อ่านในภาษาอังกฤษ

แชร์ผ่าน


Table.FromColumns

วากยสัมพันธ์

Table.FromColumns(lists as list, optional columns as any) as table

ประมาณ

สร้างตารางชนิด columns จากรายการ lists ที่มีรายการที่ซ้อนกันกับชื่อคอลัมน์และค่า ถ้าบางคอลัมน์มีค่ามากกว่าคอลัมน์อื่น ค่าที่ขาดหายไปจะถูกเติมด้วยค่าเริ่มต้น 'ค่าว่าง' ถ้าคอลัมน์เป็นค่าว่างได้

ตัวอย่างที่ 1

ส่งกลับตารางจากรายการชื่อลูกค้าในรายการ แต่ละค่าในรายการรายชื่อลูกค้าจะกลายเป็นค่าแถว และแต่ละรายการจะกลายเป็นคอลัมน์

การใช้งาน

Table.FromColumns({
    {1, "Bob", "123-4567"},
    {2, "Jim", "987-6543"},
    {3, "Paul", "543-7890"}
})

ผลลัพธ์ของ

Table.FromRecords({
    [Column1 = 1, Column2 = 2, Column3 = 3],
    [Column1 = "Bob", Column2 = "Jim", Column3 = "Paul"],
    [Column1 = "123-4567", Column2 = "987-6543", Column3 = "543-7890"]
})

ตัวอย่างที่ 2

สร้างตารางจากรายการคอลัมน์และรายการของชื่อคอลัมน์ที่ระบุ

การใช้งาน

Table.FromColumns(
    {
        {1, "Bob", "123-4567"},
        {2, "Jim", "987-6543"},
        {3, "Paul", "543-7890"}
    },
    {"CustomerID", "Name", "Phone"}
)

ผลลัพธ์ของ

Table.FromRecords({
    [CustomerID = 1, Name = 2, Phone = 3],
    [CustomerID = "Bob", Name = "Jim", Phone = "Paul"],
    [CustomerID = "123-4567", Name = "987-6543", Phone = "543-7890"]
})

ตัวอย่างที่ 3

สร้างตารางที่มีจํานวนคอลัมน์ต่อแถวที่แตกต่างกัน ค่าแถวที่หายไปเป็น null

การใช้งาน

Table.FromColumns(
    {
        {1, 2, 3},
        {4, 5},
        {6, 7, 8, 9}
    },
    {"column1", "column2", "column3"}
)

ผลลัพธ์ของ

Table.FromRecords({
    [column1 = 1, column2 = 4, column3 = 6],
    [column1 = 2, column2 = 5, column3 = 7],
    [column1 = 3, column2 = null, column3 = 8],
    [column1 = null, column2 = null, column3 = 9]
})