดว่ามีความล้มเหลวในการอ่านการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้จากที่เก็บโรมมิ่งหรือไม่

รวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Tag - แท็กโค้ดที่บ่งชี้ว่าการตั้งค่าใดได้ลดกลับไปยังที่เก็บการตั้งค่า

Office.System.SessionDataO365

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppId - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชัน Office ที่ข้อมูลนี้อ้างถึง

  • ApplicationArchitecture - สถาปัตยกรรมตัวประมวลผลใดที่ Office สร้างขึ้น

  • AppVersionBuild - เวอร์ชันบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppVersionMajor - เวอร์ชันหลักของแอปพลิเคชัน Office

  • AppVersionMinor - เวอร์ชันรองของแอปพลิเคชัน Office

  • AppVersionUpdate - การปรับปรุงบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • CollectorVersion - ตัวระบุเวอร์ชันสำหรับตรรกะการรวบรวมไคลเอ็นต์

  • DeviceHash - แฮชแบบทางเดียวของตัวระบุอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ

  • DeviceName - ชื่อของอุปกรณ์ Office มีการใช้งานอยู่

  • Domain - โดเมนของอุปกรณ์ Office มีการใช้งานอยู่

  • IsCeip - ว่าการติดตั้งของ Office ได้ลงทะเบียนในโครงการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าที่หมดอายุแล้วหรือไม่

  • IsDebug - ว่านี่เป็นรุ่นดีบักของ Office หรือไม่

  • IsImmersive - ว่าแอปพลิเคชันของ Office เป็นแอปพลิเคชัน Windows สำหรับทุกอุปกรณ์หรือเป็นแอปพลิเคชันแบบครอบคลุม

  • IsLaptop - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแล็ปท็อปหรือไม่

  • IsMicrosoftInternal - ว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft หรือไม่

  • IsO365 - ว่าการติดตั้งของ Office เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Outlook 365 ที่หมดอายุแล้วหรือไม่

  • IsTablet - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแท็บเล็ตหรือไม่

  • IsTerminalServer - True/false เป็นไคลเอ็นต์ของเทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์

  • MaxMemory - จำนวนหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มสูงสุดที่มีอยู่ในอุปกรณ์ที่ใช้งาน Office

  • OsArchitecture - สถาปัตยกรรมของ CPU ที่ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน Office สร้างขึ้น

  • **OsVersionBuild - เวอร์ชันบิลด์ของระบบปฏิบัติการ

  • OsVersionMajor - เวอร์ชันหลักของระบบปฏิบัติการ

  • OsVersionMinor - เวอร์ชันรองของระบบปฏิบัติการ

  • OsVersionUpdate - การปรับปรุงบิลด์ระบบปฏิบัติการ

  • ProcessFileName - ชื่อที่ปฏิบัติการได้ของแอปพลิเคชันที่เรียกใช้งานอยู่

  • ProcessorArchitecture - บ่งชี้สถาปัตยกรรมตัวประมวลผลที่ Office ใช้งานอยู่

  • ProcessorFrequency - ความเร็วของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office นั้นใช้งานอยู่เป็นเมกะเฮิรตซ์

  • SessionStart - เวลาที่เริ่มกระบวนการ Office ที่ใช้งาน

  • UserName - ชื่อของบัญชีที่เรียกใช้ Office

Office.System.SystemHealthCoreMetadata

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppBuild - เวอร์ชันบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppMajorVer - เวอร์ชันหลักของแอปพลิเคชัน Office

  • AppMinorVer - เวอร์ชันรองของแอปพลิเคชัน Office

  • CID - ทำให้ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้เป็นข้อมูลแฝง

  • CollectibleClassifications - ชุดของการจัดประเภทข้อมูลที่สามารถรวบรวมได้

  • CollectionTime - เวลาที่เมตาดาต้ามีการรวบรวม

  • DeviceManufacturer - ผู้ผลิตของอุปกรณ์ที่ Office ทำงานอยู่

  • DeviceModel - โมเดลของอุปกรณ์ที่ Office ทำงานอยู่

  • FirstRunTime - ครั้งแรกที่มีการเรียกใช้แอปพลิเคชัน Office

  • IsClickToRunInstall - ว่าแอปพลิเคชัน Office ได้รับการติดตั้งโดยใช้คลิก-ทู-รันหรือไม่

  • IsDebug - ว่านี่เป็นรุ่นดีบักของ Office หรือไม่

  • IsLabMachine - ว่า Office กำลังมีการใช้งานอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่

  • IsLaptop - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแล็ปท็อปหรือไม่

  • IsMsftInternal - ว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft หรือไม่

  • IsSubscription - มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Office ภายใต้สิทธิการใช้งานแบบการสมัครใช้งานหรือไม่

  • IsTablet - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแท็บเล็ตหรือไม่

  • IsTerminalServer - ว่า Office มีการใช้งานบนเทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์หรือไม่

  • MsoAppId - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชัน Office ที่ข้อมูลนี้อ้างอิงถึง

  • OfficeArchitectureText - สถาปัตยกรรมตัวประมวลผลใดที่ Office สร้างขึ้น

  • OsBuild - เวอร์ชันบิลด์ของระบบปฏิบัติการ

  • OsBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ระบบปฏิบัติการ

  • OSEnvironment - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • OsMajorVer - เวอร์ชันหลักของระบบปฏิบัติการ

  • OsMinorVer - เวอร์ชันรองของระบบปฏิบัติการ

  • OSVersionString - เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการที่เป็นสตริง

  • ProcessorArchitecture - สถาปัตยกรรมตัวประมวลผลใดที่ Office ใช้งานอยู่

  • ProcessorCount - จำนวนตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ Office กำลังทำงาน

  • ProcSpeedMHz - ความเร็วของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office นั้นใช้งานอยู่เป็นเมกะเฮิรตซ์

  • RamMB - จำนวน RAM ที่มีในอุปกรณ์ Office นั้นกำลังใช้งานอยู่

  • SqmUserId - ตัวระบุแบบสุ่มสำหรับการติดตั้ง Office

Office.System.SystemHealthDesktopSessionLifecycleAndHeartbeat

แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเมตริกสถานภาพระบบ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • InstallMethod - บิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • OfficeArchitectureText - สถาปัตยกรรมของผลิตภัณฑ์ Office ที่เป็นสตริง (เช่น x86, arm)

  • PreviousBuild - เวอร์ชัน Office ของบิลด์นี้มีการอัปเกรดหรือย้อนกลับ

  • State - สถานะซึ่งเซสชันเปลี่ยนมาเป็น

  • Time - เวลาที่สถานะเซสชันเปลี่ยนแปลง

Office.System.SystemHealthEssentialIdentityCount

รวบรวมจำนวนข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AllIdentityCount - นับจำนวนข้อมูลประจำตัวทั้งหมด

  • ValidIdentityCount - จำนวนของข้อมูลประจำตัวที่ตรวจสอบความถูกต้อง

Office.System.SystemHealthEssentialMetadataAllIdentities

ตรวจสอบสถานะบัญชีที่ Office ยอมรับในเซสชันนี้ ใช้เพื่อแยกความล้มเหลวของชนิดการเข้าสู่ระบบบัญชีถ้าความล้มเหลวเป็นแบบเฉพาะชนิด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CollectionTime - เวลาที่มีการรวบรวมข้อมูลประจำตัว

  • IdentityType - ชนิดของการรับรองความถูกต้องหรือบัญชี

  • IdentityUniqueId - ทำให้ตัวระบุข้อมูลประจำตัวเป็นข้อมูลแฝง

  • IdentityUniqueIdHashed - แฮชแบบทางเดียวของ ID เฉพาะของข้อมูลประจำตัว

Office.System.SystemHealthMetadataApplicationAdditional

เหตุการณ์นี้จะถูกทริกเกอร์เมื่อเปิดใช้เซสชัน Office ข้อมูลจะถูกใช้เพื่อให้แน่ใจว่าคอมโพเนนต์ต่าง ๆ เช่น ข้อมูลประจําตัว การเผยแพร่ฟีเจอร์เพื่อทดสอบ และการกําหนดค่าจะทํางานตามการออกแบบเพื่อรักษาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และทํางานตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Alias - ถ้าผู้ใช้ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft ซึ่งเป็นนามแฝงภายในของบริษัท

  • AppBuild - เวอร์ชันบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppMajorVer - เวอร์ชันหลักของแอปพลิเคชัน Office

  • AppMinorVer - เวอร์ชันรองของแอปพลิเคชัน Office

  • CID - ทำให้ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้เป็นข้อมูลแฝง

  • CollectibleClassifications - ชุดของการจัดประเภทข้อมูลที่สามารถรวบรวมได้

  • DeviceManufacturer - ผู้ผลิตของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DeviceModel - โมเดลของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DeviceProcessorModel - รูปแบบตัวประมวลผลของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DigitizerInfo - ข้อมูลเกี่ยวกับดิจิไทเซอร์ที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DomainName - ชื่อของโดเมนที่เครื่องที่ใช้งาน Office เข้าร่วม (ถ้ามี)

  • FirstRunTime - ครั้งแรกที่มีการเรียกใช้แอปพลิเคชัน Office

  • HorizontalResolution - ความละเอียดหน้าจอแนวนอน

  • IsDebug - ระบุว่านี่เป็นบิลด์ดีบักของ Office หรือไม่

  • IsImmersive - ระบุว่าแอปพลิเคชัน Office เป็นแอปพลิเคชัน Windows สำหรับทุกอุปกรณ์หรือเป็นแอปพลิเคชันแบบครอบคลุม

  • IsJoinedToDomain - ระบุว่าอุปกรณ์ที่ใช้งาน Office เข้าร่วมกับโดเมนหรือไม่

  • IsLabMachine - ว่า Office กำลังมีการใช้งานอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่

  • IsLaptop - ระบุว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแล็ปท็อปหรือไม่

  • IsMsftInternal - ระบุว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft หรือไม่

  • IsOEMInstalled - ระบุว่าแอปพลิเคชัน Office ที่ใช้งานอยู่นั้นติดตั้งโดย OEM หรือไม่

  • IsRunAsAdmin - ระบุว่าแอปพลิเคชัน Office ใช้งานอยู่ในฐานะผู้ดูแลระบบหรือไม่

  • IsSubscription - มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Office ภายใต้สิทธิการใช้งานแบบการสมัครใช้งานหรือไม่

  • MsoAppId - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชัน Office ที่ข้อมูลนี้อ้างอิงถึง

  • NumProcPhysCores - จำนวนแกนประมวลผลจริงในตัวประมวลผล

  • OfficeBuild - เวอร์ชันบิลด์ของไลบรารีที่ใช้ร่วมกันของ Office

  • OfficeBuildRevision - เวอร์ชันการปรับปรุงบิลด์ของไลบรารีที่ใช้ร่วมกันของ Office

  • OfficeMajorVer - เวอร์ชันหลักของไลบรารีที่ใช้ร่วมกันของ Office

  • OfficeMinorVer - เวอร์ชันรองของไลบรารีที่ใช้ร่วมกันของ Office

  • OsBuild - เวอร์ชันบิลด์ของระบบปฏิบัติการ

  • OsBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ระบบปฏิบัติการ

  • OsMajorVer - เวอร์ชันหลักของระบบปฏิบัติการ

  • OsMinorVer - เวอร์ชันรองของระบบปฏิบัติการ

  • powerPlatformRole - ตัวระบุของบทบาทคอมพิวเตอร์ที่ OEM ต้องการของอุปกรณ์ Office ที่ใช้งานอยู่

  • ProcessFileName -ชื่อปฏิบัติการของแอปพลิเคชันที่ใช้งาน

  • ProcessorCount - จำนวนตัวประมวลผลในอุปกรณ์ Office ที่ใช้งาน

  • RamMB - จำนวน RAM ที่มีในอุปกรณ์ที่ Office ใช้งาน

  • SqmUserId - ตัวระบุแบบสุ่มสำหรับการติดตั้ง Office

  • StudyId - ตัวระบุการศึกษาเมตริกคุณภาพซอฟต์แวร์

  • VerticalResolution - ความละเอียดหน้าจอในแนวตั้ง

  • winUserActType - ระบุว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นผู้ดูแลระบบภายใน ผู้ใช้ระดับสูง หรือผู้ใช้ปกติ

Office.System.SystemHealthMetadataApplicationAndLanguage

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppBuild - เวอร์ชันบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ของแอปพลิเคชัน Office

  • AppMajorVer - เวอร์ชันหลักของแอปพลิเคชัน Office

  • AppMinorVer - เวอร์ชันรองของแอปพลิเคชัน Office

  • AppState - ตัวระบุสำหรับสถานะของแอปพลิเคชัน Office

  • Click2RunPackageVersionBuild - เวอร์ชันบิลด์ของแพคเกจตัวติดตั้งคลิก-ทู-รัน

  • Click2RunPackageVersionMajor - เวอร์ชันหลักของแพคเกจตัวติดตั้งคลิก-ทู-รัน

  • Click2RunPackageVersionMinor - เวอร์ชันรองของแพคเกจตัวติดตั้งคลิก-ทู-รัน

  • Click2RunPackageVersionRevision - การปรับปรุงบิลด์ของแพคเกจตัวติดตั้งคลิก-ทู-รัน

  • DistributionChannel - แชนเนลที่แจกจ่าย Office

  • InstallType - ตัวระบุสำหรับวิธีการติดตั้ง Office

  • IsClickToRunInstall - แอปพลิเคชัน Office ได้รับการติดตั้งโดยใช้คลิก-ทู-รันหรือไม่

  • IsDebug - ว่านี่เป็นรุ่นดีบักของ Office หรือไม่

  • IsImmersive - ว่าแอปพลิเคชันของ Office เป็นแอปพลิเคชัน Windows สำหรับทุกอุปกรณ์หรือเป็นแอปพลิเคชันแบบครอบคลุม

  • IsMsftInternal - ว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft หรือไม่

  • IsOEMInstalled - ว่าแอปพลิเคชัน Office ที่ใช้งานอยู่นั้นติดตั้งโดย OEM หรือไม่

  • IsRunAsAdmin - ว่าแอปพลิเคชัน Office ใช้งานอยู่ในฐานะผู้ดูแลระบบหรือไม่

  • IsSubscription - มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Office ภายใต้สิทธิการใช้งานแบบการสมัครใช้งานหรือไม่

  • MsoAppId - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชัน Office ที่ข้อมูลนี้อ้างอิงถึง

  • OfficeArchitectureText - สถาปัตยกรรมตัวประมวลผลใดที่ Office สร้างขึ้น

  • OfficeBuild - เวอร์ชันบิลด์ของไลบรารีที่ใช้ร่วมกันของ Office

  • OfficeBuildRevision - เวอร์ชันการปรับปรุงบิลด์ของไลบรารีที่แชร์ของ Office

  • OfficeMajorVer - เวอร์ชันหลักของไลบรารีที่แชร์ของ Office

  • OfficeMinorVer - เวอร์ชันรองของไลบรารีที่ใช้ร่วมกันของ Office

  • OfficeMuiCount - จำนวนแพคภาษาของ Office ที่ติดตั้ง

  • OfficeSkuLanguage - ภาษา SKU ที่ติดตั้ง

  • OfficeSkuLanguageTag - ภาษา SKU ที่ติดตั้ง

  • OfficeUiLang - ภาษาส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับแอปพลิเคชัน Office

  • OfficeUiLangTag - ภาษาส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับแอปพลิเคชัน Office

  • ProcessFileName - ชื่อที่ปฏิบัติการได้ของแอปพลิเคชันที่เรียกใช้งานอยู่

  • SqmAppId - ตัวระบุสำหรับแอปพลิเคชัน Office ที่ข้อมูลนี้อ้างถึง

Office.System.SystemHealthMetadataDelayedLogin

ข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ที่จำเป็นเพื่อตอบสนองคำขอของเจ้าของข้อมูล

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CID - ทำให้ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้เป็นข้อมูลแฝง

Office.System.SystemHealthMetadataDevice

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CollectionTime - เวลาที่เมตาดาต้ามีการรวบรวม

  • ComputerSystemProductUuidHash - แฮชแบบทางเดียวของ UUID ของแผงวงจรหลัก

  • DeviceClass - ตัวระบุชนิดของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน Office อยู่

  • DeviceMake - ตัวระบุตระกูลระบบฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DeviceManufacturer - ผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DeviceModel - โมเดลของอุปกรณ์ที่ Office ทำงานอยู่

  • DigitizerInfo - ข้อมูลเกี่ยวกับดิจิไทเซอร์ที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ Office นั้นใช้งานอยู่

  • IsLaptop - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแล็ปท็อปหรือไม่

  • IsTablet - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแท็บเล็ตหรือไม่

  • LicensingACID - ตัวระบุการให้สิทธิการใช้งานสำหรับการติดตั้ง Office

  • MachineName - ชื่อของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน Office อยู่

  • NumProcPhysCores - จำนวนแกนประมวลผลจริงในตัวประมวลผล

  • NumProcShareSingleCache -จำนวนตัวประมวลผลที่แชร์แคชบนอุปกรณ์ Office ที่เรียกใช้

  • NumProcShareSingleCache - The Number of processors sharing a single cache on the device Office is run on.

  • OlsLicenseId - ตัวระบุบริการการให้สิทธิการใช้งานสำหรับการติดตั้ง Office

  • Platform - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • PowerPlatformRole - ตัวระบุของบทบาทคอมพิวเตอร์ที่ OEM ต้องการของอุปกรณ์ Office กำลังใช้งานอยู่

  • ProcessorCount - จำนวนตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ Office กำลังใช้งาน

  • ProcSpeedMHz - ความเร็วของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office นั้นใช้งานอยู่เป็นเมกะเฮิรตซ์

  • ProcType - สถาปัตยกรรมของตัวประมวลผล

  • ProcTypeText - ชนิดของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • RamMB - จำนวน RAM ที่มีในอุปกรณ์ Office นั้นกำลังใช้งานอยู่

  • SusClientId - ID การอัปเดต Windows ของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • SystemFamily - ตัวระบุตระกูลระบบฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • SystemSKU - ตัวระบุ SKU ของระบบฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • SysVolFreeSpaceMB - ขนาดเนื้อที่ว่างที่พร้อมใช้งานบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

  • SysVolSizeMB - ขนาดเนื้อที่ว่างบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

  • WindowsErrorReportingMachineId - ตัวระบุเครื่องที่กำหนด Windows Error Reporting ของอุปกรณ์ Office นั้นใช้งานอยู่

  • WindowsSqmMachineId - ตัวระบุของเครื่องที่กำหนด Windows ของอุปกรณ์ Office นั้นใช้งานอยู่

Office.System.SystemHealthMetadataDeviceConsolidated

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • BootDiskType - ดิสก์หรือไดรฟ์โซลิดสเทต

  • ComputerSystemProductUuidHash - แฮชแบบทางเดียวของ UUID ของแผงวงจรหลัก

  • DeviceClass - ตัวระบุชนิดของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน Office อยู่

  • DeviceManufacturer - ผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DeviceModel - โมเดลของอุปกรณ์ที่ Office ทำงานอยู่

  • DeviceProcessorModel - รูปแบบตัวประมวลผลของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DigitizerInfo - ข้อมูลเกี่ยวกับดิจิไทเซอร์ที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ Office นั้นใช้งานอยู่

  • HasSpectreFix - ว่าตัวประมวลผลของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่มีการแก้ไข Spectre หรือไม่

  • IsLaptop - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแล็ปท็อปหรือไม่

  • IsTablet - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแท็บเล็ตหรือไม่

  • MachineName - ชื่อของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน Office อยู่

  • NumProcPhysCores - จำนวนแกนประมวลผลจริงในตัวประมวลผล

  • NumProcShareSingleCache -จำนวนตัวประมวลผลที่แชร์แคชบนอุปกรณ์ Office ที่เรียกใช้

  • NumProcShareSingleCache - The Number of processors sharing a single cache on the device Office is run on.

  • Platform - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • PowerPlatformRole - ตัวระบุของบทบาทคอมพิวเตอร์ที่ OEM ต้องการของอุปกรณ์ Office กำลังใช้งานอยู่

  • powerPlatformRole - ตัวระบุบทบาทคอมพิวเตอร์ที่ OEM ต้องการของอุปกรณ์ Office กำลังใช้งานอยู่

  • ProcessorCount - จำนวนตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ Office กำลังใช้งาน

  • ProcSpeedMHz - ความเร็วของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office นั้นใช้งานอยู่เป็นเมกะเฮิรตซ์

  • ProcType - สถาปัตยกรรมของตัวประมวลผล

  • ProcTypeText - ชนิดของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • RamMB - จำนวน RAM ที่มีในอุปกรณ์ Office นั้นกำลังใช้งานอยู่

  • SusClientId - ID การอัปเดต Windows ของอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • SysVolFreeSpaceMB - ขนาดเนื้อที่ว่างที่พร้อมใช้งานบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

  • SysVolSizeMB - ขนาดเนื้อที่ว่างบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

  • sysVolSizeMB - ขนาดเนื้อที่ว่างบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

  • WindowsErrorReportingMachineId - ตัวระบุเครื่องที่กำหนด Windows Error Reporting ของอุปกรณ์ Office นั้นทำงานอยู่

  • WindowsSqmMachineId - ตัวระบุเครื่องที่กำหนด Windows ของอุปกรณ์ Office นั้นทำงานอยู่

Office.System.SystemHealthMetadataOperatingSystem

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CollectionTime - เวลาที่จัดคิวกิจกรรมนี้สำหรับการอัปโหลด

  • IsTerminalServer -True/false เป็นไคลเอ็นต์ของเทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์

  • OsBuild - เวอร์ชันบิลด์ของระบบปฏิบัติการ

  • OsBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ระบบปฏิบัติการ

  • OSEnvironment - Windows, iOS, Mac, Android และอื่นๆ

  • OsMajorVer - เวอร์ชันหลักของระบบปฏิบัติการ

  • OsMinorVer - เวอร์ชันรองของระบบปฏิบัติการ

  • OSSDKVersionCode - ตัวระบุเวอร์ชันสำหรับ SDK ระบบปฏิบัติการ

  • OsSku - SKU ระบบปฏิบัติการ

  • OsSuite2 - ตัวระบุชุดโปรแกรมของระบบปฏิบัติการ

  • OSVersionString - ตัวระบุเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • ServicePackMajorVer - Service Pack ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันหลัก

  • ServicePackMinorVer - Service Pack ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันรอง

Office.System.SystemHealthMetadataOperatingSystemDevice

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CollectionTime - เวลาที่จัดคิวกิจกรรมนี้สำหรับการอัปโหลด

  • DeviceClass - ตัวระบุชนิดของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน Office อยู่

  • DeviceManufacturer - ผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ Office ใช้งานอยู่

  • DeviceModel - โมเดลของอุปกรณ์ที่ Office ทำงานอยู่

  • DigitizerInfo - ข้อมูลเกี่ยวกับดิจิไทเซอร์ที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ Office นั้นใช้งานอยู่

  • IsLaptop - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแล็ปท็อปหรือไม่

  • IsTablet - ว่าอุปกรณ์ของ Office ที่ใช้งานอยู่เป็นแท็บเล็ตหรือไม่

  • IsTerminalServer - True/false เป็นไคลเอ็นต์ของเทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์

  • MachineName - ชื่อของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งาน Office อยู่

  • NumProcPhysCores - จำนวนแกนประมวลผลจริงในตัวประมวลผล

  • NumProcShareSingleCache -จำนวนตัวประมวลผลที่แชร์แคชบนอุปกรณ์ Office ที่เรียกใช้

  • NumProcShareSingleCache - The Number of processors sharing a single cache on the device Office is run on.

  • OsBuild - เวอร์ชันบิลด์ของระบบปฏิบัติการ

  • OsBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ระบบปฏิบัติการ

  • OSEnvironment - Windows, iOS, Mac, Android และอื่นๆ

  • OsMajorVer - เวอร์ชันหลักของระบบปฏิบัติการ

  • OsMinorVer - เวอร์ชันรองของระบบปฏิบัติการ

  • OSSDKVersionCode - ตัวระบุเวอร์ชันสำหรับ SDK ระบบปฏิบัติการ

  • OsSku - SKU ระบบปฏิบัติการ

  • OsSuite2 - ตัวระบุชุดโปรแกรมของระบบปฏิบัติการ

  • OSVersionString - ตัวระบุเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • Platform - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • PowerPlatformRole - ตัวระบุของบทบาทคอมพิวเตอร์ที่ OEM ต้องการของอุปกรณ์ Office กำลังใช้งานอยู่

  • ProcessorCount - จำนวนตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ Office กำลังใช้งาน

  • ProcSpeedMHz - ความเร็วของตัวประมวลผลบนอุปกรณ์ที่ Office นั้นใช้งานอยู่เป็นเมกะเฮิรตซ์

  • ProcTypeText -ชนิดตัวประมวลผล

  • RamMB - จำนวน RAM ที่มีในอุปกรณ์ Office นั้นกำลังใช้งานอยู่

  • ServicePackMajorVer - Service Pack ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันหลัก

  • ServicePackMinorVer - Service Pack ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันหลักเวอร์ชันรอง

  • SysVolFreeSpaceMB - ขนาดเนื้อที่ว่างที่พร้อมใช้งานบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

  • SysVolSizeMB - ขนาดเนื้อที่ว่างบนไดรฟ์ข้อมูลระบบเป็นเมกะไบต์

Office.System.SystemHealthMetadataOS

เหตุการณ์นี้จะถูกเรียกใช้ทุกครั้งที่มีการเปิดใช้แอปพลิเคชัน Office เหตุการณ์นี้จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการที่ Office กําลังทํางานอยู่ ข้อมูลนี้ใช้เพื่อจัดประเภทความล้มเหลวภายในแอปพลิเคชัน Office และช่วยจำลองและบรรเทาปัญหา

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ประเทศภูมิภาค - การตั้งค่าระบบปฏิบัติการของตัวระบุประเทศหรือภูมิภาค

  • HorizontalResolution - ความละเอียดหน้าจอแนวนอน

  • IsTerminalServer - True/false เป็นไคลเอ็นต์ของเทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์

  • KeyboardLanguage - ตัวระบุภาษาบนคีย์บอร์ดของอุปกรณ์

  • KeyboardLanguageTag - ตัวระบุภาษาบนคีย์บอร์ดของอุปกรณ์

  • OfficeWvd - ระบุสถานะเดสก์ท็อปเสมือนของ Windows

  • OsBuild - เวอร์ชันบิลด์ของระบบปฏิบัติการ

  • OsBuildRevision - การปรับปรุงบิลด์ระบบปฏิบัติการ

  • OSEnvironment - Windows, iOS, Mac, Android และอื่นๆ

  • OsLocale - ตัวระบุตำแหน่งที่ตั้งของระบบปฏิบัติการ

  • OsLocaleTag - ตัวระบุตำแหน่งที่ตั้งของระบบปฏิบัติการ

  • OsMajorVer - เวอร์ชันหลักของระบบปฏิบัติการ

  • OsMinorVer - เวอร์ชันรองของระบบปฏิบัติการ

  • OSSDKVersionCode - ตัวระบุเวอร์ชันของ SDK ระบบปฏิบัติการ

  • OsSku - ตัวระบุ SKU ระบบปฏิบัติการ

  • OsSuite2 - ตัวระบุชุดโปรแกรมของระบบปฏิบัติการ

  • OsUiLang - ภาษาส่วนติดต่อผู้ใช้ของระบบปฏิบัติการ

  • OSVersionString - ตัวระบุเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ

  • ScreenDepth - ความละเอียดของหน้าจอ

  • ScreenDpi - dpi ของหน้าจอ

  • ServicePackMajorVer - Service Pack ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันหลัก

  • ServicePackMinorVer - Service Pack ของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันหลักเวอร์ชันรอง

  • SystemLocale - ตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ

  • SystemLocaleTag - ตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ

  • TimeZoneBiasInMinutes - ความแตกต่างกันเป็นนาทีระหว่างเวลาท้องถิ่นและเวลา UTC

  • VerticalResolution - ความละเอียดหน้าจอในแนวตั้ง

  • W365EnvironmentType - ชนิดระบบปฏิบัติการ Windows 365, Windows 365 Business, Windows 365 Enterprise

Office.System.SystemHealthMetadataScreenCultureUserSqmId

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Alias - พนักงาน Microsoft หรือนามแฝงผู้ใช้อัตโนมัติ

  • CID - ทำให้ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้เป็นข้อมูลแฝง

  • CollectibleClassifications - การจัดประเภทข้อมูลที่สามารถรวบรวมได้ตามการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของไคลเอ็นต์

  • CollectionTime - เวลาที่จัดคิวกิจกรรมนี้สำหรับการอัปโหลด

  • ประเทศภูมิภาค - การตั้งค่าระบบปฏิบัติการของตัวระบุประเทศหรือภูมิภาค

  • DomainName - ชื่อโดเมนของโดเมน Microsoft

  • HorizontalResolution - ความละเอียดหน้าจอแนวนอน

  • IntegratedScreenSize - ขนาดของหน้าจอแบบรวม

  • IsJoinedToDomain - True/false คือ โดเมนของไคลเอ็นต์ที่เข้าร่วม

  • IsLabMachine - คือเครื่องแล็บสำหรับการทดสอบของ Microsoft

  • IsMsftInternal - True/false คือเครื่องในโดเมนขององค์กร Microsoft

  • IsSubscription - มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Office ภายใต้สิทธิการใช้งานแบบการสมัครใช้งานหรือไม่

  • KeyboardLanguage - ตัวระบุภาษาบนคีย์บอร์ดของอุปกรณ์

  • KeyboardLanguageTag - ตัวระบุภาษาบนคีย์บอร์ดของอุปกรณ์

  • OsLocale - ตัวระบุตำแหน่งที่ตั้งของระบบปฏิบัติการ

  • OsLocaleTag - ตัวระบุตำแหน่งที่ตั้งของระบบปฏิบัติการ

  • OsUiLang - ภาษาส่วนติดต่อผู้ใช้ของระบบปฏิบัติการ

  • ScreenDepth - ความละเอียดของหน้าจอ

  • ScreenDpi - dpi ของหน้าจอ

  • ScreenXDpi - DPI X ของหน้าจอ

  • ScreenYDpi - DPI Y ของหน้าจอ

  • SqmUserId - ตัวระบุแบบสุ่มสำหรับการติดตั้ง Office

  • StudyId - ตัวระบุการศึกษาเมตริกคุณภาพซอฟต์แวร์

  • SystemLocale - ตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ

  • SystemLocaleTag - ตำแหน่งที่ตั้งเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ

  • TimeZoneBiasInMinutes - ความแตกต่างกันเป็นนาทีระหว่างเวลาท้องถิ่นและเวลา UTC

  • VerticalResolution - ความละเอียดหน้าจอในแนวตั้ง

  • WinUserActType - Whether the Windows user running Office is a local administrator, power user, or normal user.

Office.System.SystemHealthOfficeLensIdentity

ข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ที่จำเป็นเพื่อตอบสนองคำขอของเจ้าของข้อมูล

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CID - ทำให้ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้เป็นข้อมูลแฝง

Office.System.SystemHealthRollbackSessionMetadata

ต้องใช้เมตาดาต้าเพื่อแยกการทำซ้ำที่ล้มเหลว

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • InstallMethod - ติดตั้งใหม่ อัปเดต หรือย้อนกลับ

  • IsSubscription - มีการติดตั้งแอปพลิเคชัน Office ภายใต้สิทธิการใช้งานแบบการสมัครใช้งานหรือไม่

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

Office.System.SystemHealthSessionLifecycleAndHeartbeat

แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเมตริกสถานภาพระบบ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • InstallMethod - ว่าการติดตั้งปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด การย้อนกลับ หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • InteractionSessionID - ตัวระบุเซสชัน

  • PreviousBuild - เวอร์ชัน Office ของบิลด์นี้มีการอัปเกรดหรือย้อนกลับ

  • State - สถานะซึ่งเซสชันเปลี่ยนมาเป็น

  • Time - ชี้ไปยังสถานะเซสชันที่เปลี่ยนแปลง

Office.System.SystemHealthSessionStartTime

ใช้กับข้อมูลการหยุดทำงานเพื่อแยกการหยุดทำงานก่อนหน้ากับภายหลังออกจากกัน (เช่น พิจารณาว่าผู้ใช้ใช้แอปในช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนแอปจะหยุดทำงานหรือไม่)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • SessionStart - เวลาที่การวัดและส่งข้อมูลทางไกลเริ่มประมวลผลข้อมูล

Office.System.SystemHealthUngracefulAppExitDesktop

เหตุการณ์ทริกเกอร์จากการสิ้นสุดแอปพลิเคชันที่ผิดปกติ (ตัวอย่าง: การปิดของตัวจัดการงาน แอปพลิเคชันค้าง และอื่นๆ) สำหรับแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์ของ Office เช่น Word, Excel, PowerPoint และ Outlook เราใช้เมตริกการออกจากแอปพลิเคชันอย่างไม่เหมาะสมเพื่อวัดสถานภาพของผลิตภัณฑ์ไคลเอ็นต์ Office ซึ่งเป็นสัญญาณสําคัญทางธุรกิจที่ใช้ในการอนุมานความเสถียรของผลิตภัณฑ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AffectedProcessAppBuild - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessAppBuildRevision - ตัวระบุการปรับปรุงบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessAppMajorVer - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessAppMinorVer - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessAppName - ชื่อของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessAppVersion - ตัวระบุเวอร์ชันสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessExeBuildVersion - หมายเลขรุ่นบิลด์ของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessExeMajorVersion - หมายเลขเวอร์ชันหลักของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessExeMinorVersion - หมายเลขเวอร์ชันรองของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessExeRevisionVersion - หมายเลขรุ่นของการปรับปรุงบิลด์ของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessIsDebug - ว่ากระบวนการที่ได้รับผลกระทบเป็นรุ่นดีบักหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessIsLabMachine - ว่ากระบวนการที่ได้รับผลกระทบนั้นอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AffectedProcessOsEnvironment - ตัวระบุระบบปฏิบัติการสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AppName - ชื่อของแอปพลิเคชันที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AppUsedVirtualMemory - หน่วยความจำเสมือนที่ใช้โดยแอปพลิเคชัน Office

  • BucketId - ตัวระบุกลุ่มของ Watson สำหรับการหยุดทำงาน

  • CabGuid - ตัวระบุ GUID สำหรับ Watson cab

  • CallStack - สแตกการโทรภายในของ Microsoft ที่ทำให้เกิดการหยุดทำงาน

  • CallStackHash - แฮชของเขตข้อมูล CallStack (รูปแบบ GUID)

  • CrashedAssignedFlights - เวอร์ชันทดสอบที่กำหนดให้กับกระบวนการที่หยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashedConfigIds - การกำหนดค่าที่กำหนดให้กับกระบวนการที่หยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashedEcsETag - ตัวระบุการทดลองสำหรับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedImpressionId - ตัวระบุการแสดงผลของกระบวนการที่หยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashedModuleName - ชื่อมอดูลที่ล้มเหลว

  • CrashedProcessSessionID - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำสำหรับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedProcessSessionInitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบเริ่มต้นขึ้น

  • CrashedProcessSessionUninitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบสิ้นสุดลง

  • CrashTag - รหัสเฉพาะสำหรับรหัสของการหยุดทำงาน

  • CrashType - ตัวระบุการแบ่งสำหรับประเภทการหยุดทำงาน

  • DetectionTime - เวลาที่ตรวจพบการจบการทำงานที่ไม่คาดคิด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ErrorString - คำอธิบายข้อผิดพลาด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ExceptionAddress - ที่อยู่ในโปรแกรมที่เกิดความล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ExceptionCode - ตัวระบุการแบ่งสำหรับข้อยกเว้น

  • ExceptionInfo - ข้อมูลของระบบสำหรับข้อยกเว้น

  • FaultAppName - ชื่อของแอปที่ไม่ถูกต้อง [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HangTypeCode - แสดงถึงคลาสของการค้างหากกระบวนการค้างระหว่างการดำเนินการ

  • InstallMethod - ว่าบิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • InstallType - ตัวระบุสำหรับวิธีการติดตั้ง Office [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • InstallTypeName - ตัวระบุสำหรับวิธีการติดตั้ง Office [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • IsCustomerImpacting - ผู้ใช้ได้รับผลกระทบในทางลบจาก UAE หรือไม่

  • IsLabMachine - ว่า Office กำลังมีการใช้งานอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • IsMsftInternal - ว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • LicenseID - ข้อมูลการให้สิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้

  • ModuleBaseAddress - ที่อยู่เริ่มต้นของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleBuildVersion - หมายเลขรุ่นบิลด์ของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleMajorVersion - หมายเลขเวอร์ชันหลักของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleMinorVersion - หมายเลขเวอร์ชันรองของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleName - ชื่อของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleOffset - ออฟเซตเป็นไบต์ (แบบเลขฐานสิบหก) จากที่อยู่เริ่มต้นที่เกิดข้อผิดพลาด

  • ModuleRevisionVersion - หมายเลขรุ่นการปรับปรุงบิลด์ของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleSize - ขนาดของมอดูลที่ล้มเหลวเป็นไบต์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleVersion - เวอร์ชันของมอดูลที่ผิดพลาดสำหรับการหยุดทำงาน

  • OfficeArchitectureText - สถาปัตยกรรมของการติดตั้ง: x64, x86 และอื่นๆ

  • OfficeUILang - ภาษาของส่วนติดต่อผู้ใช้ในรุ่น Office

  • OSEnvironment - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

  • ProcessorArchitecture - สถาปัตยกรรมของตัวประมวลผลสำหรับสภาพแวดล้อม: x64, x86 และอื่นๆ

  • SessionFlags - กำหนดเงื่อนไขของเซสชัน เช่น: เปิดไฟล์อยู่ หรือแก้ไขอยู่ เปิดเอกสารในคลาวด์อยู่ ลำดับการบูตเสร็จสมบูรณ์ เป็นต้น

  • StackHash - ระบุ ID ที่แฮชสำหรับสแตกความล้มเหลวใน Office

  • SystemAvailableMemory - หน่วยความจำที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ

  • UAETypeName - ตัวระบุการแบ่งสำหรับวิธีที่แอปจบการทำงานอย่างผิดปกติ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • UninitLibletId - รหัสเฉพาะสำหรับคอมโพเนนต์ที่ล้มเหลวของการหยุดทำงาน

  • VerifyElseCrashTag - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำสำหรับจุดที่แอปหยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • WatsonBucket - ตัวระบุบักเก็ต Watson สำหรับการหยุดทำงาน (รูปแบบ GUID)

  • WatsonReportId - ตัวระบุของรายงานที่ส่งไปยังบริการ Windows Watson

  • WerEventCreatedTime - การประทับเวลาสำหรับเหตุการณ์ Windows Error Reporting

Office.System.SystemHealthUngracefulAppExitDesktopRealTime

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการยกเลิกแอปพลิเคชันที่ผิดปกติสำหรับแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์ Office เช่น Word, Excel, PowerPoint และ Outlook เราใช้เมตริกการออกจากแอปพลิเคชันอย่างไม่เหมาะสมเพื่อวัดสถานภาพของผลิตภัณฑ์ไคลเอ็นต์ Office ซึ่งเป็นสัญญาณสําคัญทางธุรกิจที่ใช้ในการอนุมานความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ เหตุการณ์นี้ประกอบด้วยข้อมูลเดียวกับเหตุการณ์ต่อไปนี้: Office.System.SystemHealthUngracefulAppExitDesktop ความแตกต่างคือเหตุการณ์นี้จะถูกรายงานทันทีที่การสิ้นสุดแอปพลิเคชันที่ผิดปกติเกิดขึ้น ในขณะที่ Office.System.SystemHealthUngracefulAppExitDesktop จะถูกรายงานในภายหลัง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AffectedProcessAppVersion - ตัวระบุเวอร์ชันสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppName - ชื่อของแอปพลิเคชัน

  • AppUsedVirtualMemor - หน่วยความจำเสมือนที่ใช้โดยแอปพลิเคชัน Office

  • BucketId - ตัวระบุบักเก็ตความน่าเชื่อถือของ Windows สําหรับการหยุดทํางาน

  • CabGuid - ตัวระบุ GUID สําหรับ Cab ความน่าเชื่อถือของ Windows

  • CallStack - สแตกการโทรภายในของ Microsoft ที่ทำให้เกิดการหยุดทำงาน

  • CallStackHash - แฮชของเขตข้อมูล CallStack (รูปแบบ GUID)

  • CrashedEcsETag - ตัวระบุการทดลองสำหรับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedModuleNam - ชื่อมอดูลที่ล้มเหลว

  • CrashedProcessSessionId - รหัสเฉพาะของกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedProcessSessionInitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบเริ่มต้นขึ้น

  • CrashedSessionUninitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบสิ้นสุดลง

  • CrashedTag - ตัวระบุเฉพาะสำหรับรหัสของการหยุดทำงาน

  • CrashType - ตัวระบุการแบ่งสำหรับประเภทการหยุดทำงาน

  • ExceptionCod - ตัวระบุการแบ่งสำหรับข้อยกเว้น

  • ExceptionInfo - ข้อมูลของระบบสำหรับข้อยกเว้น

  • HangTypeCode - แสดงถึงคลาสของการค้างหากกระบวนการค้างระหว่างการดำเนินการ

  • InstallMethod - บิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • IsCustomerImpacting - ผู้ใช้ได้รับผลกระทบในทางลบจาก UAE หรือไม่

  • LicenseID - ข้อมูลการให้สิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้

  • ModuleOffset - ออฟเซตเป็นไบต์ (แบบเลขฐานสิบหก) จากที่อยู่เริ่มต้นที่เกิดข้อผิดพลาด

  • ModuleVersion - ออฟเซตเป็นไบต์ (แบบเลขฐานสิบหก) จากที่อยู่เริ่มต้นที่เกิดข้อผิดพลาด

  • OfficeUILan - ภาษาของส่วนติดต่อผู้ใช้ในรุ่น Office

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

  • ProcessorArchitecture - สถาปัตยกรรมของตัวประมวลผลสำหรับสภาพแวดล้อม: x64, x86 และอื่นๆ

  • ReleaseAudienceGroup - AudienceGroup ของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • ReleaseChannel - แชนเนลของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • ReleaseFork - สำเนาของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • SessionFlag - กำหนดเงื่อนไขของเซสชัน เช่น: เปิดไฟล์อยู่ หรือแก้ไขอยู่ เปิดเอกสารในคลาวด์อยู่ ลำดับการบูตเสร็จสมบูรณ์ เป็นต้น

  • StackHash - ระบุ ID ที่แฮชสำหรับสแตกความล้มเหลวใน Office

  • SystemAvailableMemory - หน่วยความจำที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ

  • UninitLibletId - รหัสเฉพาะสำหรับคอมโพเนนต์ที่ล้มเหลวของการหยุดทำงาน

  • WatsonReportId - ตัวระบุรายงานที่ส่งไปยังบริการความน่าเชื่อถือของ Windows

  • WerEventCreatedTime - การประทับเวลาสำหรับเหตุการณ์ Windows Error Reporting

Office.System.SystemHealthUngracefulAppExitImmersive

ใช้ในการจับเมตริกการหยุดทำงาน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AffectedProcessAppBuild - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessAppBuildRevision - ตัวระบุการปรับปรุงบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessAppMajorVer - ตัวระบุเวอร์ชันหลักสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessAppMinorVer - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessAppName - ชื่อของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessExeBuildVersion - หมายเลขรุ่นบิลด์ของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessExeMajorVersion - หมายเลขเวอร์ชันหลักของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessExeMinorVersion - หมายเลขเวอร์ชันรองของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessExeRevisionVersion - หมายเลขรุ่นของการปรับปรุงบิลด์ของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AffectedProcessIsDebug - ว่ากระบวนการที่ได้รับผลกระทบเป็นรุ่นดีบักหรือไม่

  • AffectedProcessIsLabMachine - ว่ากระบวนการที่ได้รับผลกระทบนั้นอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่

  • AffectedProcessOsEnvironment - ตัวระบุระบบปฏิบัติการสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppName - ชื่อของแอปพลิเคชันที่ได้รับผลกระทบ

  • CrashedAssignedFlights - เวอร์ชันทดสอบที่กำหนดให้กับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedConfigIds - การกำหนดค่าที่กำหนดให้กับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedImpressionId - ตัวระบุการแสดงผลของกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedInteractionSessionID - ตัวระบุเซสชันการโต้ตอบสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • CrashedInteractionSessionTime - เวลาที่สามารถโต้ตอบกับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบได้

  • CrashedProcessSessionID - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำสำหรับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedProcessSessionInitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบเริ่มต้นขึ้น

  • DetectionTime - เวลาที่ตรวจพบการจบการทำงานที่ไม่คาดคิด

  • IsLabMachine - ว่า Office กำลังมีการใช้งานอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่

  • IsMsftInternal - ว่าผู้ใช้ Windows ที่ใช้งาน Office เป็นพนักงานของ Microsoft หรือไม่

  • OSEnvironment - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • PreviousLifecycleState - สถานะของกระบวนการได้รับผลกระทบเมื่อหยุดทำงาน

  • UAETypeName - ตัวระบุการแบ่งสำหรับวิธีที่แอปจบการทำงานอย่างผิดปกติ

Office.System.SystemHealthUngracefulApplicationExitWin32

เหตุการณ์ทริกเกอร์จากการสิ้นสุดแอปพลิเคชันที่ผิดปกติ (ตัวอย่างเช่น การปิดของตัวจัดการงาน แอปพลิเคชันค้าง และอื่นๆ) สำหรับแอปพลิเคชันไคลเอ็นต์ของ Office เช่น Word, Excel, PowerPoint และ Outlook เป็นต้น เราใช้เมตริกการออกจากแอปพลิเคชันอย่างไม่เหมาะสมเพื่อวัดสถานภาพของผลิตภัณฑ์ไคลเอ็นต์ Office ดังนั้นนี่จึงเป็นสัญญาณที่มีความสำคัญต่อธุรกิจซึ่งวิศวกรของ Office ใช้เพื่อสรุปความเสถียรของผลิตภัณฑ์

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AddinExecution - ค่าสถานะที่จะแจ้งให้ทราบว่ามีการดำเนินการ Add-in ที่ยังไม่เสร็จสิ้นในระหว่างการออกจากแอปพลิเคชันอย่างไม่เหมาะสม [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • AppUsedVirtualMemory - หน่วยความจำเสมือนที่ใช้โดยแอปพลิเคชัน Office

  • BootCompleted - Office บูตเสร็จสมบูรณ์เมื่อหยุดทำงานหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • BucketId - ตัวระบุกลุ่มของ Watson สำหรับการหยุดทำงาน

  • CabGuid - ตัวระบุรหัสเฉพาะสากล (GUID) สำหรับ Watson cab

  • CallStack - สแตกการโทรภายในของ Microsoft ที่ทำให้เกิดการหยุดทำงาน

  • CrashedAppBuild - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashedAppMajor - ตัวระบุเวอร์ชันหลักสำหรับกระบวนการได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashedAppMinor - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashedAppVersion - ตัวระบุเวอร์ชันแอปพลิเคชันสำหรับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedEcsETag - ตัวระบุการทดลองสำหรับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedModuleName - ชื่อมอดูลที่ล้มเหลว

  • CrashedProcessSessionId - รหัสเฉพาะของกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedProcessSessionInitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบเริ่มต้นขึ้น

  • CrashedProcessSessionUninitTime - เวลาที่กระบวนการที่ได้รับผลกระทบสิ้นสุดลง

  • CrashTag - รหัสเฉพาะสำหรับรหัสของการหยุดทำงาน

  • CrashTime - เวลาที่ระบุว่าไคลเอ็นต์สิ้นสุดโดยไม่คาดคิด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • CrashType - ตัวระบุการแบ่งสำหรับประเภทการหยุดทำงาน

  • DetectionTime - เวลาที่ตรวจพบการจบการทำงานที่ไม่คาดคิด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ExceptionAddress - ที่อยู่ในโปรแกรมที่เกิดความล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ExceptionCode - ตัวระบุการแบ่งสำหรับข้อยกเว้น

  • ExceptionInfo - ข้อมูลของระบบสำหรับข้อยกเว้น

  • HandOff - ผู้ใช้สร้างและส่งกระบวนการของ Office ไปยังเซสชันใหม่หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HangTypeCode - แสดงถึงคลาสของการค้างหากกระบวนการค้างระหว่างการดำเนินการ

  • HasEdit - ผู้ใช้แก้ไขเอกสารในไคลเอ็นต์ที่หยุดทำงานหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HasOpen - เอกสารเปิดในไคลเอ็นต์ที่หยุดทำงานหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexCrashTag - ตัวระบุเฉพาะสำหรับรหัสของการหยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexExceptionAddress - ที่อยู่แบบเลขฐานสิบหกในโปรแกรมที่เกิดความล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexExceptionCode - ตัวระบุการแบ่งแบบเลขฐานสิบหกสำหรับข้อยกเว้น [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexModuleBaseAddress - ที่อยู่เริ่มต้นแบบเลขฐานสิบหกของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexModuleOffset - ออฟเซตเป็นไบต์ (แบบเลขฐานสิบหก) จากที่อยู่เริ่มต้นที่เกิดข้อผิดพลาด [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexModuleSize - ขนาดของมอดูลที่ล้มเหลวเป็นไบต์แบบเลขฐานสิบหก [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • HexVerifyElseCrashTag - รหัสเฉพาะแบบเลขฐานสิบหกสำหรับจุดที่แอปหยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • InstallMethod - บิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • IsLabMachine - ว่า Office กำลังมีการใช้งานอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleBaseAddress - ที่อยู่เริ่มต้นของมอดูลที่ล้มเหลว [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleOffset - ออฟเซตเป็นไบต์ (แบบเลขฐานสิบหก) จากที่อยู่เริ่มต้นที่เกิดข้อผิดพลาด

  • ModuleSize - ขนาดของมอดูลที่ล้มเหลวเป็นไบต์ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • ModuleStamp - การประทับมอดูลที่ล้มเหลว

  • ModuleVersion - เวอร์ชันของมอดูลที่ผิดพลาดสำหรับการหยุดทำงาน

  • OfficeArchitectureText - สถาปัตยกรรมของผลิตภัณฑ์ Office ที่เป็นสตริง (เช่น x86, arm)

  • OfficeUILang - ภาษาของส่วนติดต่อผู้ใช้ในรุ่น Office

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

  • ProcessorArchitecture - สถาปัตยกรรมของตัวประมวลผลสำหรับสภาพแวดล้อม: x64, x86 และอื่นๆ

  • SafeMode - เซสชันบูตในเซฟโหมดหรือไม่ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • SessionFlags - กำหนดเงื่อนไขของเซสชัน เช่น: เปิดไฟล์อยู่ หรือแก้ไขอยู่ เปิดเอกสารในคลาวด์อยู่ ลำดับการบูตเสร็จสมบูรณ์ เป็นต้น

  • StackHash - ระบุ ID ที่แฮชสำหรับสแตกความล้มเหลวใน Office

  • SystemAvailableMemory - หน่วยความจำที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการ

  • UAEOSEnvironment - ตัวระบุสภาพแวดล้อมของระบบปฏิบัติการ [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • UninitLibletId - รหัสเฉพาะสำหรับคอมโพเนนต์ที่ล้มเหลวของการหยุดทำงาน

  • VerifyElseCrashTag - รหัสเฉพาะสำหรับจุดที่แอปหยุดทำงาน [เขตข้อมูลนี้ถูกนำออกจาก Office รุ่นปัจจุบันแล้ว แต่อาจยังปรากฏอยู่ในรุ่นที่เก่ากว่า]

  • WatsonReportId - ตัวระบุของรายงานที่ส่งไปยังบริการ Windows Watson

  • WerEventCreatedTime - การประทับเวลาสำหรับเหตุการณ์ Windows Error Reporting

Office.System.UngracefulApplicationExit.DesktopAppExit

ใช้ในการจับเมตริกการหยุดทำงาน

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AppBuildVersion - ตัวระบุเวอร์ชันบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppMajorVersion - หมายเลขเวอร์ชันหลักของกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppMinorVersion - ตัวระบุเวอร์ชันรองสำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • AppName - ชื่อของแอปพลิเคชันที่ได้รับผลกระทบ

  • AppRevisionVersion - ตัวระบุการปรับปรุงบิลด์สำหรับกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ

  • CrashedAssignedFlights - เวอร์ชันทดสอบที่กำหนดให้กับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedConfigIds - การกำหนดค่าที่กำหนดให้กับกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedImpressionId - ตัวระบุการแสดงผลของกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedInteractionSessionId - ตัวระบุเซสชันการโต้ตอบของกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashedProcessSessionId - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำของกระบวนการที่หยุดทำงาน

  • CrashType - ตัวระบุการแบ่งสำหรับประเภทการหยุดทำงาน

  • ErrorString - คำอธิบายข้อผิดพลาด

  • ExceptionAddress - ที่อยู่ในโปรแกรมที่เกิดความล้มเหลว

  • ExceptionCode - ตัวระบุการแบ่งสำหรับข้อยกเว้น

  • FaultAppName - ชื่อของแอปที่ไม่ถูกต้อง

  • InstallMethod - ว่าบิลด์ปัจจุบันของ Office นั้นมาจากการอัปเกรด ย้อนกลับไปยัง หรือการติดตั้งใหม่หรือไม่

  • InstallType - ตัวระบุสำหรับวิธีการติดตั้ง Office

  • IsDebug - ว่านี่เป็นรุ่นดีบักของ Office หรือไม่

  • IsHandledCrash - ว่ามีการเรียกตัวจัดการการหยุดทำงานในเซสชันที่หยุดทำงานหรือไม่

  • IsLabMachine - ว่า Office กำลังมีการใช้งานอยู่ในแล็บของ Microsoft หรือไม่

  • ModuleBaseAddress - ที่อยู่เริ่มต้นของมอดูลที่ล้มเหลว

  • ModuleName - ชื่อของมอดูลที่ล้มเหลว

  • ModuleOffset - ออฟเซตเป็นไบต์จากที่อยู่เริ่มต้นที่เกิดข้อผิดพลาด

  • ModuleSize - ขนาดของมอดูลที่ล้มเหลวเป็นไบต์

  • OSEnvironment - ตัวระบุสำหรับสภาพแวดล้อมที่ Office ใช้งานอยู่

  • PreviousBuild - เวอร์ชันบิลด์ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้

  • PreviousInteractionSessionTime - เวลาที่เซสชันการโต้ตอบก่อนหน้านี้เริ่มต้นขึ้น

  • PreviousLifecycleState - ตัวระบุสถานะวงจรชีวิตของเซสชันก่อนหน้านี้

  • PreviousSessionInitTime - Time when the previous session started.

  • StackHash - ตัวระบุที่ระบุตำแหน่งในโค้ดที่กระบวนการได้รับผลกระทบหยุดทำงาน

  • VerifyElseCrashTag - ตัวระบุที่ไม่ซ้ำสำหรับจุดที่แอปหยุดทำงาน

Office.System.UserChangedDiagnosticLevel

จำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อทำให้แน่ใจว่ามีการบังคับใช้ตัวเลือกนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DiagnosticLevelChanged: ระบุว่าผู้ใช้ได้เปลี่ยนระดับการวินิจฉัย

  • NewDiagnosticLevel: ระดับหลังจากที่ผู้ใช้เปลี่ยน

  • OldDiagnosticLevel: ระดับผู้ใช้ใช้ก่อนการเปลี่ยนแปลง

Office.Telemetry.AriaEventSink.HandleMsaDeviceTokenResponse

สัญญาณของการใช้งานบริการบัญชี Microsoft ขัดข้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • RetryCount - จำนวนความพยายามซ้ำในการเชื่อมต่อไปยังบริการ MSA

Office.Telemetry.AriaEventSink.RequestMsaDeviceToken

สัญญาณของการใช้งานบริการบัญชี Microsoft ขัดข้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • RetryCount - จำนวนความพยายามซ้ำในการเชื่อมต่อไปยังบริการ MSA

Office.Telemetry.ClientSamplingOverridden

จำเป็นต้องมีอัตราการทำซ้ำที่ถูกต้อง โดยปกติจะไม่ใช้กับกลุ่มผู้ชมการผลิต

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • OverriddenMeasureEnabled - มีการตั้งไคลเอ็นต์ให้ส่งมากกว่าเหตุการณ์ที่ไม่ถูกสุ่มตัวอย่างหรือไม่

  • OverriddenNumberlinePosition - ตำแหน่งรายการหมายเลขใหม่สำหรับการสุ่มตัวอย่าง

  • OverriddenReportedSampleRate - อัตราการสุ่มตัวอย่างที่รายงานใหม่

  • OverriddenSampleRate - อัตราการสุ่มตัวอย่างใหม่

  • PreviousNumberlinePosition - ตำแหน่งการสุ่มตัวอย่างบนรายการหมายเลข

  • PreviousSampleRate - อัตราการสุ่มตัวอย่างก่อนที่จะถูกเขียนทับ

  • WasMeasureEnabled - ได้มีการตั้งไคลเอ็นต์ให้ส่งมากกว่าเหตุการณ์ที่ไม่ถูกสุ่มตัวอย่างหรือไม่

Office.Telemetry.Compliance.EventNotInBasicAllowList

รายงานการใช้งานหรือการปรับใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventName - ชื่อของเหตุการณ์ที่ไม่อยู่ในรายการ

Office.Telemetry.Compliance.MissingDataCategory​

รายงานการใช้งานหรือการปรับใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventName - ชื่อเหตุการณ์ที่ไม่มีประเภท

  • IsFromRule - ว่าเหตุการณ์มาจากกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลหรือไม่

Office.Telemetry.Compliance.MissingDataCategoryInRule​

รายงานการใช้งานหรือการปรับใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • RuleId - รหัสกฎที่ไม่มีประเภทข้อมูล

  • RuleVersion - เวอร์ชันกฎที่ไม่มีประเภทข้อมูล

Office.Telemetry.DiagnosticDataViewerStateChanged

ตรวจสอบความถูกต้องว่าลูกค้าสามารถดูข้อมูลในขณะที่ออกจากเครื่องโดยใช้ตัวแสดงข้อมูลการวินิจฉัย

มีการรวบรวมเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • DialogCancelled - มีการยกเลิกกล่องโต้ตอบของตัวแสดงข้อมูลการวินิจฉัยหรือไม่

  • NewState - สถานะของตัวแสดงข้อมูลการวินิจฉัยใหม่

  • WasDialogUsed - ว่ามีการใช้กล่องโต้ตอบของตัวแสดงข้อมูลการวินิจฉัยหรือไม่

Office.Telemetry.DynamicConfig.FetchConfigs

จำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อวัดสถานภาพของบริการกำหนดค่าการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ParsedConfigCount - จำนวนการกำหนดค่าแบบไดนามิกที่ถูกแยกวิเคราะห์

  • ParsedConfigs - จำนวนการกำหนดค่าแบบไดนามิกที่ถูกแยกวิเคราะห์

  • RejectedConfigCount - จำนวนการกำหนดค่าที่ถูกปฏิเสธ

  • RejectedConfigs - จำนวนการกำหนดค่าที่ถูกปฏิเสธ

  • RejectedConfigsList - รายการการกำหนดค่าที่ถูกปฏิเสธที่คั่นด้วยจุลภาค

Office.Telemetry.DynamicConfig.ParseJsonConfig

Data needed to measure the health of Telemetry Config Service

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorMessage - ข้อความแสดงข้อผิดพลาดในการแยกวิเคราะห์

  • NodeName - โหนดที่ไม่สามารถแยกวิเคราะห์ได้

Office.Telemetry.DynamicConfig.PopulatedRequestIgnored

เหตุการ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราไม่สามารถตั้งค่าไปป์ไลน์การกำหนดค่าการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Telemetry.DynamicConfig.PopulateTreeCalledAgain

จำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อวัดสถานภาพของบริการกำหนดค่าการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Telemetry.EventQuarantined

ใช้เพื่อยืนยันว่าเหตุการณ์ NSD อื่นทำงานได้อย่างปกติ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventName - ชื่อเหตุการณ์ที่ถูกกักกัน

  • เหตุผล - เหตุผลในการกักกัน

Office.Telemetry.FlushEventBuffer

รายงานขนาดบัฟเฟอร์ของเหตุการณ์ และสามารถระบุข้อผิดพลาดของการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่เกี่ยวกับการใช้บัฟเฟอร์ขนาดใหญ่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventCount - จำนวนเหตุการณ์ในบัฟเฟอร์

  • FirstPassCount - จำนวนครั้งที่ผ่านของเหตุการณ์ในครั้งแรก

  • SecondPassCount - จำนวนครั้งที่ผ่านของเหตุการณ์ในครั้งที่สอง

Office.Telemetry.GetFilteredPayloadsFromDisk

ยืนยันว่าส่วนเฉพาะของไปป์ไลน์การวัดและส่งข้อมูลทางไกลแบบดั้งเดิมนั้นกำลังทำงานบนแพลตฟอร์มที่ยังใช้มันอยู่

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Telemetry.InvalidDataContractName​

รายงานการใช้งานหรือการปรับใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DataContractName - ชื่อของสัญญาข้อมูลของการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventName - ชื่อของเหตุการณ์ที่มีสัญญาข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

  • IsRuleEvent - True/false เป็นเหตุการณ์นี้ที่ใช้โดยกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

Office.Telemetry.InvalidDataFieldName ​

รายงานการใช้งานหรือการปรับใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DataFieldName - ชื่อของเขตข้อมูลการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • EventName - ชื่อของเหตุการณ์ที่มีเขตข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

  • IsRuleEvent - True/false เป็นเหตุการณ์นี้ที่ใช้โดยกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

Office.Telemetry.InvalidEventContractName

รายงานการใช้งานหรือการปรับใช้งานการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventContractName - ชื่อสัญญาการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ไม่ถูกต้อง

  • EventName - ชื่อของเหตุการณ์ที่มีชื่อสัญญาที่ไม่ถูกต้อง

  • IsRuleEvent - True/false เป็นเหตุการณ์นี้ที่ใช้โดยกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

Office.Telemetry.LoadXmlRules​

รายงานว่าการแยกวิเคราะห์กฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DetachedDuration - ระยะเวลาที่ถูกแยกออกเป็นไมโครวินาที

Office.Telemetry.MissingFieldDetails​

รายงานข้อมูลเขตข้อมูลที่หายไปเพื่อวินิจฉัยการสะกดผิดในการกำหนดค่าการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorRuleId - รหัสกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ร้องขอเขตข้อมูลที่หายไป

  • ErrorRuleVersion - เวอร์ชันกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ร้องขอเขตข้อมูลที่หายไป

  • EtwEventGuid - ETW GUID ของเขตข้อมูลที่ร้องขอ

  • EtwEventId - รหัสเหตุการณ์ของ ETW ของเขตข้อมูลที่ร้องขอ

  • MissingFieldName - ชื่อเขตข้อมูลที่ร้องขอ

  • UlsTagId - แท็กโค้ดของเขตข้อมูลที่หายไป

Office.Telemetry.ProcessIdleQueueJob

รายงานว่าการประมวลผลที่ไม่ได้ใช้งานของการวัดและส่งข้อมูลทางไกลนั้นเริ่มต้นตามที่คาดไว้

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DetachedDuration - ระยะเวลาที่ถูกแยกออกเป็นไมโครวินาที

  • FailureDiagnostic - การดำเนินการล้มเหลว

Office.Telemetry.RedstoneInboxSampling

จำเป็นต้องมีการสุ่มตัวอย่างสถานะของไคลเอ็นต์เพื่อให้ตีความเมตริกอื่นๆ ได้อย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • MeasuresEnabled - เปิดใช้งานหน่วยวัดในเซสชันนี้หรือไม่

  • SamplingClientIdValue - การสุ่มตัวอย่างค่าสำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingKey - การสุ่มตัวอย่างคีย์สำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingMethod - การสุ่มตัวอย่างวิธีการสำหรับไคลเอ็นต์นี้

Office.Telemetry.RedstoneInboxSamplingCritical

อาจจำเป็นต้องใช้การสุ่มตัวอย่างสถานะของไคลเอ็นต์เพื่อให้ตีความเมตริกอื่นๆ ได้อย่างถูกต้อ

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • MeasuresEnabled - เปิดใช้งานหน่วยวัดในเซสชันนี้หรือไม่

  • SamplingClientIdValue - การสุ่มตัวอย่างค่าสำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingKey - การสุ่มตัวอย่างคีย์สำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingMethod - การสุ่มตัวอย่างวิธีการสำหรับไคลเอ็นต์นี้

Office.Telemetry.RuleErrorsAggregated

การรายงานข้อผิดพลาดของสถานภาพการวัดและส่งข้อมูลทางไกล จำเป็นต้องใช้เพื่อตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ (รวมถึง NSD)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ErrorCount - จำนวนข้อผิดพลาดนี้ภายในกรอบเวลาของการรวม

  • ErrorInfo - จำนวนข้อมูลจากการวินิจฉัยข้อผิดพลาด

  • ErrorRuleId - รหัสกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด

  • ErrorRuleVersion - เวอร์ชันกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด

  • WarningInfo - การแจ้งเตือนจำนวนข้อมูลการวินิจฉัย

  • QueueFlushCount - จำนวนการล้างคิว

  • QueueFlushDueToSizeLimit - ขนาดในขณะที่การวัดและส่งข้อมูลทางไกลล้างคิว

  • QueueFlushesDueToSize - จำนวนการล้างคิวที่เกิดจากขนาดบัฟเฟอร์

  • QueueHardLimit - ขีดจำกัดของการปิดการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • QueueLimitHitTime - เมื่อถึงขีดจำกัดการการปิด

  • ResultTime - เวลาของเหตุการณ์นี้

Office.Telemetry.RulesEngineDiskThrottled

การควบคุมเมตริก DQ จำเป็นสำหรับความเชื่อมั่นในข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DiskWriteLimit - ขีดจำกัดของขนาดดิสก์สำหรับข้อมูลจากการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • DiskWriteTotal - การเขียนดิสก์ทั้งหมดสำหรับข้อมูลจากการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • SessionDiskWriteTotal - การเขียนดิสก์เซสชันทั้งหมดสำหรับข้อมูลจากการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • ThrottlingTimestamp - เวลาที่เซสชันถูกจำกัดผลลัพธ์

Office.Telemetry.RulesEngineMediumCostThrottled

การควบคุมเมตริก DQ จำเป็นสำหรับความเชื่อมั่นในข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมด

เหตุการณ์นี้ไม่มีการรวมรวมเขตข้อมูล

Office.Telemetry.RulesEngineSpikeThrottled

การควบคุมเมตริก DQ จำเป็นสำหรับความเชื่อมั่นในข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CurrentLimit - ขีดจำกัดของที่เก็บชั่วคราวปัจจุบัน

  • Duration - ระยะเวลาของที่เก็บชั่วคราว

  • Factor - ปัจจัยของที่เก็บชั่วคราว

  • HighestImpactingRuleBytes - ไบต์ส่วนใหญ่ถูกบันทึกโดยกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกล

  • HighestImpactingRuleId - รหัสกฎที่บันทึกไบต์ส่วนใหญ่ไว้

  • HighestImpactingRuleVersion -เวอร์ชันกฎที่บันทึกไบต์ส่วนใหญ่ไว้

  • MaxLimit - ขีดจำกัดสูงสุด

  • ThrottlingTimestamp - เมื่อการวัดและส่งข้อมูลทางไกลถูกจำกัดผลลัพธ์

Office.Telemetry.RulesEngineThrottled

การควบคุมเมตริก DQ จำเป็นสำหรับความเชื่อมั่นในข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ThrottlingTimestamp - เมื่อการวัดและส่งข้อมูลทางไกลถูกจำกัดผลลัพธ์

Office.Telemetry.RulesEngineUlsQueueSizeBackgroundProcessingLevelReached​

รายงานว่ามีเหตุการณ์ในคิวมากเกินเพื่อดำเนินการในระหว่างที่ไม่ได้ใช้งานแอป

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • BackgroundProcessingLevelInBytes - ขนาดคิวเพื่อเริ่มประมวลผลในพื้นหลัง

  • CurrentQueueSize - จำนวนของเหตุการณณ์ในคิว nULS

  • CurrentQueueSizeInBytes - ขนาดคิว nULS เป็นไบต์

  • ReachedTimestamp - เวลาเมื่อเริ่มการประมวลผลพื้นหลัง

Office.Telemetry.RulesResultUploadLatencyRule​

เวลาแฝงของกฎในการอัปโหลดโดยเฉลี่ย ต่ำสุด และสูงสุดทำให้เกิดการอัปโหลดส่วนข้อมูลทุกชั่วโมง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AverageLatency - เวลาแฝงในการอัปโหลดโดยเฉลี่ย

  • CollectionTime - เวลาที่มีการรวบรวมข้อมูลบนกฎ

  • LatencyGE201LE400 - จำนวนการอัปโหลดที่มีเวลาแฝงที่มากกว่าหรือเท่ากับ 201 มิลลิวินาที และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 400 มิลลิวินาที

  • LatencyGE3001 - จำนวนการอัปโหลดที่มีเวลาแฝงที่มากกว่าหรือเท่ากับ 3001 มิลลิวินาที

  • LatencyGE401LE600 - จำนวนการอัปโหลดที่มีเวลาแฝงที่มากกว่าหรือเท่ากับ 401 มิลลิวินาที และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 600 มิลลิวินาที

  • LatencyGE601LE800 - จำนวนการอัปโหลดที่มีเวลาแฝงที่มากกว่าหรือเท่ากับ 601 มิลลิวินาที และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 800 มิลลิวินาที

  • LatencyLE200 - จำนวนการอัปโหลดกับเวลาแฝงที่น้อยกว่า 200 มิลลิวินาที

  • MaxLatency - พิจารณาเวลาแฝงสูงสุด

  • MinLatency - พิจารณาเวลาแฝงต่ำสุด

Office.Telemetry.SamplingPolicy

จำเป็นต้องมีการสุ่มตัวอย่างสถานะของไคลเอ็นต์เพื่อให้ตีความเมตริกอื่นๆ ได้อย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • MeasuresEnabled - เปิดใช้งานหน่วยวัดในเซสชันนี้หรือไม่

  • SamplingClientIdValue - การสุ่มตัวอย่างค่าสำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingKey - การสุ่มตัวอย่างคีย์สำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingMethod - การสุ่มตัวอย่างวิธีการสำหรับไคลเอ็นต์นี้

Office.Telemetry.SamplingPolicyEventTrigger

จำเป็นต้องมีการสุ่มตัวอย่างสถานะของไคลเอ็นต์เพื่อให้ตีความเมตริกอื่นๆ ได้อย่างถูกต้อง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • MeasuresEnabled - เปิดใช้งานหน่วยวัดในเซสชันนี้หรือไม่

  • SamplingKey - การสุ่มตัวอย่างคีย์สำหรับไคลเอ็นต์นี้

  • SamplingMethod - การสุ่มตัวอย่างวิธีการสำหรับไคลเอ็นต์นี้

Office.Telemetry.SessionTelemetryRulesChanged​

รายงานว่าชุดของกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลมีการเปลี่ยนแปลง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • ChangedRuleId - รหัสกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่เปลี่ยนแปลงในการอัปเดตล่าสุด

  • ChangedRuleVersion - เวอร์ชันกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่เปลี่ยนแปลงในการอัปเดตล่าสุด

  • OperationType - เพิ่ม หรือนำแท็กการดำเนินการออก

Office.Telemetry.SessionTelemetryRulesCount​

รายงานจำนวนกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกโหลด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • CountOfLoadedRules - มีกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกโหลดจำนวนเท่าไร

  • HadRuleFileAtBoot - ว่ามีไฟล์กฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลเมื่อเริ่มต้นระบบแอปหรือไม่

Office.Telemetry.SessionTelemetryRulesInitialState​

รายงานกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกโหลดเมื่อเซสชันเริ่มต้น

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • HadRuleFileAtBoot - ว่ามีไฟล์กฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลเมื่อเริ่มต้นระบบแอปหรือไม่

  • LoadedRulesCount - มีกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกโหลดจำนวนเท่าไร

  • LoadedRulesList - รายการของกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลที่ถูกโหลด

Office.Telemetry.SystemHealthMetadataNetworkCost

ค่าใช้จ่ายเครือข่ายบ่งชี้ความสามารถในการรับข้อมูล หรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • NetworkCost - ต้นทุนที่มีการวัดหรือที่ไม่ได้วัดของเครือข่ายใหม่

  • OldNetworkCost - ต้นทุนที่มีการวัดหรือที่ไม่ได้วัดของเครือข่ายก่อนหน้า

  • Tag - แท็กโค้ดต้นฉบับที่ตรวจพบการเปลี่ยนแปลง

Office.Telemetry.SystemHealthMetadataNetworkCostChange

ค่าใช้จ่ายเครือข่ายบ่งชี้ความสามารถในการรับข้อมูล หรือไม่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • NewNetworkCost - ต้นทุนที่มีการวัดหรือที่ไม่ได้วัดของเครือข่ายใหม่

  • OldNetworkCost - ต้นทุนที่มีการวัดหรือที่ไม่ได้วัดของเครือข่ายก่อนหน้า

  • Tag - แท็กโค้ดต้นฉบับที่ตรวจพบการเปลี่ยนแปลง

Office.Telemetry.TelemetryActivityAggregationWindowStatistics​

รายงานจำนวนกลุ่มกิจกรรมแบบรวมและอินสแตนซ์ในแต่ละกิจกรรมที่ถูกอัปโหลด

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • GroupCount - จำนวนกิจกรรมแบบรวมที่ส่งข้อมูล

  • InstancesToSend - จำนวนของอินสแตนซ์ของกิจกรรมแบบรวมที่ส่งข้อมูล

Office.Telemetry.TelemetryUlsQueueUsage

การรายงานข้อผิดพลาดของสถานภาพการวัดและส่งข้อมูลทางไกล จำเป็นต้องใช้เพื่อตรวจสอบข้อมูลอื่นๆ (รวมถึง NSD)

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • AverageEventCount - จำนวนเหตุการณ์โดยเฉลี่ยในคิว

  • AverageQueueCB - ขนาดหน่วยความจำเฉลี่ยของคิว

  • PeakEventCount - จำนวนกิจกรรมสูงสุดของคิว

  • PeakQueueCB - ขนาดหน่วยความจำสูงสุดของคิว

  • QueueDisableRuleLimit - ขีดจำกัดเมื่อกฎการวัดและส่งข้อมูลทางไกลถูกปิดใช้งาน

Office.Telemetry.UlsQueueTopThrottlingTags​

รายงานแท็กสูงสุดที่สนับสนุนให้คิว ULS ปิดตัวลง

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • Tag0 - แท็กที่ใช้คิวมากที่สุด

  • Tag0Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag0 ใช้

  • Tag1 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2

  • Tag10 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 11

  • Tag10Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag10 ใช้

  • Tag11 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 12

  • Tag11Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag11 ใช้

  • Tag12 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 13

  • Tag12Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag12 ใช้

  • Tag13 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 14

  • Tag13Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag13 ใช้

  • Tag14 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 15

  • Tag14Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag14 ใช้

  • Tag1Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag1 ใช้

  • Tag2 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่สาม

  • Tag2Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag2 ใช้

  • Tag3 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่สี่

  • Tag3Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag3 ใช้

  • Tag4 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ห้า

  • Tag4Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag4 ใช้

  • Tag5 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่หก

  • Tag5Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag5 ใช้

  • Tag6 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่เจ็ด

  • Tag6Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag6 ใช้

  • Tag7 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่แปด

  • Tag7Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag7 ใช้

  • Tag8 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่เก้า

  • Tag8Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag8 ใช้

  • Tag9 - แท็กที่ใช้จำนวนคิวสูงที่สุดเป็นอันดับที่สิบ

  • Tag9Percent - เปอร์เซ็นต์ของคิวที่ tag9 ใช้

Office.Telemetry.VolumeTrackingData​

เมตริกติดตามปริมาณเหตุการณ์สำหรับเหตุการณ์การวัดและส่งข้อมูลทางไกล

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • EventThreshold - จำนวนอินสแตนซ์สูงสุดของเหตุการณ์เดียวที่สามารถส่งได้ในกรอบของเวลา

  • HighestEventCount - จำนวนอินสแตนซ์สูงสุดของเหตุการณ์เดียวที่ถูกส่งในกรอบนี้

  • HighestEventName - ชื่อของเหตุการณ์ที่มีจำนวนอินสแตนซ์สูงสุดในกรอบนี้

  • TimeWindowInSeconds - ระยะเวลาของกรอบเป็นวินาที

  • TotalEvents - จำนวนรวมของเหตุการณ์ที่ถูกส่งระหว่างกรอบ

  • UniqueEvents - จำนวนเหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำกันที่ถูกส่งระหว่างกรอบ

Office.Telemetry.WritePayloadsToDisk

ยืนยันว่าส่วนเฉพาะของไปป์ไลน์แบบดั้งเดิมนั้นกำลังทำงานบนแพลตฟอร์มที่ยังใช้งานอยู่

เขตข้อมูลต่อไปนี้จะมีการรวบรวม:

  • DetachedDuration - ระยะเวลาที่ถูกแยกออกเป็นไมโครวินาที