แชร์ผ่าน


DateTime.FromText

ไวยากรณ์

DateTime.FromText(text as nullable text, optional options as any) as nullable datetime

เกี่ยวกับ

datetimeสร้างค่า จากข้อความtextสําหรับแสดงแทน อาจมีพารามิเตอร์optionsที่เลือกได้ record เพื่อระบุคุณสมบัติเพิ่มเติม recordสามารถประกอบด้วยเขตข้อมูลต่อไปนี้:

  • Formattext: ค่าที่ระบุรูปแบบที่จะใช้ สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ไปที่ https://go.microsoft.com/fwlink/?linkid=2180104 และhttps://go.microsoft.com/fwlink/?linkid=2180105 การเว้นเขตข้อมูลนี้หรือการ null ให้ จะทําให้การแยกวิเคราะห์วันที่โดยใช้ความพยายามอย่างดีที่สุด

  • Culture: เมื่อ Format ไม่ใช่ null ให้ Culture ควบคุมตัวระบุรูปแบบบางอย่าง ตัวอย่างเช่น ใน "en-US" คือ ในขณะที่ ใน "MMM" "ru-RU" คือ"янв", "фев", "мар", ..."Jan", "Feb", "Mar", ..."MMM" เมื่อ Format คือ nullCulture จะควบคุมรูปแบบเริ่มต้นที่จะใช้ เมื่อ Culture ถูก null หรือเว้นไว้ Culture.Current จะถูกใช้

เพื่อสนับสนุนเวิร์กโฟลว์ options แบบดั้งเดิม อาจเป็นค่าข้อความ ซึ่งมีลักษณะการทํางานแบบเดียวกับ ถ้าoptions = [Format = null, Culture = options]

ตัวอย่าง 1

แปลง "2010-12-31T01:30:00" เป็นค่าวันที่เวลา

การใช้งาน

DateTime.FromText("2010-12-31T01:30:25")

เอาท์พุท

#datetime(2010, 12, 31, 1, 30, 25)

ตัวอย่าง 2

แปลง "2010-12-31T01:30:00.121212" เป็นค่าวันที่เวลา

การใช้งาน

DateTime.FromText("30 Dez 2010 02:04:50.369730", [Format="dd MMM yyyy HH:mm:ss.ffffff", Culture="de-DE"])

เอาท์พุท

#datetime(2010, 12, 30, 2, 4, 50.36973)

ตัวอย่างที่ 3

แปลง "2010-12-31T01:30:00" เป็นค่าวันที่เวลา

การใช้งาน

DateTime.FromText("2000-02-08T03:45:12Z", [Format="yyyy-MM-dd'T'HH:mm:ss'Z'", Culture="en-US"])

เอาท์พุท

#datetime(2000, 2, 8, 3, 45, 12)

ตัวอย่างที่ 4

แปลง "20101231T013000" เป็นค่าวันที่เวลา

การใช้งาน

DateTime.FromText("20101231T013000", [Format="yyyyMMdd'T'HHmmss", Culture="en-US"])

เอาท์พุท

#datetime(2010, 12, 31, 1, 30, 0)