แสดงข้อความ วันที่ และเวลาในแอปพื้นที่ทำงาน
ใน Power Apps เพิ่มวันที่และเวลาให้กับแอปพื้นที่ทำงาน และจัดรูปแบบวันที่และเวลาให้แสดงรายละเอียดที่ถูกต้องหรือแสดงตำแหน่งที่ตั้งของคุณ คำนวณระยะเวลาระหว่างวันที่สองวัน หรือคำนวณวันที่ก่อนหรือหลังระยะเวลานับจากวันที่ที่คุณระบุ แปลงวันที่ไปหรือกลับจาก ค่าที่แยกเป็นวัน เดือน และปี และแปลงเวลาไปหรือกลับจาก ค่าที่แยกเป็นชั่วโมง นาที และวินาที
ตัวอย่างเช่น เพิ่มข้อมูลจากผู้ใช้เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น หรือการประชุมกับลูกค้า ข้อมูลจากแหล่งภายนอก หรือข้อมูลจากแอปอื่นที่สร้างขึ้นใน Power Apps ถ้าข้อมูลประกอบด้วยเวลาละเอียดระดับมิลลิวินาที ปัดขึ้นเป็นนาทีที่ใกล้ที่สุดเพื่อความง่าย คำนวณว่ายังเหลืออีกกี่วันก่อนจะถึงเหตุการณ์สำคัญ ถ้าคุณต้องการกำหนดเวลาประชุมลูกค้าทุก ๆ ห้าวัน คำนวณวันที่เหล่านั้นโดยอัตโนมัติ ถ้าวันที่ 10 พฤษภาคม 1985 ถูกเก็บไว้ในฟิลด์แยกต่างหากเป็นวัน เดือน และปี รวมค่าเหล่านั้นเป็นค่าเดียว ในทางกลับกัน แยกวันที่แบ่งออกเป็นค่าที่แยกต่างหาก ถ้าแอปของคุณจัดการรายการเหล่านั้นแยกจากกัน
ข้อกำหนดเบื้องต้น
- ลงทะเบียน สำหรับ Power Apps แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ โดยใช้ข้อมูลประจำตัวเดียวกับที่คุณใช้ในการลงทะเบียน
- สร้างแอปหรือเปิดแอปที่มีอยู่ใน Power Apps
- เรียนรู้วิธี กำหนดค่าตัวควบคุม ใน Power Apps
แสดงข้อความในตัวควบคุมป้ายชื่อ
แสดงข้อความในตัวควบคุม ป้ายชื่อ โดยการตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ตั้งค่าคุณสมบัตินี้ โดยการพิมพ์ลงในตัวควบคุมโดยตรง หรือโดยการพิมพ์นิพจน์ในแถบสูตร
- ถ้าคุณพิมพ์ลงในตัวควบคุมโดยตรง ตัวควบคุมจะแสดงตามสิ่งที่คุณพิมพ์
- ถ้าคุณพิมพ์นิพจน์ลงในแถบสูตร ตัวควบคุมจะแสดงผลลัพธ์ของนิพจน์
นี่คือตัวอย่างบางส่วน
เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ ที่มีชื่อว่า ShowText แล้วตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ เป็นสูตรนี้:
Now()ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณถูกตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งเป็น "en-us" วันที่และเวลาปัจจุบันจะปรากฏในรูปแบบนี้:
mm/dd/yyyy hh:mm AM/PMถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณถูกตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง เช่น "fr-fr" วันที่และเวลาปัจจุบันจะปรากฏในรูปแบบนี้:
dd/mm/yyyy hh:mm AM/PMตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowText ตามสูตรนี้:
DateDiff(Today(), DateValue("01/01/2020"))ตัวควบคุมแสดงจำนวนวันระหว่างวันนี้และ 1 มกราคม 2020 โดยใช้ฟังก์ชันเหล่านี้:
- DateDiff ซึ่งคำนวณจำนวนวัน ไตรมาส หรือปี ระหว่างวันที่สองวัน
- Today ซึ่งคำนวณค่าวันที่ปัจจุบัน
- DateValue ซึ่งแปลงสตริงสัญพจน์ ตามที่แสดงในเครื่องหมายอัญประกาศ ให้เป็นค่าที่สามารถคำนวณได้
เพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ ที่ชื่อ BirthDate และย้ายไปไว้ใต้ ShowText
ใน BirthDate พิมพ์เดือนและวันเกิดของคุณ (ตัวอย่างเช่น 05/18)
ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowText ตามสูตรนี้:
DateDiff(Today(), DateValue(BirthDate.Text))ShowText จะแสดงจำนวนวันระหว่างวันนี้และวันที่ที่คุณพิมพ์ลงใน BirthDate ถ้าวันเกิดของคุณได้ผ่านไปแล้วในปีนี้ ShowText จะแสดงเป็นค่าลบ
จัดรูปแบบวันที่และเวลาโดยใช้ DateTimeValue
แปลงวันที่และเวลาจากสตริงของข้อความให้เป็นค่า ซึ่งคุณสามารถจัดรูปแบบได้หลายรูปแบบ และใช้ในการคำนวณ ระบุรูปแบบ โดยใช้ตัวเลือกที่มีอยู่ภายใน และแบบกำหนดเอง
หมายเหตุ
ฟังก์ชัน DateTimeValue และ DateValue สามารถแปลงวันที่ในรูปแบบใด ๆ เหล่านี้ให้เป็นค่า:
- MM/DD/YYYY
- DD/MM/YYYY
- DD Mon YYYY
- Month DD, YYYY
เพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ ที่ชื่อ ArrivalDateTime แล้วพิมพ์วันที่และเวลาในรูปแบบนี้:
5/10/85 6:15 AMเพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ ที่ชื่อ ShowDate และตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ เป็นสูตรนี้:
DateTimeValue(ArrivalDateTime.Text)ShowDate แสดงข้อมูลเดียวกันกับที่คุณพิมพ์ แต่มีการแปลงจากข้อความเป็นค่า และจัดรูปแบบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ปีจะปรากฏเป็นเลขสี่หลัก แทนที่จะมีแค่สองหลัก
เปลี่ยนคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowDate เป็นสูตรนี้:
DateTimeValue(ArrivalDateTime.Text, "fr")ShowDate จะแสดงวันก่อนเดือน ตามที่ผู้ใช้ในฝรั่งเศสคาดหวัง
เคล็ดลับ
เพื่อแสดงรายการของตำแหน่งที่ตั้งอื่นใน Intellisense เอาเครื่องหมายอัญประกาศปิด และ fr ออกจากสูตร แต่ยังคงเครื่องหมายอัญประกาศเปิดเอาไว้:
เพื่อแสดงโดยใช้หนึ่งในรูปแบบภายใน เปลี่ยนคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowDate ให้เป็นสูตรนี้:
Text(DateTimeValue(ArrivalDateTime.Text), DateTimeFormat.LongDateTime)ShowDate จะแสดงวันของสัปดาห์ วันที่ และเวลา
เคล็ดลับ
พารามิเตอร์ DateTimeFormat สนับสนุนรูปแบบภายในอื่น ๆ มากมาย เพื่อแสดงรายการดังกล่าว เอา LongDateTime ออกจากสูตร
ในการใช้รูปแบบกำหนดเอง เปลี่ยนคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowDate เป็นสูตรนี้:
Text(DateTimeValue(ArrivalDateTime.Text), "mm/dd/yyyy hh:mm:ss.fff AM/PM")ShowDate จะแสดงค่าวันที่/เวลาในรูปแบบที่คุณระบุ รวมถึงหน่วยมิลลิวินาที
เคล็ดลับ
เพื่อปัดเศษเป็นหนึ่งในสิบ หรือหนึ่งในร้อยของวินาที ระบุ hh:mm:ss.f หรือ hh:mm:ss.ff ในสูตร
จัดรูปแบบวันที่โดยใช้ DateValue
เพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ ที่ชื่อ ArrivalDate แล้ว พิมพ์วันที่ในตาราง (ตัวอย่างเช่น 5/10/85)
เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ ที่ชื่อ FormatDate และตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ เป็นสูตรนี้:
DateValue(ArrivalDate.Text)FormatDate จะแสดงวันที่คุณพิมพ์ ยกเว้นปีจะปรากฏเป็นเลขสี่หลัก
ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ FormatDate เป็นสูตรนี้:
DateValue(ArrivalDate.Text, "fr")FormatDate จะแสดงวันก่อนเดือน เช่นเดียวกับที่ผู้ใช้ในฝรั่งเศสคาดหวัง
ในการใช้หนึ่งในรูปแบบภายใน ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ FormatDate เป็นสูตรนี้:
Text(DateValue(Startdate.Text), DateTimeFormat.LongDate)FormatDate จะแสดงวันของสัปดาห์ เดือน วัน และปี
ในการใช้รูปแบบกำหนดเอง ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ FormatDate เป็นสูตรนี้:
Text(DateValue(ArrivalDate.Text), "yy/mm/dd")FormatDate จะแสดงวันที่ในรูปแบบที่คุณระบุ
จัดรูปแบบเวลาโดยใช้ DateTimeValue
เพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ ที่ชื่อ ArrivalTime แล้ว พิมพ์ 6:15 AM ลงไปข้างใน
เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ ที่ชื่อว่า ShowTime
ในการใช้หนึ่งในรูปแบบภายใน ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowTime เป็นสูตรนี้:
Text(DateTimeValue(ArrivalTime.Text), DateTimeFormat.LongTime)ShowTime จะแสดงเวลาที่คุณระบุ รวมถึงวินาที
ในการใช้หนึ่งในรูปแบบภายใน ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ ShowTime เป็นสูตรนี้:
Text(DateTimeValue(ArrivalTime.Text), "hh:mm:ss.fff AM/PM")ShowTime จะแสดงเวลาที่คุณระบุ รวมถึงวินาทีและมิลลิวินาที
เคล็ดลับ
เพื่อปัดเป็นหนึ่งในสิบ หรือหนึ่งในร้อยวินาที ระบุ hh:mm:ss.f หรือ hh:mm:ss.ff ในสูตร
แสดงเวลาระหว่างวันที่
เพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ สองตัว ที่ชื่อว่า Start และ End
พิมพ์ 4/1/2015 ลงใน Start และพิมพ์ 1/1/2016 ลงใน End
เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ ที่ชื่อ DateDiff และตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ เป็นสูตรนี้:
DateDiff(DateValue(Start.Text), DateValue(End.Text))DateDiff จะแสดง 275 ซึ่งเป็นจำนวนวันระหว่าง วันที่ 1 เมษายน 2015 และวันที่ 1 มกราคม 2016
ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ DateDiff เป็นสูตรนี้:
DateDiff(DateValue(Start.Text), DateValue(End.Text), Months)DateDiff จะแสดง 9 ซึ่งเป็นจำนวนเดือนระหว่าง วันที่ 1 เมษายน 2015 และวันที่ 1 มกราคม 2016 แทนที่ Months ด้วย Quarters หรือ Years เพื่อแสดงเวลาในหน่วยเหล่านั้น
ระบุวันที่ก่อนหรือหลังอีกวันที่
เพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ ที่ชื่อว่า Start และพิมพ์ 5/10/1985 ลงไปข้างใน
เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ ตั้งชื่อว่า DateAdd แล้วตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ เป็นสูตรนี้
DateAdd(DateValue(Start.Text), 3)DateAdd จะแสดง 5/13/1985 ซึ่งอยู่ถัดไป 3 วันจากวันที่ใน Start
ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของ DateAdd เป็นสูตรนี้:
DateAdd(DateValue(Start.Text), -3)DateAdd จะแสดง 5/7/1985 ซึ่งก็คือ 3 วันก่อนวันที่ใน Start
เปลี่ยนคุณสมบัติ ข้อความ ของ DateAdd เป็นสูตรนี้:
DateAdd(DateValue(Start.Text), 3, Months)ป้ายชื่อจะแสดง 8/10/1985 ซึ่งก็คือสามเดือนหลังจากวันที่ใน Start แทนที่ Months ด้วย Quarters หรือ Years เพื่อระบุวันที่เป็นจำนวนไตรมาสหรือปี ก่อนหรือหลังจากวันที่ใน Start
คำนวณวันที่ตามปี เดือน และวัน
เพิ่มตัวควบคุม ดรอปดาวน์ สามตัว ที่ชื่อว่า Year Month และ Day
ตั้งค่าคุณสมบัติ รายการ ของ Year เป็นสูตรนี้:
Table({Year:"2014"}, {Year:"2015"}, {Year:"2016"})ตั้งค่าคุณสมบัติ รายการ ของ Month เป็นสูตรนี้:
Table({Month:"1"}, {Month:"2"}, {Month:"3"}, {Month:"4"}, {Month:"5"}, {Month:"6"}, {Month:"7"}, {Month:"8"}, {Month:"9"}, {Month:"10"}, {Month:"11"}, {Month:"12"})ตั้งค่าคุณสมบัติ รายการ ของ Day เป็นสูตรนี้:
Table({Day:"1"}, {Day:"2"}, {Day:"3"}, {Day:"4"}, {Day:"5"}, {Day:"6"}, {Day:"7"}, {Day:"8"}, {Day:"9"}, {Day:"10"}, {Day:"11"}, {Day:"12"}, {Day:"13"}, {Day:"14"}, {Day:"15"}, {Day:"16"}, {Day:"17"}, {Day:"18"}, {Day:"19"}, {Day:"20"}, {Day:"21"}, {Day:"22"}, {Day:"23"}, {Day:"24"}, {Day:"25"}, {Day:"26"}, {Day:"27"}, {Day:"28"}, {Day:"29"}, {Day:"30"}, {Day:"31"})เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ แล้วตั้งค่าคุณสมับติ ข้อความ เป็นสูตรนี้:
Text(Date(Value(Year.SelectedText.Value), Value(Month.SelectedText.Value), Value(Day.SelectedText.Value)), DateTimeFormat.LongDate)Wednesday, January 1, 2014 จะแสดงอยู่ตามค่าเริ่มต้น เลือกค่าที่ต่างออกไปใน ดรอปดาวน์ ตัวควบคุมเพื่อเปลี่ยนวันที่ในตัวควบคุม ป้ายชื่อ
คุณอาจจำเป็นต้องแปลงข้อมูลที่คุณไม่ได้คาดหวัง ถ้าคุณเพิ่มตัวควบคุม ป้อนข้อความ แทนที่จะเป็นตัวควบคุม**ดรอปดาวน์** ผู้ใช้อาจใส่วันไม่ถูกต้อง เช่น 45 พฤษภาคม ได้ ฟังก์ชัน Date จัดการข้อมูลพิเศษด้วยวิธีต่อไปนี้:
- ถ้าปีมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 1899 (รวมค่านี้ด้วย) แล้ว ฟังก์ชันจะบวกค่านั้นกับ 1900 เพื่อคำนวนหาปี
- ถ้าปีมีค่าตั้งแต่ 1900 ถึง 9999 (รวมค่านี้ด้วย) ฟังก์ชันจะใช้ค่านั้นเป็นปี
- ถ้าปีมีค่าน้อยกว่า 0 หรือ เท่ากับหรือมากกว่า 10000 ฟังก์ชันจะคืนค่าความผิดพลาด
- ถ้าเดือนมีค่ามากกว่า 12 ฟังก์ชันจะบวกจำนวนเดือนนั้น กับเดือนแรกของปีที่ระบุ
- ถ้าเดือนมีค่าน้อยกว่า 1 ฟังก์ชันจะลบจำนวนเดือน บวก 1 จากเดือนแรกของปีที่ระบุ
- ถ้าวันมีค่ามากกว่าจำนวนวันในเดือนที่ระบุไว้ ฟังก์ชันจะบวกจำนวนวันกับวันแรกของเดือน และส่งกลับวันที่สอดคล้องกันจากเดือนถัดไป
- ถ้าวันมีค่าน้อยกว่า 1 ฟังก์ชันจะลบจำนวนวันบวก 1 จากวันแรกของเดือนที่ระบุ
คำนวณเวลาจากชั่วโมง นาที และวินาที
เพิ่มรายการ ดรอปดาวน์ สองรายการ ที่ชื่อว่า Hour และ Minute
ตั้งค่าคุณสมบัติ รายการ ของ Hour ด้วยสูตรนี้:
Table({Hour:"9"}, {Hour:"10"}, {Hour:"11"}, {Hour:"12"}, {Hour:"13"}, {Hour:"14"}, {Hour:"15"}, {Hour:"16"}, {Hour:"17"})ตั้งค่าคุณสมบัติ รายการ ของ Minute ด้วยสูตรนี้:
Table({Minute:"0"}, {Minute:"15"}, {Minute:"30"}, {Minute:"45"})เพิ่มตัวควบคุม ป้ายชื่อ แล้วตั้งค่าคุณสมับติ ข้อความ เป็นสูตรนี้:
Text(Time(Value(Hour.SelectedText.Value), Value(Minute.SelectedText.Value),0), DateTimeFormat.ShortTime)เลือก 15 ใน Hour และ 45 ใน Minute
ตัวควบคุม ป้ายชื่อ จะแสดง 3:45 PM
คุณสามารถเพิ่มรายการใน Hour และ Minute เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกจากช่วงชั่วโมงที่กว้างขึ้น และเพิ่มความแม่นยำของนาทีได้ คุณยังสามารถเพิ่มตัวควบคุม ดรอปดาวน์ ตัวที่สาม เพื่อให้ผู้ใช้สามารถระบุวินาทีได้ ถ้าคุณเพิ่มรายการที่สาม ตั้งค่าคุณสมบัติ ข้อความ ของตัวควบคุม ป้ายชื่อ ด้วยนิพจน์ต่อไปนี้:
Text(Time(Value(Hour.Selected.Value), Value(Minute.Selected.Value), Value(Second.Selected.Value)), DateTimeFormat.LongTime)
ดูเพิ่มเติม
ตัวอย่างของตัวควบคุมตัวเลือกวันที่
หมายเหตุ
บอกให้เราทราบเกี่ยวกับภาษาที่คุณต้องการในคู่มือ ทำแบบสำรวจสั้นๆ (โปรดทราบว่าแบบสำรวจนี้เป็นภาษาอังกฤษ)
แบบสำรวจนี้ใช้เวลาทำประมาณเจ็ดนาที ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคล)